วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559
บทที่ 7 เทคนิคการวางใจ 第七章安放心的技巧
บทที่ 7 เทคนิคการวางใจ
第七章安放心的技巧
ดังที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า ใจของเราเหมือนกับลิงที่วิ่งวุ่นไปมา มักจะซัดส่ายอยู่เสมอ เราเองกำลังเรียนรู้ในการฝึกหัดจับลิงให้ค่อยๆ หยุดนิ่งอยู่กับที่ หลักที่จะจับลิงไว้ไม่ให้ดิ้นรนไปมามีความสำคัญ ถ้าหากเราได้หลักที่มั่นคง ลิงก็จะไม่วิ่งไปไหนต่อไหนได้อีก แต่ถ้าได้หลักที่ไม่มั่นคง ลิงอาจจะวิ่งวุ่นต่อไปได้ เราจึงควรจะต้องเรียนรู้หลักหรือที่ที่ควรจะนำใจไปวางไว้ว่าอยู่ ณ จุดไหน และมีวิธีการทำให้ใจอยู่ ณ ที่นั้นอย่างไร前面我们曾经有介绍,我们的心如同不安的猴子,在不停地跑动。 而我们现在正学习训练猴子的原则,让它慢慢的安静下来。为了避免猴 子挣扎,这种原则起到了关键性的作用。当我们掌握了原则,猴子就不 会再来回不停地跑跳。但如果我们掌握的原则不够稳固,猴子就还会继 续不停地跳动。因此,我们一定要掌握这些原则,去了解应该将心安放 在何处,以及掌握将心安放在身体中心点的方法。
7.1 ความหมายของการวางใจ
การวางใจ หมายถึง การนำใจของเรามาตั้งไว้ ณ ฐานที่ตั้งของใจ
คือศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เพื่อให้ใจของเราเข้าถึงความเป็นสมาธิ
และเข้าถึงกลางหรือเส้นทางสายกลางอันเป็นเส้นทางที่จะนำใจ
ให้เข้าสู่หนทางภายใน จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกายในที่สุด
7. 1安放心的含义
安放心,意思是:引领我们的心到心的安放处,也就是身体中心第 七点。这会让我们的心能够宁静,并进入中央或中道,这个过程将引领 心到达内在的中心点,并在最后证入法身。
7. 1安放心的含义
安放心,意思是:引领我们的心到心的安放处,也就是身体中心第 七点。这会让我们的心能够宁静,并进入中央或中道,这个过程将引领 心到达内在的中心点,并在最后证入法身。
7.2 ความสำคัญของการวางใจ
จากที่เคยศึกษามาแล้วว่าประเภทของสมาธิจำแนกตามการวางใจได้ 3 ประเภท ได้แก่
ประเภทวางใจไว้นอกร่างกาย วางใจในตัวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
และวางใจไว้ในร่างกายที่ศูนย์กลางกาย
7. 2安放心的重要性
从以前的学习可以得知,禅定的类型按照心的安放来分类,可分为 三种:(1)将心安放在身体外(2)将心安放在身体内的某一部分(3) 将心安放在身体的中心点
วิธีปฏิบัติที่มีอยู่ในโลกมีหลายวิธี แต่ที่ปรากฏในวิสุทธิมรรคมี 40 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีสามารถปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายได้ทั้งสิ้น แต่ที่ไม่เข้าถึงพระธรรมกาย และไม่รู้จักคำว่าธรรมกาย เพราะวางใจไม่ถูกที่ คือ เอาใจส่งออกไปข้างนอกบ้าง เอาใจไปตั้งไว้ที่ฐานอื่นบ้าง ไม่ได้ตั้งไว้ที่ฐานที่ 7 จึงทำให้ไม่พบพระธรรมกาย การเข้าถึงพระธรรมกายจะเกิดขึ้นเมื่อวางใจถูกส่วนอยู่ตรงที่ศูนย์กลางกาย
世界上有很多的修行方法,在《清净道论》里面就出现有四十种方 法,每一种方法都可以用来修行,也全部都能够证入法身。对于不能证 入法身或不了解“法身”这个词的人,是因为他没有将心安放在正确的 地方,即是将心放到外面或者将心安放在别的地方等,而没有将心好好 地安放在身体中心第七点,因此就没有看见法身。因为只有在将心放置 到身体中心点的基础上,法身才会出现。
ดังนั้น การวางใจไว้ถูกที่ จึงมีความสำคัญมากต่อการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย วิธีการวางใจประเภทเดียวที่จะทำให้เข้าถึงพระธรรมกายได้ คือจะต้องวางใจไว้ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
因此,将心安放在正确的地方,将会对修行及证入法身,起到非常 重要的作用。唯一一种能够安放心并证入法身的方法,就是将心安放在 身体中心第七点。
7. 2安放心的重要性
从以前的学习可以得知,禅定的类型按照心的安放来分类,可分为 三种:(1)将心安放在身体外(2)将心安放在身体内的某一部分(3) 将心安放在身体的中心点
วิธีปฏิบัติที่มีอยู่ในโลกมีหลายวิธี แต่ที่ปรากฏในวิสุทธิมรรคมี 40 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีสามารถปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายได้ทั้งสิ้น แต่ที่ไม่เข้าถึงพระธรรมกาย และไม่รู้จักคำว่าธรรมกาย เพราะวางใจไม่ถูกที่ คือ เอาใจส่งออกไปข้างนอกบ้าง เอาใจไปตั้งไว้ที่ฐานอื่นบ้าง ไม่ได้ตั้งไว้ที่ฐานที่ 7 จึงทำให้ไม่พบพระธรรมกาย การเข้าถึงพระธรรมกายจะเกิดขึ้นเมื่อวางใจถูกส่วนอยู่ตรงที่ศูนย์กลางกาย
世界上有很多的修行方法,在《清净道论》里面就出现有四十种方 法,每一种方法都可以用来修行,也全部都能够证入法身。对于不能证 入法身或不了解“法身”这个词的人,是因为他没有将心安放在正确的 地方,即是将心放到外面或者将心安放在别的地方等,而没有将心好好 地安放在身体中心第七点,因此就没有看见法身。因为只有在将心放置 到身体中心点的基础上,法身才会出现。
ดังนั้น การวางใจไว้ถูกที่ จึงมีความสำคัญมากต่อการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย วิธีการวางใจประเภทเดียวที่จะทำให้เข้าถึงพระธรรมกายได้ คือจะต้องวางใจไว้ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
因此,将心安放在正确的地方,将会对修行及证入法身,起到非常 重要的作用。唯一一种能够安放心并证入法身的方法,就是将心安放在 身体中心第七点。
7.3 ฐานที่ตั้งของใจ
ฐานที่ตั้งของใจ ตามที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี แนะนำไว้มีอยู่ 7 ฐาน คือ
ฐานที่ 1 ปากช่องจมูก ถ้าเป็นหญิงก็ตรงปากช่องจมูกซ้าย ถ้าเป็นชายก็ตรงปากช่องจมูกขวา
ฐานที่ 2 เพลาตา บริเวณที่น้ำตาไหล ถ้าเป็นหญิงก็ตรงเพลาตาซ้าย ถ้าเป็นชายก็ตรง เพลาตาขวา
ฐานที่ 3 ในกลางกั๊กศีรษะตรงจอมประสาท ได้ระดับพอดีกับตา แต่อยู่ข้างใน (นึกเอาเส้นด้าย 2 เส้น ขึงให้ตึงจากกึ่งกลางระหว่างหัวตาทั้งสองข้างทะลุท้ายทอย กกหูซ้ายทะลุหูขวา ตรงจุดตัดคือ กลางกั๊ก)
ฐานที่ 4 ช่องเพดาน บริเวณเหนือลิ้นไก่ ตรงที่รับประทานอาหารแล้วอาหารสำลัก
ฐานที่ 5 ปากช่องคอ เหนือลูกกระเดือก อยู่ตรงกลางช่องคอพอดี
ฐานที่ 6 ศูนย์กลางกายระดับสะดือ ตรงกับสะดือแต่อยู่กลางตัว ฐานที่ตั้งจิตทั้ง 6 ฐานนี้ เป็นเพียงฐานที่ตั้งจิตได้ชั่วคราว จึงไม่ควรตั้งไว้นานเกินไป จนกระทั่งกลายเป็นนิสัย ต้องรีบหาโอกาสเลื่อนไปตั้งไว้ที่ฐานถาวร ทันทีที่จิตเริ่มหยุด คือ ฐานที่ 7
ฐานที่ 7 ศูนย์กลางกายที่ตั้งจิตถาวรอยู่ตรงเหนือฐานที่ 6 โดยย้อนกลับขึ้นมาข้างบน 2 นิ้วมือ (นึกขึงเส้นด้วย 2 เส้น ขึงให้ตึงจากสะดือทะลุหลังจากเอวซ้ายทะลุเอวขวา ตรงเหนือจุดตัดขึ้นไป 2 นิ้วมือ คือ ฐานที่ 7 โดย 2 นิ้วมือในที่นี้ หมายถึง การนำนิ้วชี้กับนิ้วกลางวางซ้อนกัน)
ฐานที่ตั้งของใจที่เป็นฐาน ในการวางใจในการปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย คือ ฐานที่ 7 ซึ่งอยู่ ณ ศูนย์กลางกายของทุกๆ คน
7. 3心的定点
按照帕蒙昆贴牟尼袓师的指导介绍,心的定点有七处。即为:
第一处定点:鼻孔。如果是女生则是在鼻子的左边,如果是男生则是在 鼻子的右边。
第二处定点:内眼角。如果是女生则是在内眼角的左边,如果是男生则 是在内眼角的右边。
第三处定点:脑部中心点。跟眼睛同处于一个水平线,只是它处在脑部 中央。(在大脑里意念出两条直线,一条是以两眼之间的中 心为起点,连接至后脑,而另一条则是连接左右两边的耳 朵,最后两条线的交叉点就是脑部的中心点)
第四处定点:口腔上颚区。腭垂(悬雍垂,俗称小舌)的上方区域,即 我们进餐时,咀嚼食物的地方。
第五处定点:喉头。喉结的上方,刚好处在喉咙的中间。
第六处定点:与肚脐处于同一水平高度的腹部中心。这第六处定点只是 一个临时安放心的地方,所以不应安放太久,以免形成一 种习惯。而必须立即寻找机会,将心转移至永久宁静的地 方,即是:第七处定点。
第七处定点:心的安放处约在第六个定点正上方两指宽的高度处。(意念 出两条直线,一条以肚脐为起点,垂直交叉在连接左右两 边腰部的另一条直线上,而两线的交点再往上两指宽的地 方就是第七处定点。这里的两指宽指的是食指与中指重叠 的高度。)心的安放处,即是将心安放在该定点上,从而证 入法身,也就是在每个人身体中心的第七点。
ฐานที่ 1 ปากช่องจมูก ถ้าเป็นหญิงก็ตรงปากช่องจมูกซ้าย ถ้าเป็นชายก็ตรงปากช่องจมูกขวา
ฐานที่ 2 เพลาตา บริเวณที่น้ำตาไหล ถ้าเป็นหญิงก็ตรงเพลาตาซ้าย ถ้าเป็นชายก็ตรง เพลาตาขวา
ฐานที่ 3 ในกลางกั๊กศีรษะตรงจอมประสาท ได้ระดับพอดีกับตา แต่อยู่ข้างใน (นึกเอาเส้นด้าย 2 เส้น ขึงให้ตึงจากกึ่งกลางระหว่างหัวตาทั้งสองข้างทะลุท้ายทอย กกหูซ้ายทะลุหูขวา ตรงจุดตัดคือ กลางกั๊ก)
ฐานที่ 4 ช่องเพดาน บริเวณเหนือลิ้นไก่ ตรงที่รับประทานอาหารแล้วอาหารสำลัก
ฐานที่ 5 ปากช่องคอ เหนือลูกกระเดือก อยู่ตรงกลางช่องคอพอดี
ฐานที่ 6 ศูนย์กลางกายระดับสะดือ ตรงกับสะดือแต่อยู่กลางตัว ฐานที่ตั้งจิตทั้ง 6 ฐานนี้ เป็นเพียงฐานที่ตั้งจิตได้ชั่วคราว จึงไม่ควรตั้งไว้นานเกินไป จนกระทั่งกลายเป็นนิสัย ต้องรีบหาโอกาสเลื่อนไปตั้งไว้ที่ฐานถาวร ทันทีที่จิตเริ่มหยุด คือ ฐานที่ 7
ฐานที่ 7 ศูนย์กลางกายที่ตั้งจิตถาวรอยู่ตรงเหนือฐานที่ 6 โดยย้อนกลับขึ้นมาข้างบน 2 นิ้วมือ (นึกขึงเส้นด้วย 2 เส้น ขึงให้ตึงจากสะดือทะลุหลังจากเอวซ้ายทะลุเอวขวา ตรงเหนือจุดตัดขึ้นไป 2 นิ้วมือ คือ ฐานที่ 7 โดย 2 นิ้วมือในที่นี้ หมายถึง การนำนิ้วชี้กับนิ้วกลางวางซ้อนกัน)
ฐานที่ตั้งของใจที่เป็นฐาน ในการวางใจในการปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย คือ ฐานที่ 7 ซึ่งอยู่ ณ ศูนย์กลางกายของทุกๆ คน
7. 3心的定点
按照帕蒙昆贴牟尼袓师的指导介绍,心的定点有七处。即为:
第一处定点:鼻孔。如果是女生则是在鼻子的左边,如果是男生则是在 鼻子的右边。
第二处定点:内眼角。如果是女生则是在内眼角的左边,如果是男生则 是在内眼角的右边。
第三处定点:脑部中心点。跟眼睛同处于一个水平线,只是它处在脑部 中央。(在大脑里意念出两条直线,一条是以两眼之间的中 心为起点,连接至后脑,而另一条则是连接左右两边的耳 朵,最后两条线的交叉点就是脑部的中心点)
第四处定点:口腔上颚区。腭垂(悬雍垂,俗称小舌)的上方区域,即 我们进餐时,咀嚼食物的地方。
第五处定点:喉头。喉结的上方,刚好处在喉咙的中间。
第六处定点:与肚脐处于同一水平高度的腹部中心。这第六处定点只是 一个临时安放心的地方,所以不应安放太久,以免形成一 种习惯。而必须立即寻找机会,将心转移至永久宁静的地 方,即是:第七处定点。
第七处定点:心的安放处约在第六个定点正上方两指宽的高度处。(意念 出两条直线,一条以肚脐为起点,垂直交叉在连接左右两 边腰部的另一条直线上,而两线的交点再往上两指宽的地 方就是第七处定点。这里的两指宽指的是食指与中指重叠 的高度。)心的安放处,即是将心安放在该定点上,从而证 入法身,也就是在每个人身体中心的第七点。
7.4 วิธีการวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย
การวางใจด้วยการทำใจให้หยุด นิ่ง เฉยๆ ณ ฐานที่ 7 มีวิธีการในการปฏิบัติดังต่อไปนี้
7.4.1 การวางใจเมื่อใจยังไม่หยุด
7.4 安放心于身体中心点的方法
1) สำรวจทางเดินของจิต
ในการวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย บางครั้งเป็นการยากสำหรับผู้ฝึกใหม่ เพราะไม่รู้ว่า ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 อยู่ ณ จุดใด และในการฝึกใจมักมีเรื่องคิดต่างๆ มากมาย ทำให้ไม่สามารถวางใจเฉยๆ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ได้ จึงต้องใช้วิธีการวางใจ ณ ฐานต่างๆ เพื่อให้ใจสงบ จนกระทั่งสามารถวางใจไว้ ณ ฐานที่ 7 ได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้”เรามาเริ่มสำรวจดูฐานทั้ง 7 ฐาน โดยเริ่มจากฐานที่ 1 ก่อนว่า ใจเราทำความรู้สึกตรงฐานไหนถึงจะสบาย ถ้าสมมุติว่าเราเริ่มปากช่องจมูกฐานที่ 1 โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงหญิงซ้าย ชายขวา นิ่งๆ ไว้ ลองดูว่าสบายไหม ถ้าไม่สบาย เลื่อนเปลือกตาขึ้นมาดู ฐานที่ 2 แบบปรือๆ ตานะ ปรือๆ อย่าปิดสนิท
将心静止、宁静的安放在身体中心第七点,可以按照以下的方法来执行:
7.4.1在心还没有静止时安放心
1)观察心的路径
将心安放在身体中心点的这一环节里,有时对于初学者来说可能有 些难。因为不了解身体中心第七点在哪里,以及心会经常去想很多的事 情,不能随意的安放在身体中心第七点。因此,为了能让心宁静,需要 将心安放在各个定点上,直到能最后安放于身体中心的第七点。举例如下: 我们来观察一下身体的七个定点,从第一个定点开始,看看哪个定 点能够让我们的心有舒服的感觉。如果我们从鼻孔这一个定点开始,先不用去意念男右女左的问题。而是先宁静下来,看是否舒服,如果不 舒服,就轻轻地合上眼皮,不必紧闭,然后来看第二个定点一一内眼角。
ดูฐานที่ 2 ลองดูว่าสบายไหม ถ้าใครสบายฐานไหนเอาตรงนั้นนะ ถ้าสบายเราก็อยู่ตรงนี้ นิ่ง จะภาวนา สัมมาอะระหัง ด้วยก็ได้ ไม่ภาวนาก็ไม่เป็นไร ถ้าฐานที่ 2 ยังไม่สบาย ค่อยๆ เหลือบ เหลือบตา เหลือกค้างขึ้นไป เหมือนเรามองเกาะขอบหน้าผาก เรื่อยขึ้นไป ไปลองอยู่ถึงฐานที่ 3 ไหม ลองดู เพราะฐานที่ 3 อยู่กลางกั๊กศีรษะระดับเดียวกับหัว ถ้าไม่ถึง มันอยู่กลาง อยู่ด้านบนศีรษะ ก็อยู่ตรงนั้นก่อน หรือค่อนสุดตรงไหล่ผม สมมุติไปได้แค่นั้น ก็ให้เอาตรงนั้นก่อน นิ่งเฉยๆ ถ้าสบายก็อยู่ตรงนั้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็มาลงเอง เพราะเป้าหมายสุดท้ายเราคือ เราจะเอาใจมาวางไว้ฐานที่ 7 แต่เราเริ่มต้นจากฐาน ที่ 1, 2 เอาพอถึง ได้แค่ 2 ครึ่ง ไม่ถึง 3 เอาแค่ 2 ครึ่ง ก็เฉยๆ อยู่ตรงนั้นไปก่อน
再看下第二个定点是否舒服,如果哪个定点感觉到舒服,就应定在 哪个定点上。在该点静止下来,同时可默念“三玛阿罗汉”,或不默念也 可以。如果在第二个定点时还感觉不到舒服,就将眼珠往内看,然后慢 慢将心转移上去,看是否能够到达第三个定点,因为第三个定点就是脑 部的中心点。如果没能达到,而只是到了脑部中心点的上方,那就让它 先处在那里,然后宁静下来。如果那里一直感觉到很舒服,就让心先定 在那里,等一下它会自然的落在第三定点中。我们的最终目标是:将心 安放在身体中心的第七个定点中。不过还是应从第一个定点开始,然后 到达第二个定点。
ถ้ารู้สึกโปร่ง ก็เลื่อน สมมุติเลื่อนมาฐานที่ 3 มากลางกั๊กศีรษะได้ก็อยู่ อยู่ตรงนั้น นิ่ง ใครชอบ ฐานที่ 4 ก็เลื่อนมา ถ้ารู้สึกว่า ฐานที่ 4 สบาย เพดานปาก ช่องปากที่อาหารสำลัก ก็อยู่ตรงนี้ นิ่งเฉย ๆ ใจใสๆ ภาวนา สัมมาอะระหัง ก็ได้ ไม่ภาวนาก็ไม่เป็นไร
如果心感觉到舒畅,就继续移动,假如能够转移到第三个定点一一 脑部的中心点,就让心先定在那里,然后让心宁静。如果感觉第四个定 点很舒服,就可以转移至第四个定点一一口腔上颚区。然后在那里自然 地宁静下来,此时心会非常的清澈透明,可以默念“三玛阿罗汉”,或不 默念也没有关系。
แล้วลองค่อยๆ เลื่อนมาฐานที่ 5 ปากช่องคอเหนือลูกกระเดือก เริ่มยาก ไม่เป็นไร ปล่อยไป กลางท้องเหมือนกลืนเข้าไปอยู่กลางท้อง ตรงฐานที่ 6 เพราะฐานที่ 6 กับ 7 มันใกล้กัน มันห่างกันแค่ 2 นิ้วมือ ถ้าฐานที่ 6 ได้ 7 ก็ได้ มันใกล้กัน เราก็ทึกทักเอาก็แล้วกัน ฐานที่ 7 นิ่ง ใช่เลย ประมาณนี้เลย นิ่งเฉยอยู่ตรงนี้”1)
然后慢慢的移动至第五个定点一一喉结上方的喉头。开始时有些难, 但不要紧,继续的将它引入肚子中,就好像被吞进肚子一般,来到了第 六个定点。因为第六个定点和第七个定点很相近,只是有两个手指的间 隔而已。如果能够达到第六个定点,那么第七个定点也会达到。因为它 们非常的接近,所以我们先认为这就是第七点,然后慢慢的宁静在这点上。1
2) การนำใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 อย่างเบาสบาย
พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์กล่าวไว้ว่า “ ในการวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกายนั้น จะว่ายาก ก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย วางใจให้มันเป็น แต่ไม่ทิ้งหลัก สบายๆ วางสบายๆ เบาๆ สบายๆ อย่างต่อเนื่อง”2)
2)轻松的将心安放在身体中心第七点
帕拉帕哇那威素(法胜法师)开示道:“将心安放在身体中心点这一 个环节,说难也难,说容易也容易。要懂得安放心,但不要摒弃舒服这 一原则,要一直的让心处在轻松舒服的状态中。2
โดยในการวางใจให้นิ่งๆ เฉยๆ ให้รักษาความสงบให้ต่อเนื่อง พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ แนะว่า อย่ากลัวว่าไม่ได้ ใจไม่สงบไม่เป็นไร นึกไม่ออกก็ไม่เป็นไรให้รักษาใจนิ่งๆ ไว้ก่อน
因此,让心静止的同时,还应继续保持心的宁静。帕拉帕哇那威素 (法胜法师)指导说:“不要害怕不行,心不宁静不要紧,意念不出也不 要紧,先学习让心止歇。”
นอกจากนี้ในการวางใจที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 นอกจากต้องไม่ทิ้งหลักสบายๆ เบาๆ อย่างต่อเนื่องแล้ว ก็ไม่ควรกังวลกับศูนย์กลางกายมากเกินไป ไม่ต้องกังวลว่ามันตรงไม่ตรง ให้ทึกทัก เอาจุดที่สบาย เฉพาะตรงนั้น คือศูนย์กลางกายก็พอ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 จะเห็นชัด ก็ต่อเมื่อใจหยุดนิ่งแล้ว แต่ถ้าใจยังไม่หยุดไม่นิ่งก็ให้คาดคะเนประมาณเอาว่า เป็นศูนย์กลางกายฐานที่ 7 อยู่กลางท้องของเรา
除了之外,将心安放在身体中心第七点,不应放弃轻松舒服的原则, 也应过度的担心身体中心点,更不用担心是否处在那里,只要感觉到当 下所处的点是舒服的定点就好。当心宁静的那一刻,身体中心第七点就 会清晰的显现。但如果心还没有静止,没有宁静下来,那就应先假设中 心第七点就在我们的腹部中央。
ในกรณีถ้าใจนิ่งๆ เฉยๆ ณ จุดที่สบาย และเรามีความพึงพอใจแล้ว แต่อยู่ตรงอื่น ก็ให้อยู่ตรงนั้น ไม่ต้องแสวงหาศูนย์กลางกาย ให้เอาโลกเป็นศูนย์กลาง เพราะตอนนั้นมันจะเคว้งคว้าง เหมือนอยู่ในอวกาศ ให้นิ่งอย่างเดียว คิดว่าโลกคือศูนย์กลางกาย แล้วก็นิ่งๆ และอย่าคิดว่า นิ่งนานขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่มีอะไร ให้ดู ต้องไม่มีความคิดแบบนี้ ไม่ว่าจะนิ่งนานแค่ไหน ว่างๆ ไปอย่างนั้น เรื่อยๆ ไม่ช้าเดี๋ยวก็เห็นที่หมายเอง เดี๋ยวใจจะเคลื่อนไปสู่จุดที่ต้องการเอง แต่ถ้าหากเราคิดว่า ไม่เห็นอะไรเลย เมื่อไหร่มันจะมีสักที จิตมันจะถอยมานับหนึ่งใหม่ เพราะจิตหยาบ ให้ดูนิ่งๆ เฉยๆ สบายๆ
如果心能够在舒服的点上静止下来,并感到很满足,虽然那时心是 处在别的地方也罢,那就让它先处在那里,而不用去寻求身体的中心点, 让世界成为中心点。因为那个时候它还在浮动,就好像处于太空中一般。 此时只需要宁静就好,想象世界就是中心点,然后宁静下来,同时不要 去想静止了那么久,怎么什么东西都没有看见。不要有这样的想法,不 管宁静多么的久,都要如此的持续下去。不久就会自然的看见想要看的 东西,而心也会自然的转移到应去的地方。但如果我们总是想,自己什 么都看不见,什么时候才有机会看见,那么心就会倒退回到原点,重新 开始意念,因为此时的心很粗糙,我们应该要轻松舒服的意念。
หรือในการวางใจที่ศูนย์กลางกาย เราอาจจะทำความรู้สึกว่า “ เราอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ที่ขยายกว้างออกไปเต็มห้อง เต็มสภา หรือสุดขอบฟ้า รู้สึกว่าจะสบาย สบายอย่างไร ให้เอาอย่างนั้นไปก่อน เริ่มต้นตรงไหนก็ได้ แต่ตอนท้ายต้องศูนย์กลางกายฐานที่ 7”3)
将心安放于身体中心点时,我们可以感觉:“自己处在身体中心第七 点,然后慢慢地扩大到填满整个屋子、会场或直至天际。感觉到非常的 舒服,先保持如此的状态,从哪里开始都可以,但是最后一定要回归到 身体中心第七点。1
3) เทคนิคการวางใจ
1.วางใจนิ่งๆ นุ่มๆ สบายๆ เหมือนเราเอาเข็มเย็บผ้าค่อยๆ วางบนผิวน้ำมันลอยได้ หรือ เหมือนเราเอาเข็มกรีดบนใบบัวเบาๆ ถ้ากดแรง ก็ทะลุ กรีดเบาๆ มันก็เป็นรอย หรือเหมือนขนนกค่อยๆ ลอยลงมาสัมผัสบนผิวน้ำโดยไม่จม4) หรือเหมือนแตะสัมผัสปุยนุ่น ปุยสำลีเบาๆ
3)安放心的技巧
1.将心轻柔舒服的安放,就好像将针轻轻的放置在水面上并漂浮着; 或用针在荷叶上轻轻刮,如果太用力穿就会破,轻轻刮就会有痕迹; 或者好像羽毛慢慢的飘落在水面上而不沉入水中;2再或者如木棉絮 一般的轻柔。
2.ทำใจหลวมๆ เหมือนใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ทำหลวมๆ สบายๆ พอสบายแล้วจะมีประสบการณ์ เกิดขึ้น จะเป็นแสงสว่าง ตัวขยาย ตัวหาย ตกจากที่สูง ตัวลอย ตัวโยก ตัวโคลง ตัวเบา หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าขยับตัว ทำเฉยๆ กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
2.让心宽松,就好像穿着宽松的衣服一般。当心宽松舒服之后,就会 有经验产生。同时会伴随着光明,然后心可能会扩大、消失、从高 处落下、飘摇、摆动、摇晃、轻盈或随便什么状态,都不要移动心, 让它自然地面对出现的一切。
3 อารมณ์ที่จะหยุดนิ่งจะคล้ายๆ กับตอนใกล้จะหลับ หรือเหมือนตื่นจากหลับ ต่างแต่ว่าถ้าหลับ ขาดสติ แต่ถ้าหยุดนิ่งอารมณ์จะละเอียด มีสติ เบาสบาย ไม่ได้คิดเรื่องอะไร ปล่อยวางจากอารมณ์อื่นทั้งหมด ดังนั้นก่อนจะหลับ กับเมื่อตื่นนอน ให้ลองสังเกตและประคองใจเราให้นิ่งๆ เฉยๆ อย่างสบายๆ เดี๋ยวจะเปลี่ยนจากกำลังจะหลับ มาตื่นตัวภายใน จะสดชื่น เบิกบาน ใจจะขยาย สบาย จะเป็นความสบาย ที่เราชอบแม้ไม่เห็นอะไร5)
3.宁静的情绪与将要入睡的状态相似,或好像从睡梦中醒来,但不同 的是,如果是睡觉,就会缺少正念,但如果是心宁静,心就会非常 的精细,有正念,而且非常的轻松舒服。不会去想其他的事情,会 放下所有的情绪。因此,在即将入睡和睡醒时,应该尝试观察和护持我 们的心,轻松自然地宁静下来。不久就会将睡觉的力量转变为唤醒内 在的法身,同时会有清心舒畅的感觉,即使我们没能看见什么,也 都会感觉到很舒服。1
4.ให้แตะแผ่วๆ เข้ากลางของกลาง นิ่งๆ พอเราวางใจได้ถูกส่วน ใจของเราจะขยายกว้างออกไปเองโดยอัตโนมัติ คล้ายๆ กับเอาก้อนกรวดโยนลงไปในน้ำ แล้วน้ำก็จะเป็นระลอกออกไปโดยรอบเป็นวงกลม ขยายออกไป กว้างออกไป จนกระทั่งสุดแรงของมัน6)
4.当我们将心安放在正确的位置,心就会自然的扩大出去。就好像拿 小石头扔入水中,然后产生出一圈圈的波纹,然后不断地扩大出去, 直到波纹完全的消失。2
4) วิธีสังเกตการวางใจ
การวางใจมี 3 ลักษณะ คือ
1.วางใจเบาเกินไป
2.วางใจหนักเกินไป
3.วางใจพอดีๆ เบาสบาย มีความสุข
4)观察安放心的方法
安放心有三个特征,即是:
1.过于轻柔的安放心
2.过于沉重的安放心
3.轻松、舒服、恰当的安放心
วิธีสังเกต คือ
1.วางใจเบาเกินไป หรือวางใจหย่อนเกินไป จะขาดสติ เผลอเรื่อยไปคิดเรื่องอื่น ปล่อย ให้เรื่องราวต่างๆ เข้ามาแทรกหรือปล่อยให้ฟุ้งเคลิ้ม สาเหตุที่วางใจเบา เพราะยังไม่รู้ว่าจะวางที่ตรงไหน ใจไม่มีที่เกาะ นั่งไปสักพักจะรู้สึกง่วงหรือเคลิ้มๆ ให้ลองขยับเนื้อขยับตัว สูดลมหายใจลึกๆ หรือภาวนาถี่ๆ จนหายง่วง หรือกำหนดนิมิตให้ใสสว่าง ถ้ายังไม่หายให้ลืมตา แล้วหลับตาทำสมาธิต่อ ถ้าไม่หายจริงๆ ควรลุกไปเดิน ล้างหน้าล้างตา แล้วกลับมาทำสมาธิต่อ
观察的方法:
1.过于轻柔或过于松弛的安放心,会让心缺少正念,产生疏忽而去想 其他的事情,让各种各样的事情介入进来,或感觉神志不清。安放 心过于轻柔的缘故是,还不知道将心安放于哪里。心没有依附的地 方,禅定不久就感觉发困或神志不清。这时就应该试着去调整身体, 深呼吸或不断地默念,从而才不会发困,或限定所缘让其透明光亮。如果还不行,就应先张开眼睛,然后再轻轻的闭上双眼继续的禅定。 如果还是不能消除发困,就应起身走动一下,用水洗一下脸,然后 再回来继续禅定。
2.วางใจหนักเกินไป คือตั้งใจมากเกินไป ความตั้งใจจะทำให้เกิดความเพ่ง ความเพ่งจะก่อให้เกิด ความตึงเครียด ให้เอาร่างกายของเราเป็นเกณฑ์ ตัวของเราเป็นครูอย่างดี ถ้าตึงเกินไปจะรู้สึกเครียด คือ ปวดศีรษะ มึนศีรษะ ปวดกระบอกตา จะตึงไปหมดทั้งร่างกาย ต้นคอหัวไหล่ตึงหมด หรือ บางท่าน เห็นนิมิตแล้ว แต่รู้สึกว่าไม่มีประสบการณ์ใหม่ๆ แสดงว่า วางใจหนักเกินไป หรือเผลอกดใจควรปรับใจ ด้วยอารมณ์สบาย คลายความตั้งใจ หาอารมณ์สบาย
2.过于沉重的安放心,即过分的专注。如此会产生凝视,而凝视会引 起紧张感。应以我们的身体作为标准,自身是最好的老师,如果过 度的紧绷就将会感觉头痛、头晕、眼睛痛,并会让颈肩至全身都麻 木起来。或有些人看见所缘后,却感觉到没有什么经验产生。这就 表明安放心过重了,或心疏忽了,应去调整心,让自己拥有好的心 情,消除用力专注,寻找舒畅的心情。
3.วางใจพอดี ถ้าวางใจพอดีจะไม่ตึงไม่หย่อน ไม่มีอาการเครียดทางร่างกาย และไม่มีอาการ เผลอสติ ใจจะเบาสบาย มีความสุขทุกครั้งที่นั่ง แม้บางครั้งไม่เห็นอะไร การวางใจพอดี เกิดจากการปรับใจทุกครั้งที่นั่ง แม้ว่าจะนั่งได้ดีแล้วก็ต้องปรับใจ การปรับใจทำให้เกิดความเบาสบาย และความเบาสบายก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการฝึกสมาธิ
3.恰当的安放心,如果能恰当的安放心,不过于紧绷或松弛,身体没 有紧张及心不在焉的状态,心会感觉非常的轻松舒服。每一次的禅 定都会感觉到非常的快乐,即便有些时候没有能看见什么。如果要 想将心安放得恰当,在每次禅定的时应去调整心。即使是已经进入 了很好的禅定状态,也需要去调整心。调整心将会让我们产生轻松 舒服的感觉,而轻松舒服的感觉,在修习禅定中被视为最为重要的 环节。
ในการวางใจอย่างถูกวิธี พอดีๆ นี้ จะทำให้เรารู้สึกว่า เวลาผ่านไปรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า เราทำถูกแล้ว เมื่อเราวางใจเป็น จะเริ่มสนุกในการนั่ง รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่เริ่มนั่ง เหมือนเวลาหมดไปเร็ว ใจใสละเอียด เพราะทุกครั้งที่นั่ง ใจจะสะสมความใส ความละเอียด แม้บางครั้งฟุ้งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ ที่ดี เพราะเราจะได้เรียนรู้ว่าวางใจอย่างไรจึงเบาสบาย วางใจอย่างไรจึงฟุ้งหรือหลับ
如果能够如此正确恰当的安放心,将会让我们感觉时间过得很快。 并可以确定,我们已经做得正确了。当我们懂得如何的安放心时,就可 以开始享受禅定带来的快乐。从禅定开始的那一刻起,就会感觉到非常 的放松,好像时间过得很快,心非常的精细。即便有时会有点杂念,但 也可以当做是一种好的经验来看待。因为我们会从中学到如何安放心, 才会有轻松舒服的感觉,或如何安放心会有杂念和睡着。
และเมื่อเรากำหนดนิมิต ภาพนิมิตจะละเอียดขึ้น ใสขึ้น บางเบาขึ้น ขยายได้ เคลื่อนไหวได้ ด้วยอาการขยายกว้างและผุดเกิดขึ้นมา แสดงว่า เราวางใจดีแล้ว ถ้ารักษาอารมณ์นี้ต่อไปเรื่อยๆ ใจจะยิ่งใสบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
当我们限定所缘时,所缘的图像就将会以宽广的状态而变得精细、 透明、轻柔、可以扩张并显现出来。这也表明我们已经将心安放好了, 如果我们继续保持这种情绪,那么心就会越来越纯洁、清澈、透明。
ในการวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย บางครั้งเป็นการยากสำหรับผู้ฝึกใหม่ เพราะไม่รู้ว่า ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 อยู่ ณ จุดใด และในการฝึกใจมักมีเรื่องคิดต่างๆ มากมาย ทำให้ไม่สามารถวางใจเฉยๆ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ได้ จึงต้องใช้วิธีการวางใจ ณ ฐานต่างๆ เพื่อให้ใจสงบ จนกระทั่งสามารถวางใจไว้ ณ ฐานที่ 7 ได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้”เรามาเริ่มสำรวจดูฐานทั้ง 7 ฐาน โดยเริ่มจากฐานที่ 1 ก่อนว่า ใจเราทำความรู้สึกตรงฐานไหนถึงจะสบาย ถ้าสมมุติว่าเราเริ่มปากช่องจมูกฐานที่ 1 โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงหญิงซ้าย ชายขวา นิ่งๆ ไว้ ลองดูว่าสบายไหม ถ้าไม่สบาย เลื่อนเปลือกตาขึ้นมาดู ฐานที่ 2 แบบปรือๆ ตานะ ปรือๆ อย่าปิดสนิท
将心静止、宁静的安放在身体中心第七点,可以按照以下的方法来执行:
7.4.1在心还没有静止时安放心
1)观察心的路径
将心安放在身体中心点的这一环节里,有时对于初学者来说可能有 些难。因为不了解身体中心第七点在哪里,以及心会经常去想很多的事 情,不能随意的安放在身体中心第七点。因此,为了能让心宁静,需要 将心安放在各个定点上,直到能最后安放于身体中心的第七点。举例如下: 我们来观察一下身体的七个定点,从第一个定点开始,看看哪个定 点能够让我们的心有舒服的感觉。如果我们从鼻孔这一个定点开始,先不用去意念男右女左的问题。而是先宁静下来,看是否舒服,如果不 舒服,就轻轻地合上眼皮,不必紧闭,然后来看第二个定点一一内眼角。
ดูฐานที่ 2 ลองดูว่าสบายไหม ถ้าใครสบายฐานไหนเอาตรงนั้นนะ ถ้าสบายเราก็อยู่ตรงนี้ นิ่ง จะภาวนา สัมมาอะระหัง ด้วยก็ได้ ไม่ภาวนาก็ไม่เป็นไร ถ้าฐานที่ 2 ยังไม่สบาย ค่อยๆ เหลือบ เหลือบตา เหลือกค้างขึ้นไป เหมือนเรามองเกาะขอบหน้าผาก เรื่อยขึ้นไป ไปลองอยู่ถึงฐานที่ 3 ไหม ลองดู เพราะฐานที่ 3 อยู่กลางกั๊กศีรษะระดับเดียวกับหัว ถ้าไม่ถึง มันอยู่กลาง อยู่ด้านบนศีรษะ ก็อยู่ตรงนั้นก่อน หรือค่อนสุดตรงไหล่ผม สมมุติไปได้แค่นั้น ก็ให้เอาตรงนั้นก่อน นิ่งเฉยๆ ถ้าสบายก็อยู่ตรงนั้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็มาลงเอง เพราะเป้าหมายสุดท้ายเราคือ เราจะเอาใจมาวางไว้ฐานที่ 7 แต่เราเริ่มต้นจากฐาน ที่ 1, 2 เอาพอถึง ได้แค่ 2 ครึ่ง ไม่ถึง 3 เอาแค่ 2 ครึ่ง ก็เฉยๆ อยู่ตรงนั้นไปก่อน
再看下第二个定点是否舒服,如果哪个定点感觉到舒服,就应定在 哪个定点上。在该点静止下来,同时可默念“三玛阿罗汉”,或不默念也 可以。如果在第二个定点时还感觉不到舒服,就将眼珠往内看,然后慢 慢将心转移上去,看是否能够到达第三个定点,因为第三个定点就是脑 部的中心点。如果没能达到,而只是到了脑部中心点的上方,那就让它 先处在那里,然后宁静下来。如果那里一直感觉到很舒服,就让心先定 在那里,等一下它会自然的落在第三定点中。我们的最终目标是:将心 安放在身体中心的第七个定点中。不过还是应从第一个定点开始,然后 到达第二个定点。
ถ้ารู้สึกโปร่ง ก็เลื่อน สมมุติเลื่อนมาฐานที่ 3 มากลางกั๊กศีรษะได้ก็อยู่ อยู่ตรงนั้น นิ่ง ใครชอบ ฐานที่ 4 ก็เลื่อนมา ถ้ารู้สึกว่า ฐานที่ 4 สบาย เพดานปาก ช่องปากที่อาหารสำลัก ก็อยู่ตรงนี้ นิ่งเฉย ๆ ใจใสๆ ภาวนา สัมมาอะระหัง ก็ได้ ไม่ภาวนาก็ไม่เป็นไร
如果心感觉到舒畅,就继续移动,假如能够转移到第三个定点一一 脑部的中心点,就让心先定在那里,然后让心宁静。如果感觉第四个定 点很舒服,就可以转移至第四个定点一一口腔上颚区。然后在那里自然 地宁静下来,此时心会非常的清澈透明,可以默念“三玛阿罗汉”,或不 默念也没有关系。
แล้วลองค่อยๆ เลื่อนมาฐานที่ 5 ปากช่องคอเหนือลูกกระเดือก เริ่มยาก ไม่เป็นไร ปล่อยไป กลางท้องเหมือนกลืนเข้าไปอยู่กลางท้อง ตรงฐานที่ 6 เพราะฐานที่ 6 กับ 7 มันใกล้กัน มันห่างกันแค่ 2 นิ้วมือ ถ้าฐานที่ 6 ได้ 7 ก็ได้ มันใกล้กัน เราก็ทึกทักเอาก็แล้วกัน ฐานที่ 7 นิ่ง ใช่เลย ประมาณนี้เลย นิ่งเฉยอยู่ตรงนี้”1)
然后慢慢的移动至第五个定点一一喉结上方的喉头。开始时有些难, 但不要紧,继续的将它引入肚子中,就好像被吞进肚子一般,来到了第 六个定点。因为第六个定点和第七个定点很相近,只是有两个手指的间 隔而已。如果能够达到第六个定点,那么第七个定点也会达到。因为它 们非常的接近,所以我们先认为这就是第七点,然后慢慢的宁静在这点上。1
2) การนำใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 อย่างเบาสบาย
พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์กล่าวไว้ว่า “ ในการวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกายนั้น จะว่ายาก ก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย วางใจให้มันเป็น แต่ไม่ทิ้งหลัก สบายๆ วางสบายๆ เบาๆ สบายๆ อย่างต่อเนื่อง”2)
2)轻松的将心安放在身体中心第七点
帕拉帕哇那威素(法胜法师)开示道:“将心安放在身体中心点这一 个环节,说难也难,说容易也容易。要懂得安放心,但不要摒弃舒服这 一原则,要一直的让心处在轻松舒服的状态中。2
โดยในการวางใจให้นิ่งๆ เฉยๆ ให้รักษาความสงบให้ต่อเนื่อง พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ แนะว่า อย่ากลัวว่าไม่ได้ ใจไม่สงบไม่เป็นไร นึกไม่ออกก็ไม่เป็นไรให้รักษาใจนิ่งๆ ไว้ก่อน
因此,让心静止的同时,还应继续保持心的宁静。帕拉帕哇那威素 (法胜法师)指导说:“不要害怕不行,心不宁静不要紧,意念不出也不 要紧,先学习让心止歇。”
นอกจากนี้ในการวางใจที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 นอกจากต้องไม่ทิ้งหลักสบายๆ เบาๆ อย่างต่อเนื่องแล้ว ก็ไม่ควรกังวลกับศูนย์กลางกายมากเกินไป ไม่ต้องกังวลว่ามันตรงไม่ตรง ให้ทึกทัก เอาจุดที่สบาย เฉพาะตรงนั้น คือศูนย์กลางกายก็พอ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 จะเห็นชัด ก็ต่อเมื่อใจหยุดนิ่งแล้ว แต่ถ้าใจยังไม่หยุดไม่นิ่งก็ให้คาดคะเนประมาณเอาว่า เป็นศูนย์กลางกายฐานที่ 7 อยู่กลางท้องของเรา
除了之外,将心安放在身体中心第七点,不应放弃轻松舒服的原则, 也应过度的担心身体中心点,更不用担心是否处在那里,只要感觉到当 下所处的点是舒服的定点就好。当心宁静的那一刻,身体中心第七点就 会清晰的显现。但如果心还没有静止,没有宁静下来,那就应先假设中 心第七点就在我们的腹部中央。
ในกรณีถ้าใจนิ่งๆ เฉยๆ ณ จุดที่สบาย และเรามีความพึงพอใจแล้ว แต่อยู่ตรงอื่น ก็ให้อยู่ตรงนั้น ไม่ต้องแสวงหาศูนย์กลางกาย ให้เอาโลกเป็นศูนย์กลาง เพราะตอนนั้นมันจะเคว้งคว้าง เหมือนอยู่ในอวกาศ ให้นิ่งอย่างเดียว คิดว่าโลกคือศูนย์กลางกาย แล้วก็นิ่งๆ และอย่าคิดว่า นิ่งนานขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่มีอะไร ให้ดู ต้องไม่มีความคิดแบบนี้ ไม่ว่าจะนิ่งนานแค่ไหน ว่างๆ ไปอย่างนั้น เรื่อยๆ ไม่ช้าเดี๋ยวก็เห็นที่หมายเอง เดี๋ยวใจจะเคลื่อนไปสู่จุดที่ต้องการเอง แต่ถ้าหากเราคิดว่า ไม่เห็นอะไรเลย เมื่อไหร่มันจะมีสักที จิตมันจะถอยมานับหนึ่งใหม่ เพราะจิตหยาบ ให้ดูนิ่งๆ เฉยๆ สบายๆ
如果心能够在舒服的点上静止下来,并感到很满足,虽然那时心是 处在别的地方也罢,那就让它先处在那里,而不用去寻求身体的中心点, 让世界成为中心点。因为那个时候它还在浮动,就好像处于太空中一般。 此时只需要宁静就好,想象世界就是中心点,然后宁静下来,同时不要 去想静止了那么久,怎么什么东西都没有看见。不要有这样的想法,不 管宁静多么的久,都要如此的持续下去。不久就会自然的看见想要看的 东西,而心也会自然的转移到应去的地方。但如果我们总是想,自己什 么都看不见,什么时候才有机会看见,那么心就会倒退回到原点,重新 开始意念,因为此时的心很粗糙,我们应该要轻松舒服的意念。
หรือในการวางใจที่ศูนย์กลางกาย เราอาจจะทำความรู้สึกว่า “ เราอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ที่ขยายกว้างออกไปเต็มห้อง เต็มสภา หรือสุดขอบฟ้า รู้สึกว่าจะสบาย สบายอย่างไร ให้เอาอย่างนั้นไปก่อน เริ่มต้นตรงไหนก็ได้ แต่ตอนท้ายต้องศูนย์กลางกายฐานที่ 7”3)
将心安放于身体中心点时,我们可以感觉:“自己处在身体中心第七 点,然后慢慢地扩大到填满整个屋子、会场或直至天际。感觉到非常的 舒服,先保持如此的状态,从哪里开始都可以,但是最后一定要回归到 身体中心第七点。1
3) เทคนิคการวางใจ
1.วางใจนิ่งๆ นุ่มๆ สบายๆ เหมือนเราเอาเข็มเย็บผ้าค่อยๆ วางบนผิวน้ำมันลอยได้ หรือ เหมือนเราเอาเข็มกรีดบนใบบัวเบาๆ ถ้ากดแรง ก็ทะลุ กรีดเบาๆ มันก็เป็นรอย หรือเหมือนขนนกค่อยๆ ลอยลงมาสัมผัสบนผิวน้ำโดยไม่จม4) หรือเหมือนแตะสัมผัสปุยนุ่น ปุยสำลีเบาๆ
3)安放心的技巧
1.将心轻柔舒服的安放,就好像将针轻轻的放置在水面上并漂浮着; 或用针在荷叶上轻轻刮,如果太用力穿就会破,轻轻刮就会有痕迹; 或者好像羽毛慢慢的飘落在水面上而不沉入水中;2再或者如木棉絮 一般的轻柔。
2.ทำใจหลวมๆ เหมือนใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ทำหลวมๆ สบายๆ พอสบายแล้วจะมีประสบการณ์ เกิดขึ้น จะเป็นแสงสว่าง ตัวขยาย ตัวหาย ตกจากที่สูง ตัวลอย ตัวโยก ตัวโคลง ตัวเบา หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าขยับตัว ทำเฉยๆ กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
2.让心宽松,就好像穿着宽松的衣服一般。当心宽松舒服之后,就会 有经验产生。同时会伴随着光明,然后心可能会扩大、消失、从高 处落下、飘摇、摆动、摇晃、轻盈或随便什么状态,都不要移动心, 让它自然地面对出现的一切。
3 อารมณ์ที่จะหยุดนิ่งจะคล้ายๆ กับตอนใกล้จะหลับ หรือเหมือนตื่นจากหลับ ต่างแต่ว่าถ้าหลับ ขาดสติ แต่ถ้าหยุดนิ่งอารมณ์จะละเอียด มีสติ เบาสบาย ไม่ได้คิดเรื่องอะไร ปล่อยวางจากอารมณ์อื่นทั้งหมด ดังนั้นก่อนจะหลับ กับเมื่อตื่นนอน ให้ลองสังเกตและประคองใจเราให้นิ่งๆ เฉยๆ อย่างสบายๆ เดี๋ยวจะเปลี่ยนจากกำลังจะหลับ มาตื่นตัวภายใน จะสดชื่น เบิกบาน ใจจะขยาย สบาย จะเป็นความสบาย ที่เราชอบแม้ไม่เห็นอะไร5)
3.宁静的情绪与将要入睡的状态相似,或好像从睡梦中醒来,但不同 的是,如果是睡觉,就会缺少正念,但如果是心宁静,心就会非常 的精细,有正念,而且非常的轻松舒服。不会去想其他的事情,会 放下所有的情绪。因此,在即将入睡和睡醒时,应该尝试观察和护持我 们的心,轻松自然地宁静下来。不久就会将睡觉的力量转变为唤醒内 在的法身,同时会有清心舒畅的感觉,即使我们没能看见什么,也 都会感觉到很舒服。1
4.ให้แตะแผ่วๆ เข้ากลางของกลาง นิ่งๆ พอเราวางใจได้ถูกส่วน ใจของเราจะขยายกว้างออกไปเองโดยอัตโนมัติ คล้ายๆ กับเอาก้อนกรวดโยนลงไปในน้ำ แล้วน้ำก็จะเป็นระลอกออกไปโดยรอบเป็นวงกลม ขยายออกไป กว้างออกไป จนกระทั่งสุดแรงของมัน6)
4.当我们将心安放在正确的位置,心就会自然的扩大出去。就好像拿 小石头扔入水中,然后产生出一圈圈的波纹,然后不断地扩大出去, 直到波纹完全的消失。2
4) วิธีสังเกตการวางใจ
การวางใจมี 3 ลักษณะ คือ
1.วางใจเบาเกินไป
2.วางใจหนักเกินไป
3.วางใจพอดีๆ เบาสบาย มีความสุข
4)观察安放心的方法
安放心有三个特征,即是:
1.过于轻柔的安放心
2.过于沉重的安放心
3.轻松、舒服、恰当的安放心
วิธีสังเกต คือ
1.วางใจเบาเกินไป หรือวางใจหย่อนเกินไป จะขาดสติ เผลอเรื่อยไปคิดเรื่องอื่น ปล่อย ให้เรื่องราวต่างๆ เข้ามาแทรกหรือปล่อยให้ฟุ้งเคลิ้ม สาเหตุที่วางใจเบา เพราะยังไม่รู้ว่าจะวางที่ตรงไหน ใจไม่มีที่เกาะ นั่งไปสักพักจะรู้สึกง่วงหรือเคลิ้มๆ ให้ลองขยับเนื้อขยับตัว สูดลมหายใจลึกๆ หรือภาวนาถี่ๆ จนหายง่วง หรือกำหนดนิมิตให้ใสสว่าง ถ้ายังไม่หายให้ลืมตา แล้วหลับตาทำสมาธิต่อ ถ้าไม่หายจริงๆ ควรลุกไปเดิน ล้างหน้าล้างตา แล้วกลับมาทำสมาธิต่อ
观察的方法:
1.过于轻柔或过于松弛的安放心,会让心缺少正念,产生疏忽而去想 其他的事情,让各种各样的事情介入进来,或感觉神志不清。安放 心过于轻柔的缘故是,还不知道将心安放于哪里。心没有依附的地 方,禅定不久就感觉发困或神志不清。这时就应该试着去调整身体, 深呼吸或不断地默念,从而才不会发困,或限定所缘让其透明光亮。如果还不行,就应先张开眼睛,然后再轻轻的闭上双眼继续的禅定。 如果还是不能消除发困,就应起身走动一下,用水洗一下脸,然后 再回来继续禅定。
2.วางใจหนักเกินไป คือตั้งใจมากเกินไป ความตั้งใจจะทำให้เกิดความเพ่ง ความเพ่งจะก่อให้เกิด ความตึงเครียด ให้เอาร่างกายของเราเป็นเกณฑ์ ตัวของเราเป็นครูอย่างดี ถ้าตึงเกินไปจะรู้สึกเครียด คือ ปวดศีรษะ มึนศีรษะ ปวดกระบอกตา จะตึงไปหมดทั้งร่างกาย ต้นคอหัวไหล่ตึงหมด หรือ บางท่าน เห็นนิมิตแล้ว แต่รู้สึกว่าไม่มีประสบการณ์ใหม่ๆ แสดงว่า วางใจหนักเกินไป หรือเผลอกดใจควรปรับใจ ด้วยอารมณ์สบาย คลายความตั้งใจ หาอารมณ์สบาย
2.过于沉重的安放心,即过分的专注。如此会产生凝视,而凝视会引 起紧张感。应以我们的身体作为标准,自身是最好的老师,如果过 度的紧绷就将会感觉头痛、头晕、眼睛痛,并会让颈肩至全身都麻 木起来。或有些人看见所缘后,却感觉到没有什么经验产生。这就 表明安放心过重了,或心疏忽了,应去调整心,让自己拥有好的心 情,消除用力专注,寻找舒畅的心情。
3.วางใจพอดี ถ้าวางใจพอดีจะไม่ตึงไม่หย่อน ไม่มีอาการเครียดทางร่างกาย และไม่มีอาการ เผลอสติ ใจจะเบาสบาย มีความสุขทุกครั้งที่นั่ง แม้บางครั้งไม่เห็นอะไร การวางใจพอดี เกิดจากการปรับใจทุกครั้งที่นั่ง แม้ว่าจะนั่งได้ดีแล้วก็ต้องปรับใจ การปรับใจทำให้เกิดความเบาสบาย และความเบาสบายก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการฝึกสมาธิ
3.恰当的安放心,如果能恰当的安放心,不过于紧绷或松弛,身体没 有紧张及心不在焉的状态,心会感觉非常的轻松舒服。每一次的禅 定都会感觉到非常的快乐,即便有些时候没有能看见什么。如果要 想将心安放得恰当,在每次禅定的时应去调整心。即使是已经进入 了很好的禅定状态,也需要去调整心。调整心将会让我们产生轻松 舒服的感觉,而轻松舒服的感觉,在修习禅定中被视为最为重要的 环节。
ในการวางใจอย่างถูกวิธี พอดีๆ นี้ จะทำให้เรารู้สึกว่า เวลาผ่านไปรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า เราทำถูกแล้ว เมื่อเราวางใจเป็น จะเริ่มสนุกในการนั่ง รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่เริ่มนั่ง เหมือนเวลาหมดไปเร็ว ใจใสละเอียด เพราะทุกครั้งที่นั่ง ใจจะสะสมความใส ความละเอียด แม้บางครั้งฟุ้งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ ที่ดี เพราะเราจะได้เรียนรู้ว่าวางใจอย่างไรจึงเบาสบาย วางใจอย่างไรจึงฟุ้งหรือหลับ
如果能够如此正确恰当的安放心,将会让我们感觉时间过得很快。 并可以确定,我们已经做得正确了。当我们懂得如何的安放心时,就可 以开始享受禅定带来的快乐。从禅定开始的那一刻起,就会感觉到非常 的放松,好像时间过得很快,心非常的精细。即便有时会有点杂念,但 也可以当做是一种好的经验来看待。因为我们会从中学到如何安放心, 才会有轻松舒服的感觉,或如何安放心会有杂念和睡着。
และเมื่อเรากำหนดนิมิต ภาพนิมิตจะละเอียดขึ้น ใสขึ้น บางเบาขึ้น ขยายได้ เคลื่อนไหวได้ ด้วยอาการขยายกว้างและผุดเกิดขึ้นมา แสดงว่า เราวางใจดีแล้ว ถ้ารักษาอารมณ์นี้ต่อไปเรื่อยๆ ใจจะยิ่งใสบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
当我们限定所缘时,所缘的图像就将会以宽广的状态而变得精细、 透明、轻柔、可以扩张并显现出来。这也表明我们已经将心安放好了, 如果我们继续保持这种情绪,那么心就会越来越纯洁、清澈、透明。
7.4.2 การวางใจเมื่อใจหยุดนิ่งแล้ว
7.4.2当心宁静之后的安放
พอใจเราหยุดนิ่งได้ถูกส่วน กายจะเบา ใจจะเบา ร่างกายรู้สึกเป็นปล่อง
เป็นช่อง เป็นโพรงลงไป พอถูกส่วนก็จะมีดวงใสๆ
ปรากฏเกิดขึ้นมาในกลางหยุดนิ่ง อย่างเล็กขนาดดวงดาวในอากาศ อย่างกลาง
ขนาดพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ขนาดพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน
เกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
เป็นดวงใสบริสุทธิ์ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขนแมว ไม่มีตำหนิ
กลมรอบตัว
当我们的心在正确的位置上宁静下来,身心会很轻。感觉身体有如 烟囱、通道、洞穴一般一直深入下去。当位置正确时,就会浮现出一颗 水晶球,在中心点里宁静下来。从身体中心第七点产生的水晶球,小型 的样子如同天空中的星星,中型的样子如同夜晚的月亮,而大型的样子 如同正午的太阳。晶莹剔透的水晶球如同被雕琢过的钻石,无痕纹无瑕 疵,非常的圆滑。
เมื่อถึงดวงใส ก็แตะไปตรงจุดกึ่งกลาง แตะเบาๆ ใครเห็นท่อ เห็นดวงผุดก็แตะกลางดวง กลางท่อนั้นเบาๆ ใครเห็นองค์พระก็แตะเข้าไปในกลางองค์พระเบาๆ เห็นจุดสว่างกลางองค์พระก็แตะลงไปตรงจุดสว่างกลางองค์พระ แตะเบาๆ สบายๆ นิ่งๆ อย่าตั้งใจมาก เอาแค่ตั้งใจมั่น ทำไปเรื่อยๆ อย่างสบายๆ จรดให้ต่อเนื่องอย่างสบายๆ
倘若谁看见光球冒上来,就应该轻轻地去触碰它的中心点。如果谁 看见佛像出现,就应轻轻地、舒服地、静静地去触碰佛像的中心。不要 过分的专注,应该放松心态,慢慢且舒服的持续下去。
当我们的心在正确的位置上宁静下来,身心会很轻。感觉身体有如 烟囱、通道、洞穴一般一直深入下去。当位置正确时,就会浮现出一颗 水晶球,在中心点里宁静下来。从身体中心第七点产生的水晶球,小型 的样子如同天空中的星星,中型的样子如同夜晚的月亮,而大型的样子 如同正午的太阳。晶莹剔透的水晶球如同被雕琢过的钻石,无痕纹无瑕 疵,非常的圆滑。
เมื่อถึงดวงใส ก็แตะไปตรงจุดกึ่งกลาง แตะเบาๆ ใครเห็นท่อ เห็นดวงผุดก็แตะกลางดวง กลางท่อนั้นเบาๆ ใครเห็นองค์พระก็แตะเข้าไปในกลางองค์พระเบาๆ เห็นจุดสว่างกลางองค์พระก็แตะลงไปตรงจุดสว่างกลางองค์พระ แตะเบาๆ สบายๆ นิ่งๆ อย่าตั้งใจมาก เอาแค่ตั้งใจมั่น ทำไปเรื่อยๆ อย่างสบายๆ จรดให้ต่อเนื่องอย่างสบายๆ
倘若谁看见光球冒上来,就应该轻轻地去触碰它的中心点。如果谁 看见佛像出现,就应轻轻地、舒服地、静静地去触碰佛像的中心。不要 过分的专注,应该放松心态,慢慢且舒服的持续下去。
7.5 เทคนิคการปรับใจวางใจให้เข้าสู่ภายใน
7.5 调整心的技巧
ในการปรับใจและวางใจจนกระทั่งใจละเอียดอ่อน นุ่มนวลไปตามลำดับ
จนกระทั่งใจเป็นสมาธิ เข้าไปสู่ภายใน พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์
ได้แนะนำไว้ดังต่อไปนี้
调整和安放心,让心循序渐进的变成精细柔软,最后宁静的证入体
内的中心点。帕拉帕哇那威素(法胜法师)教导应该按照如下来做:
1.ในการปรับใจให้หยุด ต้องไม่เร่งประสบการณ์ ไม่มีความตั้งใจมากเกินไป ไม่ได้อยากจะให้เร็ว ไม่ได้อยากจะให้ช้า หรืออยากจะให้ใสสว่างอะไรเลย มีแต่ใจที่หยุดนิ่งเฉยๆ วางเฉย ดิ่ง นิ่งอยู่ตรงนั้น สังเกตว่า ใจที่นิ่งๆ ในเบื้องต้นจะเหมือนว่างๆ โปร่งๆ โล่ง เบา สบาย ว่างจากเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวง ว่างจากคน สัตว์ สิ่งของ มีความรู้สึกว่าเรามีสติระลึกอยู่กับตัวของเรา กายของเรา และให้ทำความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ใจก็ผ่อนคลาย กายก็ผ่อนคลาย ผ่อนคลายไปสู่ความสบาย ความนิ่ง ความเฉย เราประคองอยู่แค่ตรงนั้น ณ จุดที่รู้สึกว่างๆ โล่งๆ โปร่งๆ นิ่งๆ เฉยๆ รักษาอารมณ์นี้ ไปเรื่อยๆ เบาๆ ไม่มีความรู้สึกว่าอยากเห็นหรืออยากจะไม่เห็น ความอยากจะเข้าไปหรือไม่เข้าไปก็ไม่มี รู้สึกพอใจในอารมณ์ตรงนั้น เราประคองอารมณ์ตรงนี้ให้ต่อเนื่อง ทำนิ่งๆ
1.调整心的时候,不应要求过高,不应过于专注,不要操之过急,也不 要过于缓慢,或想让它光亮起来等等。只需让心宁静无他,自然地安 放在那里。由观察可得知初步宁静的心,就好像一切都变得空旷、宽 敞、轻巧与舒服,忘记所有的人、动物和物品,感觉自己的正念正与 身心在一起。
同时有轻松舒服的感觉,身与心都要放轻松,处于舒服、宁静和 自然的状态。我们只需要护持这个空旷、宽敞、宁静和自然地状态, 将这个情绪轻轻的,持续的保持下去。没有想要看见或不想去看见的 感觉,也没有想要进去或不想进去的感觉。对现在拥有的情绪感到很 满足。我们应该继续的护持着这个状态,保持宁静的感觉。
2.เราจะสังเกตว่าพอใจเรานิ่ง ได้อารมณ์ที่นิ่งๆ เฉยๆ ต่อเนื่องแล้ว เกิดความรู้สึก เกิดความสว่างๆ เหมือนเป็นความกระจ่างในใจ ใจจะเริ่มกระจ่างขึ้นมา อารมณ์จะเคลียร์ ใจจะเริ่มใส แล้วก็เกิดความสว่างขึ้นมา เหมือนเป็นความสว่างกระจ่างใจ เหมือนกับว่าตัวของเรามีความสว่างอยู่ เบื้องต้นก็เป็นความสว่าง เหมือนความสว่างยามเช้า ความสว่างนิ่มเหมือนอยู่ในหมอกขาวๆ เหมือนกับความสว่างที่ค่อยๆ กระจ่างขึ้นมา แม้ว่ายังไม่เห็นอะไรเลย ยังเป็นภาพขาวๆ กระจ่างๆ เราก็รักษาตรงนั้นไว้ให้ต่อเนื่อง ในเบื้องต้นความสว่างมันเกิดขึ้นอย่างนี้ก่อน เดี๋ยวจะพัฒนาไปเอง
2.我们观察可知,当心宁静而拥有静定无他地情绪后,就会产生光明, 而心也将开始清晰的浮现上来,此时心情很舒畅,心也开始透明。之 后就有光亮产生,好像心非常的清晰明亮,也好像是我们身体内有 光亮存在。初步的明亮,就好像清晨的阳光,柔和的光亮犹如还处于 白雾中,也犹如逐渐清晰地浮现出来的光亮。尽管还没有看见什么, 还只是白色明亮的画面,但我们也要继续的保持这个状态,起初的光 亮先是会如此的产生,不久就会自然的扩展。
3.รักษาอารมณ์นิ่งเฉยๆ ไปเรื่อยๆ ประสบการณ์จะเป็นอะไรก็ช่าง ความสว่างจะเกิดขึ้น ก็นิ่งอยู่ตรงนั้น พอถูกส่วนมากเข้าๆ อาจจะเห็นเป็นจุดใสเหมือนดวงดาวในอากาศเกิดขึ้นในกลางความกระจ่างนั้น หรือบางทีเป็นดวงใสๆ สว่างๆ ขยายออกมาจากกลางนั้น ใสสว่างกระจ่างขึ้นมา
3.持续的保持自然宁静的情绪,产生怎样的经验也不要去管它,即使有 光亮产生,也要静静地处在原地。当所处的位置恰当,就有可能会看 见透明的圆点,犹如天空中的星星,清晰地浮现在中间。或有时是透 明的水晶球,从中间扩大出来,然后越来越透明光亮。
4.พอเรามองดวงใสไปเรื่อยๆ จะเห็นทางสายกลางเป็นจุดใส เหมือนดวงดาวในอากาศ จุดเล็กๆ ใสๆ เกิดขึ้นกลางดวงธรรมนั้น แล้วเราก็มองไปเรื่อยๆ เบื้องต้นเราก็เห็นเหมือนมองภายนอกไปก่อน บางครั้งเหมือนมองจากข้างบน บางครั้งเหมือนมองใกล้ลงไป
4.当我们持续的看着那个水晶球,将会看见中间的路线变为透明的点, 就像天空中的星星,小小透明的点从法球的中间浮现上来。然后我们 就继续看下去,开始的阶段,先从外表看起,有时候可先从上面看起, 有时候可先从近处看起。
5.แค่มองไปเฉยๆ นี่แหละคือการวางใจที่ถูกต้องในการเข้ากลาง มองไปเฉยๆ เดี๋ยวจุดใสสว่าง ตรงกลางค่อยๆ ขยายเป็นดวงใหม่ เดี๋ยวกลายเป็นองค์พระที่ขยายออกมาในกลางดวงนั้น เราก็จะเห็นจุดใสแล้วขยายออกมาในกลางเข้าไปเรื่อยๆ เลย เห็นเข้าไปเรื่อยๆ เป็นลำดับๆ เราก็หยุดนิ่งเฉย เดี๋ยวอารมณ์มันจะปรับไปเอง ใจของคนเรานี้แปลก เพียงแค่ทำความหยุดนิ่งเดี๋ยวจะปรับเข้าสู่สมดุลกลับเข้าสู่ความบริบูรณ์ของ อารมณ์ภายในเอง โดยที่เราไม่ต้องไปพยายามปรุงแต่งหรือไปสร้างแต่อย่างใดทั้งสิ้น มันจะเกิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ แล้วเราจะรู้ถึงอารมณ์ที่ละเมียด ละไม อ่อนนุ่ม อ่อนโยน รู้สึกว่า ความสุขภายใน มันไหลผ่านออกมาจากตรงนั้น นุ่มนวล เบิกบาน ถ้าปล่อยเข้ากลางได้ก็ปล่อยเข้ากลางไป คือ มองเฉยๆ เดี๋ยวประสบการณ์ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเอง
5.只需自然地望去即正确的将心安放于中心点。自然地望去,一会光球 中间的光亮点就会慢慢的扩大,成为新的光球。不一会儿就会从那个 扩大的光球的中间出现一尊佛像。我们将会看到透明点从佛像中间扩 散出来。慢慢的往里面看,一个层次戒一个层次的深入看。我们只需 自然地宁静,不久情绪会自己调整去迎合。我们人类的心很奇怪,只 要让它宁静下来,不久就会自己平衡的进入圆满的状态。因此我们不 必去尝试修饰或做别的什么事情,它也会自然地产生。之后我们将拥 有柔和与温顺的情绪。感觉内在的快乐就是从那里温和的散发出来, 如果可以进入中间,那么就将进到中间。而自然地望去,不一会儿各 种经验就会自然的产生。
6.เพียงแค่หยุดนิ่งเฉยๆ มองไปเดี๋ยวทุกอย่างเกิดขึ้นมาเอง เราจะไม่ต้องใช้กำลังไปช่วยให้ภาพ เกิดขึ้นใดๆ ทั้งสิ้น อย่างนี้จะเป็นธรรมชาติแล้วจะมีความสุข จะเกิดการพัฒนาไปตามลำดับ ความใสสว่าง ก็จะมากขึ้น ความสุขก็มากขึ้น ความชัดก็มากขึ้น ผ่านเข้าไป จนบางครั้งเหมือนตัวของเราหลุดเข้าไปสู่ภายใน
6.只需自然宁静的望去,不久所有的一切都会自己产生。我们不必用力 去强迫,让所有的画面自然的产生。这样会怀有幸福感,所有的一切 会依次产生。同时也会有更多的光亮、快乐和清晰度产生并逐渐深入。 有时就好像我们的身体被吸进了体内。
7.ทำไปสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน ทำความรู้สึกว่าคอยได้ จะคอยเป็นกี่ปี 10 ปี 20 ปี หรือเป็นร้อยปี พันปี เราก็รอได้ เราก็รอนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ได้สนใจเรื่องเวลา เป็นผู้ที่ไม่มีกาลเวลามาบังคับ มีแต่ความรู้สึก ว่ามันนิ่งเฉยๆ ได้ นานแสนนาน ประคับประคองอารมณ์ตรงนี้ไว้ มันจะนิ่งเฉย เดี๋ยวดวงธรรมก็ผุดซ้อน ขยายผ่านออกมา เดี๋ยวองค์พระก็ผุดซ้อนขยายผ่านขึ้นมา หรือว่าภายในก็ผุดซ้อนขยายผ่านขึ้นมา ใจของเราจะดำเนินไปตามลำดับ เข้าไปสู่ภายใน ใสสว่างเพิ่มมากขึ้น ใสสว่างเอง โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ทั้งสิ้น
7.舒服的持续下去,不要着急,感觉无论等多久都可以。即使是十年、 二十年或一百年、一千年都可以等待。我们就静止在那里,不用去在 意时间的问题,成为一个不受时间限制的人。有自然宁静的感觉, 无论多久都能维持这个情绪。自然地宁静,一会儿法球就会扩大显露 出来,而我们的心也将依次进入体内的中心点。此时的内在法球会更 加的光亮,不需要任何东西的协助,也会自己光亮起来。
调整和安放心,让心循序渐进的变成精细柔软,最后宁静的证入体
内的中心点。帕拉帕哇那威素(法胜法师)教导应该按照如下来做:
1.ในการปรับใจให้หยุด ต้องไม่เร่งประสบการณ์ ไม่มีความตั้งใจมากเกินไป ไม่ได้อยากจะให้เร็ว ไม่ได้อยากจะให้ช้า หรืออยากจะให้ใสสว่างอะไรเลย มีแต่ใจที่หยุดนิ่งเฉยๆ วางเฉย ดิ่ง นิ่งอยู่ตรงนั้น สังเกตว่า ใจที่นิ่งๆ ในเบื้องต้นจะเหมือนว่างๆ โปร่งๆ โล่ง เบา สบาย ว่างจากเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวง ว่างจากคน สัตว์ สิ่งของ มีความรู้สึกว่าเรามีสติระลึกอยู่กับตัวของเรา กายของเรา และให้ทำความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ใจก็ผ่อนคลาย กายก็ผ่อนคลาย ผ่อนคลายไปสู่ความสบาย ความนิ่ง ความเฉย เราประคองอยู่แค่ตรงนั้น ณ จุดที่รู้สึกว่างๆ โล่งๆ โปร่งๆ นิ่งๆ เฉยๆ รักษาอารมณ์นี้ ไปเรื่อยๆ เบาๆ ไม่มีความรู้สึกว่าอยากเห็นหรืออยากจะไม่เห็น ความอยากจะเข้าไปหรือไม่เข้าไปก็ไม่มี รู้สึกพอใจในอารมณ์ตรงนั้น เราประคองอารมณ์ตรงนี้ให้ต่อเนื่อง ทำนิ่งๆ
1.调整心的时候,不应要求过高,不应过于专注,不要操之过急,也不 要过于缓慢,或想让它光亮起来等等。只需让心宁静无他,自然地安 放在那里。由观察可得知初步宁静的心,就好像一切都变得空旷、宽 敞、轻巧与舒服,忘记所有的人、动物和物品,感觉自己的正念正与 身心在一起。
同时有轻松舒服的感觉,身与心都要放轻松,处于舒服、宁静和 自然的状态。我们只需要护持这个空旷、宽敞、宁静和自然地状态, 将这个情绪轻轻的,持续的保持下去。没有想要看见或不想去看见的 感觉,也没有想要进去或不想进去的感觉。对现在拥有的情绪感到很 满足。我们应该继续的护持着这个状态,保持宁静的感觉。
2.เราจะสังเกตว่าพอใจเรานิ่ง ได้อารมณ์ที่นิ่งๆ เฉยๆ ต่อเนื่องแล้ว เกิดความรู้สึก เกิดความสว่างๆ เหมือนเป็นความกระจ่างในใจ ใจจะเริ่มกระจ่างขึ้นมา อารมณ์จะเคลียร์ ใจจะเริ่มใส แล้วก็เกิดความสว่างขึ้นมา เหมือนเป็นความสว่างกระจ่างใจ เหมือนกับว่าตัวของเรามีความสว่างอยู่ เบื้องต้นก็เป็นความสว่าง เหมือนความสว่างยามเช้า ความสว่างนิ่มเหมือนอยู่ในหมอกขาวๆ เหมือนกับความสว่างที่ค่อยๆ กระจ่างขึ้นมา แม้ว่ายังไม่เห็นอะไรเลย ยังเป็นภาพขาวๆ กระจ่างๆ เราก็รักษาตรงนั้นไว้ให้ต่อเนื่อง ในเบื้องต้นความสว่างมันเกิดขึ้นอย่างนี้ก่อน เดี๋ยวจะพัฒนาไปเอง
2.我们观察可知,当心宁静而拥有静定无他地情绪后,就会产生光明, 而心也将开始清晰的浮现上来,此时心情很舒畅,心也开始透明。之 后就有光亮产生,好像心非常的清晰明亮,也好像是我们身体内有 光亮存在。初步的明亮,就好像清晨的阳光,柔和的光亮犹如还处于 白雾中,也犹如逐渐清晰地浮现出来的光亮。尽管还没有看见什么, 还只是白色明亮的画面,但我们也要继续的保持这个状态,起初的光 亮先是会如此的产生,不久就会自然的扩展。
3.รักษาอารมณ์นิ่งเฉยๆ ไปเรื่อยๆ ประสบการณ์จะเป็นอะไรก็ช่าง ความสว่างจะเกิดขึ้น ก็นิ่งอยู่ตรงนั้น พอถูกส่วนมากเข้าๆ อาจจะเห็นเป็นจุดใสเหมือนดวงดาวในอากาศเกิดขึ้นในกลางความกระจ่างนั้น หรือบางทีเป็นดวงใสๆ สว่างๆ ขยายออกมาจากกลางนั้น ใสสว่างกระจ่างขึ้นมา
3.持续的保持自然宁静的情绪,产生怎样的经验也不要去管它,即使有 光亮产生,也要静静地处在原地。当所处的位置恰当,就有可能会看 见透明的圆点,犹如天空中的星星,清晰地浮现在中间。或有时是透 明的水晶球,从中间扩大出来,然后越来越透明光亮。
4.พอเรามองดวงใสไปเรื่อยๆ จะเห็นทางสายกลางเป็นจุดใส เหมือนดวงดาวในอากาศ จุดเล็กๆ ใสๆ เกิดขึ้นกลางดวงธรรมนั้น แล้วเราก็มองไปเรื่อยๆ เบื้องต้นเราก็เห็นเหมือนมองภายนอกไปก่อน บางครั้งเหมือนมองจากข้างบน บางครั้งเหมือนมองใกล้ลงไป
4.当我们持续的看着那个水晶球,将会看见中间的路线变为透明的点, 就像天空中的星星,小小透明的点从法球的中间浮现上来。然后我们 就继续看下去,开始的阶段,先从外表看起,有时候可先从上面看起, 有时候可先从近处看起。
5.แค่มองไปเฉยๆ นี่แหละคือการวางใจที่ถูกต้องในการเข้ากลาง มองไปเฉยๆ เดี๋ยวจุดใสสว่าง ตรงกลางค่อยๆ ขยายเป็นดวงใหม่ เดี๋ยวกลายเป็นองค์พระที่ขยายออกมาในกลางดวงนั้น เราก็จะเห็นจุดใสแล้วขยายออกมาในกลางเข้าไปเรื่อยๆ เลย เห็นเข้าไปเรื่อยๆ เป็นลำดับๆ เราก็หยุดนิ่งเฉย เดี๋ยวอารมณ์มันจะปรับไปเอง ใจของคนเรานี้แปลก เพียงแค่ทำความหยุดนิ่งเดี๋ยวจะปรับเข้าสู่สมดุลกลับเข้าสู่ความบริบูรณ์ของ อารมณ์ภายในเอง โดยที่เราไม่ต้องไปพยายามปรุงแต่งหรือไปสร้างแต่อย่างใดทั้งสิ้น มันจะเกิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ แล้วเราจะรู้ถึงอารมณ์ที่ละเมียด ละไม อ่อนนุ่ม อ่อนโยน รู้สึกว่า ความสุขภายใน มันไหลผ่านออกมาจากตรงนั้น นุ่มนวล เบิกบาน ถ้าปล่อยเข้ากลางได้ก็ปล่อยเข้ากลางไป คือ มองเฉยๆ เดี๋ยวประสบการณ์ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเอง
5.只需自然地望去即正确的将心安放于中心点。自然地望去,一会光球 中间的光亮点就会慢慢的扩大,成为新的光球。不一会儿就会从那个 扩大的光球的中间出现一尊佛像。我们将会看到透明点从佛像中间扩 散出来。慢慢的往里面看,一个层次戒一个层次的深入看。我们只需 自然地宁静,不久情绪会自己调整去迎合。我们人类的心很奇怪,只 要让它宁静下来,不久就会自己平衡的进入圆满的状态。因此我们不 必去尝试修饰或做别的什么事情,它也会自然地产生。之后我们将拥 有柔和与温顺的情绪。感觉内在的快乐就是从那里温和的散发出来, 如果可以进入中间,那么就将进到中间。而自然地望去,不一会儿各 种经验就会自然的产生。
6.เพียงแค่หยุดนิ่งเฉยๆ มองไปเดี๋ยวทุกอย่างเกิดขึ้นมาเอง เราจะไม่ต้องใช้กำลังไปช่วยให้ภาพ เกิดขึ้นใดๆ ทั้งสิ้น อย่างนี้จะเป็นธรรมชาติแล้วจะมีความสุข จะเกิดการพัฒนาไปตามลำดับ ความใสสว่าง ก็จะมากขึ้น ความสุขก็มากขึ้น ความชัดก็มากขึ้น ผ่านเข้าไป จนบางครั้งเหมือนตัวของเราหลุดเข้าไปสู่ภายใน
6.只需自然宁静的望去,不久所有的一切都会自己产生。我们不必用力 去强迫,让所有的画面自然的产生。这样会怀有幸福感,所有的一切 会依次产生。同时也会有更多的光亮、快乐和清晰度产生并逐渐深入。 有时就好像我们的身体被吸进了体内。
7.ทำไปสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน ทำความรู้สึกว่าคอยได้ จะคอยเป็นกี่ปี 10 ปี 20 ปี หรือเป็นร้อยปี พันปี เราก็รอได้ เราก็รอนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ได้สนใจเรื่องเวลา เป็นผู้ที่ไม่มีกาลเวลามาบังคับ มีแต่ความรู้สึก ว่ามันนิ่งเฉยๆ ได้ นานแสนนาน ประคับประคองอารมณ์ตรงนี้ไว้ มันจะนิ่งเฉย เดี๋ยวดวงธรรมก็ผุดซ้อน ขยายผ่านออกมา เดี๋ยวองค์พระก็ผุดซ้อนขยายผ่านขึ้นมา หรือว่าภายในก็ผุดซ้อนขยายผ่านขึ้นมา ใจของเราจะดำเนินไปตามลำดับ เข้าไปสู่ภายใน ใสสว่างเพิ่มมากขึ้น ใสสว่างเอง โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ทั้งสิ้น
7.舒服的持续下去,不要着急,感觉无论等多久都可以。即使是十年、 二十年或一百年、一千年都可以等待。我们就静止在那里,不用去在 意时间的问题,成为一个不受时间限制的人。有自然宁静的感觉, 无论多久都能维持这个情绪。自然地宁静,一会儿法球就会扩大显露 出来,而我们的心也将依次进入体内的中心点。此时的内在法球会更 加的光亮,不需要任何东西的协助,也会自己光亮起来。
7.6 วิธีฝึกการวางใจในชีวิตประจำวัน
7.6日常生活中练习安放心的方法
ในการฝึกสมาธิในชีวิตประจำวันเพื่อให้ใจคุ้นกับการวางใจ
ให้ฝึกเอาใจหยุดนิ่งไปที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7
ให้ถือว่าจุดนี้เป็นตำแหน่งสุดท้ายที่เราจะต้องเอาใจมาวางไว้ตลอดเวลาไม่ว่า
จะหลับตา ลืมตา นั่ง นอน ยืน เดิน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด เหยียดแขน คู้แขน
ถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ หรือจะทำภารกิจอะไรก็ตาม ให้ทำอย่างสบายๆ
มีสติและสม่ำเสมอ ต่อเนื่องกันไป แล้วก็หมั่นสังเกตดูว่าสบายจริงหรือไม่
หมั่นปรับกาย วาจา ใจของเราตลอดเวลา จนกระทั่งใจอยู่ในสภาวะที่พอเหมาะพอดี
เมื่อพอเหมาะพอดีแล้ว ใจจะถูกส่วนเอง
และในไม่ช้าก็จะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่ในตัว
在日常生活中修习禅定,是为了让心习惯于如何安放。常常练习让 心静止于身体中心第七点,并让这一点成为心的最终定点。不管是闭眼、 睁眼、坐、站、行、吃、喝、做、说、想、伸胳膊、弯胳膊、小便、大 便或做什么都好,都要保持舒服感、正念和持续的状态,要时常观察是 否真的舒服,要尝试调整我们的身、口、意,直至让心处于恰当的状态 中。当心处于恰当的位置后,心就会自然地止歇,不久就会证入体内的 法身。
ในช่วงก่อนนอนและตื่นนอน ก็เป็นช่วงที่เราควรจะฝึกวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย เนื่องจากเป็นช่วงที่มีสภาวะใจใกล้เคียงกับขณะที่ใจหยุดนิ่ง โดยก่อนนอนให้เราเอาใจใส่ แตะแผ่วๆ ที่ศูนย์กลางกาย เรื่อยไปจนหลับ เวลาตื่น สิ่งแรกที่ควรนึกถึงก่อนอื่น คือ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 จะได้คุ้นกับศูนย์กลางกายและวางใจเป็น
在睡觉前和睡醒后的那一段时间,是我们应该将心安放在身体中心 点的时间。因为那一段时间是心非常接近宁静的时间段。因此在睡觉之 前,我们应用透明的心去轻轻的触碰身体中心点,直至睡着。而在睡醒 后,第一件要意念的事就是身体中心第七点,能够习惯于身体的中心以 及懂得安放心。
นอกจากนี้ การทำการบ้าน 10 ข้อ ก็สามารถช่วยทำให้ตัวของเราคุ้นกับการวางใจ ไว้ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ถือเป็นบทฝึกอย่างดีเยี่ยม ในการฝึกรักษาใจให้ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งการบ้านทั้ง 10 ข้อนั้น เคยได้กล่าวไว้แล้วในสมาธิ 1 คือ
1.นำบุญไปฝากคนที่บ้าน
2.จดบันทึกผลการปฏิบัติธรรม
3.ก่อนนอนนึกถึงบุญที่สั่งสมมาทั้งหมด
4.เวลานอนหลับให้หลับในอู่แห่งทะเลบุญ
5.เวลาตื่นนอนให้ตื่นในอู่แห่งทะเลบุญ
6. เมื่อตื่นแล้วให้รวมใจเป็นหนึ่งกับองค์พระ 1 นาที ใน 1 นาทีนั้น ให้นึกว่าเราโชคดี ที่รอดตายมาได้อีกหนึ่งวัน ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง หลายจงมีความสุข อันตัวเรานั้น ตายแน่ ตายแน่
7.ทั้งวันให้ทำความรู้สึกว่า ตัวเราอยู่ในองค์พระ องค์พระอยู่ในตัวเรา ตัวเราเป็นองค์พระ องค์พระเป็นตัวเรา
8.ทุก 1 ชั่วโมง ขอ 1 นาที เพื่อหยุดใจ นึกถึงดวง องค์พระ หรือทำใจนิ่งๆ ว่างๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
9.ทุกกิจกรรมตั้งแต่ตื่นนอน ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า อาบน้ำ แต่งตัว รับประทานอาหาร ล้างจาน กวาดบ้าน ออกกำลังกาย ขับรถ ทำงานให้นึกถึงดวง หรือองค์พระไปด้วย
10.สร้างบรรยากาศให้ดี สดชื่น ด้วยรอยยิ้มและปิยวาจา
除此之外,做十项功课也可以帮助我们习惯于将心安放在身体中心 第七点。这十项功课对一整天的护持心,起到非常重要的作用。因此这 十项功课已经在《禅定一》中有介绍,即是:
第一、回家后,与家人分享所修的功德。
第二、记录自己禅修的经验。
第三、睡前,回忆起,当天所修过的功德。
第四、睡在福海,睡在福海里。
第五、醒在福海,也从福海里醒起
第六、当睡醒时,将心于体内的佛一分钟,在这一分钟内,庆幸自 己能多活了一天,愿众生都快乐,也想到自己也会有死亡的一天。
第七、整天都要感觉到,我在佛身中,佛也在我身中。我是佛,佛 是我。
第八、每个小时抽出一分钟,将心静止于水晶球或者佛像中,或者 将心静止,在我们身体的中心点。
第九、每一种活动,从起床开始,不管您是洗脸,洗澡,穿衣服, 用餐洗餐具,打扫,运动,开车或者上班,都同时意念到水 晶球,或者佛像。
第十、营造良好的禅修气氛,要微笑和练习悦语。
在日常生活中修习禅定,是为了让心习惯于如何安放。常常练习让 心静止于身体中心第七点,并让这一点成为心的最终定点。不管是闭眼、 睁眼、坐、站、行、吃、喝、做、说、想、伸胳膊、弯胳膊、小便、大 便或做什么都好,都要保持舒服感、正念和持续的状态,要时常观察是 否真的舒服,要尝试调整我们的身、口、意,直至让心处于恰当的状态 中。当心处于恰当的位置后,心就会自然地止歇,不久就会证入体内的 法身。
ในช่วงก่อนนอนและตื่นนอน ก็เป็นช่วงที่เราควรจะฝึกวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย เนื่องจากเป็นช่วงที่มีสภาวะใจใกล้เคียงกับขณะที่ใจหยุดนิ่ง โดยก่อนนอนให้เราเอาใจใส่ แตะแผ่วๆ ที่ศูนย์กลางกาย เรื่อยไปจนหลับ เวลาตื่น สิ่งแรกที่ควรนึกถึงก่อนอื่น คือ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 จะได้คุ้นกับศูนย์กลางกายและวางใจเป็น
在睡觉前和睡醒后的那一段时间,是我们应该将心安放在身体中心 点的时间。因为那一段时间是心非常接近宁静的时间段。因此在睡觉之 前,我们应用透明的心去轻轻的触碰身体中心点,直至睡着。而在睡醒 后,第一件要意念的事就是身体中心第七点,能够习惯于身体的中心以 及懂得安放心。
นอกจากนี้ การทำการบ้าน 10 ข้อ ก็สามารถช่วยทำให้ตัวของเราคุ้นกับการวางใจ ไว้ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ถือเป็นบทฝึกอย่างดีเยี่ยม ในการฝึกรักษาใจให้ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งการบ้านทั้ง 10 ข้อนั้น เคยได้กล่าวไว้แล้วในสมาธิ 1 คือ
1.นำบุญไปฝากคนที่บ้าน
2.จดบันทึกผลการปฏิบัติธรรม
3.ก่อนนอนนึกถึงบุญที่สั่งสมมาทั้งหมด
4.เวลานอนหลับให้หลับในอู่แห่งทะเลบุญ
5.เวลาตื่นนอนให้ตื่นในอู่แห่งทะเลบุญ
6. เมื่อตื่นแล้วให้รวมใจเป็นหนึ่งกับองค์พระ 1 นาที ใน 1 นาทีนั้น ให้นึกว่าเราโชคดี ที่รอดตายมาได้อีกหนึ่งวัน ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง หลายจงมีความสุข อันตัวเรานั้น ตายแน่ ตายแน่
7.ทั้งวันให้ทำความรู้สึกว่า ตัวเราอยู่ในองค์พระ องค์พระอยู่ในตัวเรา ตัวเราเป็นองค์พระ องค์พระเป็นตัวเรา
8.ทุก 1 ชั่วโมง ขอ 1 นาที เพื่อหยุดใจ นึกถึงดวง องค์พระ หรือทำใจนิ่งๆ ว่างๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
9.ทุกกิจกรรมตั้งแต่ตื่นนอน ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า อาบน้ำ แต่งตัว รับประทานอาหาร ล้างจาน กวาดบ้าน ออกกำลังกาย ขับรถ ทำงานให้นึกถึงดวง หรือองค์พระไปด้วย
10.สร้างบรรยากาศให้ดี สดชื่น ด้วยรอยยิ้มและปิยวาจา
除此之外,做十项功课也可以帮助我们习惯于将心安放在身体中心 第七点。这十项功课对一整天的护持心,起到非常重要的作用。因此这 十项功课已经在《禅定一》中有介绍,即是:
第一、回家后,与家人分享所修的功德。
第二、记录自己禅修的经验。
第三、睡前,回忆起,当天所修过的功德。
第四、睡在福海,睡在福海里。
第五、醒在福海,也从福海里醒起
第六、当睡醒时,将心于体内的佛一分钟,在这一分钟内,庆幸自 己能多活了一天,愿众生都快乐,也想到自己也会有死亡的一天。
第七、整天都要感觉到,我在佛身中,佛也在我身中。我是佛,佛 是我。
第八、每个小时抽出一分钟,将心静止于水晶球或者佛像中,或者 将心静止,在我们身体的中心点。
第九、每一种活动,从起床开始,不管您是洗脸,洗澡,穿衣服, 用餐洗餐具,打扫,运动,开车或者上班,都同时意念到水 晶球,或者佛像。
第十、营造良好的禅修气氛,要微笑和练习悦语。
7.7 ผลเสียจากการวางใจไม่เป็น
7.7 不会安放心的弊处
การวางใจนี่สำคัญมาก ถ้าใครวางใจไม่เป็น สิบปีก็ไม่ได้ผล บางคนตลอดชีวิตไม่พบเลย แสงสว่างเป็นอย่างไร7)
เพราะการเข้าถึงธรรมจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย
อยู่ที่ว่าเราวางใจได้ถูกส่วน วางกันเป็นหรือเปล่า
ทั้งนี้เพราะศูนย์กลางกายก็เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัว
การวางใจจึงถือเป็นศิลปะ คือต้องรู้จักใช้ รู้จักทำ เหมือนแม่ครัว
ผู้มีศิลปะในการปรุงอาหาร ที่รู้จักปรุงอาหารให้น่าเคี้ยวน่ากิน
ใจของเราก็เช่นกัน ควรปรับปรุงศูนย์กลางกายให้ยอมรับ
โดยให้ใจป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ศูนย์กลางกาย แล้วก็จะคุ้นเคย
และยอมรับใจของเราได้
安放心的这个关节非常重要。如果谁不懂得做,禅定的时候就会没 有效果。甚至有些人一生都无法看见,也不知道光亮是怎样^因为证入 法身说容易也容易,说难也难,这些都要取决于我们是否懂得正确的安 放心。因为身体的中心点原本就已经存在于体内。而安放心则被认为是 一种艺术,即是要懂得使用,要懂得做,就好像厨师是烹饪中的艺术大 师,懂得将食物烹饪得色香味俱全。而我们的心也是一样的道理,要调 整心使其恰当的安放于身体中心点。因此,要让心盘旋在身体中心点周 围,使中心点熟悉并能够接受我们的心。
ถ้าเราไม่ฝึกจรดใจที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา เวลานั่งใจจะรวมได้ช้า ต้องมัวปัดของเก่าออก ทำให้เสียเวลา
如果我们不练习将心与身体中心点一直连接在一起,禅定的时候心 就很难与身体中心点融合在一起,从而需要忙于将旧的东西清理出去, 而这样做又将会浪费很多时间。
ดังนั้น เราจึงต้องหมั่นตรวจตราดูตัวเองอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้สิ่งที่เศร้าหมองเข้ามา เคลือบแคลงแฝงในจิตใจของเรา ให้ใจใส เยือกเย็น สังเกตว่าทำอย่างไรถึงจะเข้าถึงตรงจุดที่สบาย โล่ง โปร่ง เบา สังเกตแล้วทำให้ได้ ให้หมั่นสังเกตว่าเรามีข้อบกพร่องอะไร ทำไมใจถึงไม่หยุด พบแล้วต้องแก้ไข เมื่อทำได้เช่นนี้ เราจะก็สมหวังในการปฏิบัติธรรม
因此,我们要时常审查自己,不要让烦恼的事情进入我们心里,并 长期潜伏在心中。我们应让心透明、平静。观察如何才能正确的到达舒 服、空旷、宽松的地方。当观察之后要做到,并使之稳固,同时也要观 察和了解自己的不足,为什么我们的心不能宁静下来,当遇到之后就要 想办法去解决。当能够做好以上这些,我们可以在修行中如愿以偿。
安放心的这个关节非常重要。如果谁不懂得做,禅定的时候就会没 有效果。甚至有些人一生都无法看见,也不知道光亮是怎样^因为证入 法身说容易也容易,说难也难,这些都要取决于我们是否懂得正确的安 放心。因为身体的中心点原本就已经存在于体内。而安放心则被认为是 一种艺术,即是要懂得使用,要懂得做,就好像厨师是烹饪中的艺术大 师,懂得将食物烹饪得色香味俱全。而我们的心也是一样的道理,要调 整心使其恰当的安放于身体中心点。因此,要让心盘旋在身体中心点周 围,使中心点熟悉并能够接受我们的心。
ถ้าเราไม่ฝึกจรดใจที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา เวลานั่งใจจะรวมได้ช้า ต้องมัวปัดของเก่าออก ทำให้เสียเวลา
如果我们不练习将心与身体中心点一直连接在一起,禅定的时候心 就很难与身体中心点融合在一起,从而需要忙于将旧的东西清理出去, 而这样做又将会浪费很多时间。
ดังนั้น เราจึงต้องหมั่นตรวจตราดูตัวเองอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้สิ่งที่เศร้าหมองเข้ามา เคลือบแคลงแฝงในจิตใจของเรา ให้ใจใส เยือกเย็น สังเกตว่าทำอย่างไรถึงจะเข้าถึงตรงจุดที่สบาย โล่ง โปร่ง เบา สังเกตแล้วทำให้ได้ ให้หมั่นสังเกตว่าเรามีข้อบกพร่องอะไร ทำไมใจถึงไม่หยุด พบแล้วต้องแก้ไข เมื่อทำได้เช่นนี้ เราจะก็สมหวังในการปฏิบัติธรรม
因此,我们要时常审查自己,不要让烦恼的事情进入我们心里,并 长期潜伏在心中。我们应让心透明、平静。观察如何才能正确的到达舒 服、空旷、宽松的地方。当观察之后要做到,并使之稳固,同时也要观 察和了解自己的不足,为什么我们的心不能宁静下来,当遇到之后就要 想办法去解决。当能够做好以上这些,我们可以在修行中如愿以偿。
วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559
บทที่ 6 การรักษาสมาธิ 第六章护持禅定
บทที่ 6 การรักษาสมาธิ
第六章护持禅定
การประคองรักษาสมาธิ มีความสำคัญในการเกื้อหนุนให้การนั่งสมาธิในรอบต่อๆ ไปได้ผลดี การที่เรารักษาสมาธิของเราให้ต่อเนื่องจะทำให้ใจของเรามีความละเอียดประณีต ไปตามลำดับจนเมื่อใจของเรามีความละเอียดเพียงพอ ก็จะเข้าถึงธรรม การที่เราจะรักษาสมาธิได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันนั้น การทำกิจกรรมของเราในแต่ละวันมีความสัมพันธ์กันอย่างยิ่ง สิ่งที่เราคิดพูดทำทุกอย่างจะมีผลต่อการรักษาสมาธิของเราให้คงอยู่ต่อไป เนื้อหาในบทเรียนจะให้คำแนะนำว่า เราควรจะทำอย่างไรในชีวิตประจำวันเพื่อให้สมาธิของเรามีความละเอียดอยู่ตลอด เวลา对静定的护持,有一个非常重要的促进作用,会让下一次的禅定获 得更好的经验。如果我们能够一直很好的去护持静定,就会让我们的心 逐渐的变成精致细腻,当我们的心足够的精细之后,就能够证入佛法了。
要想一整天都维持禅定的状态,与我们每天的活动有着紧密的联系。 我们所想的,所说的和说做的事,都会对静定的护持产生影响。为了让 我们能够一直拥有精细的静定状态,本章节的内容将介绍有关日常的生 活中我们应该要注意的事项。
สิ่งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมต่อการเจริญภาวนา
นักศึกษาควรเรียนรู้สิ่งที่ไม่เหมาะแก่การเจริญสมาธิ(อสัปปายะ) และสิ่งที่เหมาะแก่การ เจริญภาวนา(สัปปายะ) ที่เป็นเครื่องช่วยในระหว่างประคองใจรักษาสมาธิของเราให้คงอยู่ ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ได้อธิบายไว้ว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้รักษาสมาธิของเราไว้ได้ คือช่วยรักษานิมิต ในการทำสมาธิ ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงขั้นเป็นปฏิภาคนิมิต ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 หัวข้อ1) คือ
1.อาวาส ที่อยู่ ที่อาศัย ที่หลับและที่นอน
2.โคจร สถานที่ที่ควรไป
3 ภัสสะ ถ้อยคำ
4.ปุคคละ บุคคล
5.โภชนะ อาหาร
6.อุตุ ฤดู
7.อิริยาบถ การเดิน นั่ง นอน
适合默念与不适合默念的事情
学员们应该去了解那些不适合于禅定的事情,以及适合默念的事情。 因为它们能够对我们在护持心和禅定方面起到促进的作用。在《清净道 论》中解释道:“能够帮助我们护持静定的东西。”即是在静定中有助于 所缘的护持,从最初阶段一直到似相。因此,可以划分出七个要点,分 别为:
1)寄居处
2)值得居住的场所[gocara]
3 )目词[Massa]
4)人[pugga!a]
5)食物[bhojana]
6 )季节[utu]
7)行、坐、卧的姿势[iriyapah]
6.1 ที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม
มีข้อแนะนำว่า ผู้ปฏิบัติเข้าไปพักอาศัยอยู่ในสถานที่ใด
นิมิตที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็สูญหายไป
สติที่ยังไม่ปรากฏก็ไม่ปรากฏขึ้น จิตใจที่ยังไม่สงบ ยังไม่ตั้งมั่น
ก็ยังคงไม่มั่นคงเหมือนเดิม สถานที่เหล่านั้นเป็น “ อสัปปายะ”
ไม่เหมาะสมแก่ผู้ปฏิบัติ
6. 1适合和不适合的寄居场所
有这样一个建议:如果某一个场所,当修行者进去居住之后,如在 先前没有产生所缘,那么最后也不会产生;而即使是已经产生,那么最 后也会消失。如正念还没有出现,那么也不会再出现;如心灵还没有稳定, 那么就可能和原先一样不稳固。像这样的场所被称之为“不安逸”的场 所,也不适合修行者居住。、
ส่วนสถานที่ใด ผู้ปฏิบัติเข้าไปพักอาศัยอยู่แล้ว นิมิตที่ยังไม่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้วก็ตั้งมั่น อยู่ได้ไม่หายไป สติที่ยังไม่ปรากฏก็ปรากฏขึ้น จิตใจที่ยังไม่สงบไม่ตั้งมั่น ก็มีความสงบตั้งมั่นได้ สถานที่เหล่านั้นเป็น “ สัปปายะ” แก่ผู้ปฏิบัติ
如果某一个场所,当修行者进去居住之后,之前没有产生的所缘, 却在现在产生了,而且一直都没有消失。没有出现的正念出现了,同时 还没有稳定的心灵,也变得稳固了,那么这个场所被称之为“安逸”的 场所,适合修行者居住。
สถานที่อยู่จึงมีผลต่อความละเอียดของใจ ลักษณะของพื้นที่ที่เป็นสัปปายะมีข้อแนะนำ ดังต่อไปนี้ คือ
1.ความสะอาดของสถานที่ปฏิบัติธรรม
สถานที่ที่สะอาดจะมีผลทำให้สภาพจิตใจผ่องใสมากขึ้น ผู้ปฏิบัติธรรมควรเลือกสถานที่ หรือควรทำสถานที่ที่อยู่นั้นให้สะอาด เพราะจะมีผลทำให้จิตใจของเราสะอาด คือสะอาดทั้งภายนอกและสะอาดทั้งภายใน
ดังตัวอย่างที่เราจะพบได้จากคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงที่ท่านมีคุณธรรมในการดูแลรักษาความสะอาดอย่างสูง โดยอาคารสถานที่ สิ่งของของท่านทุกอย่างจะมีความสะอาดทุกด้าน ตั้งแต่ด้านบนหลังคาจนถึงใต้ถุนบ้าน นิสัยความรักในการทำความสะอาด ทำให้จิตใจของท่านหยุดนิ่งได้ง่าย
2.ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ปฏิบัติธรรม ควรเลือกหรือควรดูแลสถานที่ ให้มีความเป็นระเบียบ ไม่รกรุงรัง ซึ่งจะทำให้จิตใจผ่องใสขึ้น
如果居住的场所能够让心变得精细,那么这个场所被称之为“安 逸”的地方,且应该具备以下的特征,即:
1.修行场所干净
干净的场所将会让心情更加的明亮,佛法修行者应该选择适合的 场所,或者应该做好所在场所的清洁卫生。因为干净的场所将会让我 们的心也变得洁净起来,也会让我们的内在和外在都变得更加的整洁。
我们可以以詹老奶奶作为榜样,因为她在保持清洁卫生方面有崇 高的德行。因此她的住所和物品等各方面,都非常的干净整洁。喜欢 做清洁卫生的本性,让詹老奶奶的心能够很容易的进入宁静。
2.佛法修行场所的整齐有序
应该选择或者保持整齐有序的修行场所,不杂乱无章,这样将会 让心变得更加的明亮。
6. 1适合和不适合的寄居场所
有这样一个建议:如果某一个场所,当修行者进去居住之后,如在 先前没有产生所缘,那么最后也不会产生;而即使是已经产生,那么最 后也会消失。如正念还没有出现,那么也不会再出现;如心灵还没有稳定, 那么就可能和原先一样不稳固。像这样的场所被称之为“不安逸”的场 所,也不适合修行者居住。、
ส่วนสถานที่ใด ผู้ปฏิบัติเข้าไปพักอาศัยอยู่แล้ว นิมิตที่ยังไม่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้วก็ตั้งมั่น อยู่ได้ไม่หายไป สติที่ยังไม่ปรากฏก็ปรากฏขึ้น จิตใจที่ยังไม่สงบไม่ตั้งมั่น ก็มีความสงบตั้งมั่นได้ สถานที่เหล่านั้นเป็น “ สัปปายะ” แก่ผู้ปฏิบัติ
如果某一个场所,当修行者进去居住之后,之前没有产生的所缘, 却在现在产生了,而且一直都没有消失。没有出现的正念出现了,同时 还没有稳定的心灵,也变得稳固了,那么这个场所被称之为“安逸”的 场所,适合修行者居住。
สถานที่อยู่จึงมีผลต่อความละเอียดของใจ ลักษณะของพื้นที่ที่เป็นสัปปายะมีข้อแนะนำ ดังต่อไปนี้ คือ
1.ความสะอาดของสถานที่ปฏิบัติธรรม
สถานที่ที่สะอาดจะมีผลทำให้สภาพจิตใจผ่องใสมากขึ้น ผู้ปฏิบัติธรรมควรเลือกสถานที่ หรือควรทำสถานที่ที่อยู่นั้นให้สะอาด เพราะจะมีผลทำให้จิตใจของเราสะอาด คือสะอาดทั้งภายนอกและสะอาดทั้งภายใน
ดังตัวอย่างที่เราจะพบได้จากคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงที่ท่านมีคุณธรรมในการดูแลรักษาความสะอาดอย่างสูง โดยอาคารสถานที่ สิ่งของของท่านทุกอย่างจะมีความสะอาดทุกด้าน ตั้งแต่ด้านบนหลังคาจนถึงใต้ถุนบ้าน นิสัยความรักในการทำความสะอาด ทำให้จิตใจของท่านหยุดนิ่งได้ง่าย
2.ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ปฏิบัติธรรม ควรเลือกหรือควรดูแลสถานที่ ให้มีความเป็นระเบียบ ไม่รกรุงรัง ซึ่งจะทำให้จิตใจผ่องใสขึ้น
如果居住的场所能够让心变得精细,那么这个场所被称之为“安 逸”的地方,且应该具备以下的特征,即:
1.修行场所干净
干净的场所将会让心情更加的明亮,佛法修行者应该选择适合的 场所,或者应该做好所在场所的清洁卫生。因为干净的场所将会让我 们的心也变得洁净起来,也会让我们的内在和外在都变得更加的整洁。
我们可以以詹老奶奶作为榜样,因为她在保持清洁卫生方面有崇 高的德行。因此她的住所和物品等各方面,都非常的干净整洁。喜欢 做清洁卫生的本性,让詹老奶奶的心能够很容易的进入宁静。
2.佛法修行场所的整齐有序
应该选择或者保持整齐有序的修行场所,不杂乱无章,这样将会 让心变得更加的明亮。
6.2 สถานที่ควรไป (โคจร) และไม่ควรไป (อโคจร)
โคจร คือ บุคคลหรือสถานที่ที่บุคคลควรไปมาหาสู่
หมู่บ้านหรือท้องถิ่นที่เข้าไปแล้วมีผลทำให้กิเลส
ที่นอนเนื่องอยู่ภายในเกิดฟุ้งขึ้น
ใจที่ไม่สงบจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติ
และเป็นเหตุนำความเศร้าหมองมาสู่ใจนานาประการ
สถานที่นั้นเป็นสถานที่ไม่ควรไป
สำหรับสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่นักปฏิบัติสมาธิในการเข้าไปอันจะเป็นเหตุให้
ธรรมะหายไป คือแหล่ง ของสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขทั้ง 6 ประการ
ได้แก่
6.2应该去的场所(行处)和不应该去的场所(非行处)
非行处是指不适合于人来往的人或场所。当该地方进去后会让人产 生烦恼,心无法宁静,这样将会对修行者造成危害,也会让心理的各个 方面受伤害,这样的场所不应该去。
不适合修行者的场所,进去之后会让佛法消失,而这种场所正是与 六种歪门邪道有关,分别为:
1.สถานที่เที่ยวกลางคืน การเที่ยวกลางคืน หมายถึงการไปเที่ยวเตร็ดเตร่หาความสำราญในเวลากลางคืน ตามแหล่งบริการ ที่ส่งเสริมให้เกิดตัณหาราคะ ความกำหนัดและกามารมณ์ ปัจจุบันแหล่งบริการประเภทนี้มีอยู่มากมายทั้งในเมืองใหญ่และในชนบท และมีชื่อเรียกต่างๆ กันไป เช่น บาร์ ผับ อาบอบนวด ดิสโก้เธค ไนต์คลับ ฯลฯ
1.夜店
夜晚游逛,意思是在晚上的时间,出来闲逛寻找乐趣。各种的服务 诱发了色狼、情欲与色情的产生。现今这一类的服务行业在大城市和农 村都存在很多,并且还会有各种各样不同的称呼,例如:酒吧、按摩店、 迪斯科、夜总会等等。
2.สถานที่ที่มีการละเล่น การดูการละเล่น หมายถึงการดูมหรสพต่างๆ นั่นเอง พึงเข้าใจว่า พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงห้าม เรื่องนี้โดยเด็ดขาด อาจจะไปดูบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจไม่ถือว่าเป็นเรื่อง เสียหาย สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงชี้โทษ คือการหมกหมุ่นกับสิ่งบันเทิงเริงรมย์เหล่านี้ ทำให้ใจหมกหมุ่น คิดวนอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมีผลทำให้ใจเศร้าหมอง เมื่อใจเศร้าหมองก็เป็นเหตุปิดทางมรรคผลและไปสู่อบาย ซึ่งลักษณะของผู้ที่เป็นอย่างนี้ จะเป็นดังนี้ คือ
1)รำที่ไหนไปที่นั่น
2)ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น
3)ประโคมที่ไหนไปที่นั่น
4)เสภาที่ไหนไปที่นั่น
5)บรรเลงที่ไหนไปที่นั่น
6)เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น
2.游戏厅
游戏,意思是各种各样的娱乐。我们应该知道,虽然佛陀没有指明 绝对禁止这些娱乐,为了放松心情,偶尔去一下,也不会有所伤害。但 佛陀明确指出的是,这些娱乐会让心沉迷,让心变得忧愁。当心变得忧 郁之后,就会关闭通往善道之路,成为走向毁灭的原因。这类型的人将 会有如下特征,即为:
1)哪里有跳舞就会去那里
2)哪里有唱歌就会去那里
3)哪里有奏乐就会去那里
4)哪里有吟咏就会去那里
5)哪里有演奏就会去那里
6)哪里有鼓声就会去那里
ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ย่อมฟ้องว่า ใจของเขาหมกหมุ่นและฟุ้งซ่านเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ทำให้ใจของเขาเศร้าหมองอยู่เนืองๆ ธรรมะจะไม่ก้าวหน้าและเข้าถึงธรรมได้ยาก
不管是谁,要是有这种行为,就可以认定他的心已沉迷于这些娱乐, 也因此让他的心一直忧愁,不能精进修行,也很难证入法身。
3.สถานที่มีการเล่นการพนัน
การเล่นการพนันมีแต่โทษอย่างเดียว หาคุณไม่ได้ ผู้ที่ติดการพนันจะมีใจที่เศร้าหมองอย่างมากเพราะจิตของผู้เล่นการพนัน เป็นมิจฉาสมาธิอย่างแรง เนื่องจากผู้ที่เข้าวงการพนันทุกคนต่างหวังที่จะเข้าไปได้ ไม่มีใครหวังที่จะเข้าไปเสีย นั่นคือ มุ่งที่จะทำให้คนอื่นฉิบหายนั่นเอง แต่ในที่สุด ความฉิบหายก็ย้อนมาสู่ตนเองอย่างหนีไม่พ้น ใครก็ตามที่เข้าไปมีส่วนร่วมย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง นอกจากไม่ได้สัมมาสมาธิแล้วตายไปยังไปตกนรกลึกคือไปนรกขุม 6
3.赌场
赌博只有害处,没有半点好处。喜欢赌博之人的心会非常忧愁。因 为赌博之人的心灵有非常强烈的邪定。进入赌局里的每一个人都希望有 所收获,没有一个人进去之后想输掉,其目的就是为了让他人倾家荡产, 可是到头来自己也逃脱不了倾家荡产的危险。无论是谁,只要进去参与 就一定会让心变得忧愁。最后,除了没有正定之外,还会坠落到地狱的 第六层中。
4.สถานที่ที่บุคคลเสพสุรา
เป็นสถานที่ที่รวมของผู้ที่มีใจเศร้าหมอง ขาดสติ
5.สถานที่มีคนพาล
ท่านกล่าวกันว่า บุคคลที่อยู่ใกล้คนชั่ว จิตใจจะซึมซับความชั่วได้ง่ายกว่าความดีเพราะมีลักษณะตามกระแส ดังนั้นใครก็ตามที่คบคนชั่วเป็นมิตร ย่อมจะถูกชักนำให้ทำความชั่วได้ง่ายเป็นทางมา แห่งความเสื่อมของมรรคผลนิพพาน
ดังตัวอย่างของบุตรเศรษฐี2) ที่มีทรัพย์ถึง 160 โกฏิ3) แต่เพราะอาศัยมิตรที่เป็นพาลชักชวน เข้าสู่วงเหล้า ภายหลังจึงต้องเป็นขอทานและเสื่อมจากมรรคผล พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าหากเขาได้เข้า สู่เพศพรหมจรรย์ตั้งแต่ยังหนุ่ม จะได้เป็นพระอรหันต์ แต่หากไม่บวชแต่ยังหนุ่ม มาบวชเมื่อเริ่มมีอายุ จะได้เป็นพระอนาคามี ถ้าหากในบั้นปลายก่อนทรัพย์จะหมดไป ได้เข้ามาบวชแล้วจะได้เป็นพระสกทาคามี แต่สุดท้ายกลับต้องพลาดจากมรรคผลเพราะอาศัยคนพาล
ท่านจึงว่า การคบคนพาลนั้นเป็นโทษมากเพราะเป็นการปิดทางมรรคผลนิพพาน
6.สถานที่ที่เป็นที่รวมของคนเกียจคร้านในการทำงาน
การทำงานและการประกอบอาชีพเป็นหน้าที่ของทุกคนเนื่องจากทุกคนมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยปัจจัย 4 การทำงานประกอบอาชีพก็เพื่อหาทรัพย์สินมาเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนกับปัจจัย 4 เพื่อสงเคราะห์ ญาติมิตรเพื่อนฝูง ตลอดจนเพื่อบริจาคเป็นทานกุศล สั่งสมบุญไว้ในภพเบื้องหน้าต่อไป
คนที่เกียจคร้านในการทำงานหรือทำงานคั่งค้าง เกียจคร้านในการทำมาหากิน ปล่อยเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์ ถือว่าเป็นคนที่ตายแล้วทั้งทางด้านความคิดและความดี
คนบางคนเกียจคร้านในการทำมาหากินทั้งๆ ที่ยากจน แล้วยังหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการเอาเปรียบผู้อื่น ทำลายสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์ของตัว คนที่เป็นคนเกียจคร้านจึงเอาดีไม่ได้ เพราะกิเลส ที่นอนเนื่องอยู่ย่อมเบียดบังใจ ทำให้เห็นธรรมะในตัวได้ยาก
โคจรและอโคจรสำหรับพระภิกษุสงฆ์
โคจร4) หมายถึง บุคคลหรือสถานที่ซี่งพระภิกษุควรไปมาหาสู่ หรือสิ่งที่พระภิกษุควรเข้าไปเกี่ยวข้อง พระภิกษุที่ตั้งอยู่ในโคจรควรเข้าไปเฉพาะที่ที่ควรไปเท่านั้น เช่นสถานที่ หรือบุคคลที่อำนวยประโยชน์ต่อการศึกษา ค้นคว้าหรือการประพฤติพรหมจรรย์ของพระภิกษุโดยตรง
โคจรแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ5) ได้แก่
1.โคจรที่ควรเข้าไปอาศัย
2.โคจรที่ควรรักษา
3.โคจรที่ควรใส่ใจ
僧人的行处与非行处
行处Gowrn,意思是适合于僧人往来的人或场所,及僧人应该进去 参与的事情。僧人只会来往于应该来往的行处,例如,提供教育帮助的 场所或人,或同样是修梵行的僧人。
行处具备有三个特征,分别为:
1. 应该进去居住的行处
2.应该护持的行处
3.应该关心的行处
1.โคจรที่ควรเข้าไปอาศัย หมายถึง กัลยาณมิตรที่ถึงพร้อม ด้วยกถาวัตถุ 10 ประการ ดังจะกล่าวถึงต่อไป
2.โคจรที่ควรรักษา หมายถึงมรรยาทหรืออาจาระที่ดีงามของพระภิกษุ เช่น การเดินสงบเสงี่ยม สายตาทอดลงต่ำ ไม่เหลียวซ้ายแลขวา ดูหญิงดูชาย หรือสิ่งของต่างๆ จนปราศจากความสำรวม
3.โคจรที่ควรใส่ใจ คือที่ที่ใจควรเที่ยวไป ในที่นี้ท่านหมายถึงสติปัฏฐาน 4 คือ
1)กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นกายในกายหรือกายต่างๆ ที่ซ้อนกัน อยู่ในกายมนุษย์นี้ นับตั้งแต่กายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝัน จนกระทั่ง ถึงกายธรรมระดับต่างๆ
2)เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นเวทนาในเวทนา คือ ความรู้สึกสุขทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์ ของกายต่างๆ ที่ซ้อนกันอยู่ในกายมนุษย์นี้
3)จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นจิตในจิต คือดวงจิตของกายต่างๆ ที่ซ้อนกันอยู่ในกายมนุษย์
4)ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นธรรมในธรรม คือดวงธรรม ที่ทำให้เป็นกายต่างๆ ตั้งแต่กายมนุษย์จนถึงกายธรรม
1.应该进去居住的行处,其意思为:具备十项论事的善知识、
2.应该护持的行处,其意思为:僧人庄严的礼仪或者德行。例如,行走 时安静而端庄,眼睛要往下看,不左右张望去看人或其他事物,从而 导致注意力被分散。
3.应该关心的行处,是心所向往之地,在这里指的是四念处,即:
1)观身念处,意思是用正念去观人类的身内身,或是重叠在人类体 内的各种身。从细人身或梦身,一直到各种等级的法身。
2)观受念处,意思是用正念去观受中受。即是感受重叠于人身的各 种身之幸福和痛苦,或不幸福与不痛苦。
3)观心念处,意思是用正念去观心内心。即是重叠在人身的各种身 之心。
4)观法念处,意思是用正念去官法中法。即是法球展现出来的各种身, 从人身一直到法身。
ตรงกันข้ามกับโคจรคืออโคจร
อโคจรหมายถึงบุคคลหรือสถานที่ที่ซึ่งพระภิกษุไม่ควรเข้าไปมาหาสู่ มี 6 อย่าง คือ
หญิงแพศยา(โสเภณี) หญิงหม้าย สาวเทื้อ(สาวแก่) ภิกษุณี บัณเฑาะก์ และร้านสุรา
ในสภาพสังคมปัจจุบัน อโคจรนั้นมีอยู่มากมายเกินกว่า 6 อย่างดังกล่าว เช่น ในโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ต่างๆ และศูนย์การค้า เป็นต้น พระภิกษุไม่ควรจะเข้าไปเพราะเป็นเหตุแห่งความฟุ้งซ่านทางใจ การนึกนิมิตจะเห็นผิดได้ง่ายเพราะได้จดจำสิ่งที่ไม่เป็นทางมาแห่งกุศล และอันตรายย่อมเกิดแก่ ภิกษุที่เที่ยวไปในที่ที่ไม่ควรไป
与行处相反的是非行处
非行处Agocara的意思为:不适合于僧人往来的人或场所。有六种, 分别为:
娼妓(妓女)、寡妇、老女人(老处女)、比丘尼、人妖和酒店。
在当今的社会中,非行处比以上提到的六种还多。例如,各种娱乐 场所和购物中心等等。这些地方僧人都不应该进去,因为这些都是让心 散乱的原因。在意念所缘的时候,会容易出错,因为记住了一些不是来 自于善道的事物,这将会给那些去了不该去的地方的僧人带来危险。
อย่างไรก็ตาม สถานที่อโคจร ถ้าเขานิมนต์ด้วยกิจอันสมควร พระภิกษุก็สามารถไปปฏิบัติ หน้าที่ในฐานะนักบวชได้ แต่จะต้องไม่ไปด้วยเรื่องอื่นนอกจากกิจนิมนต์ เช่นไปสนทนาปราศรัยอย่างสามัญชนทั่วไป เพราะอาจจะถูกเข้าใจว่ามีความประพฤติผิดพระธรรมวินัย เป็นพระภิกษุที่น่ารังเกียจ
无论如何,对于非行处的场所,如果是居士虔诚的邀请,那么僧人 就可以以僧侣的身份去那里。除了被邀请之外,其他的事情是不能去的。 因为那种行为可能会被视为是触犯佛法戒律,这种僧人是令人憎恶的。
สำหรับถ้อยคำอันไม่สมควรนั้นท่านแบ่งไว้เป็นสองส่วนคือ
1.ติรัจฉานกถา ติรัจฉานกถาเป็นถ้อยคำที่เป็นเครื่องขัดขวางกับมรรคผลนิพพานนั้น มีดังนี้
1)พูดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับกษัตริย์ รวมถึงราชตระกูล
2)พูดเรื่องโจรต่างๆ
3)พูดเรื่องมหาอำมาตย์ราชมนตรีที่เป็นคณะรัฐบาล
4)พูดเรื่องทหารตำรวจ
5)พูดเรื่องภัยต่างๆ
6)พูดเรื่องยุทธศาสตร์การรบ
7)พูดเรื่องอาหารการกิน มีข้าวและกับเป็นต้น
8)พูดเรื่องเครื่องดื่มต่างๆ เช่น น้ำดื่มและสุรา
9)พูดเรื่องเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มต่างๆ
10)พูดเรื่องที่หลับที่นอน
11)พูดเรื่องระเบียบดอกไม้ต่างๆ
12)พูดเรื่องกลิ่นหอมต่างๆ
13)พูดเรื่องวงศ์ญาติ
14)พูดเรื่องยวดยานต่างๆ
15)พูดเรื่องหมู่บ้านต่างๆ
16)พูดเรื่องนิคมต่างๆ
17)พูดเรื่องจังหวัดต่างๆ
18)พูดเรื่องชนบทต่างๆ
19)พูดเรื่องผู้หญิง
20)พูดเรื่องผู้ชาย
21)พูดเรื่องความกล้าหาญ
22)พูดเรื่องถนนสายต่างๆ และผู้คนในถนนสายนั้น
23)พูดเรื่องท่าน้ำหรือเรื่องของคนรับใช้
24)พูดเรื่องวงศาคณาญาติที่ล่วงลับไปแล้ว
25)พูดเรื่องอื่นๆ โดยเว้นจากเรื่องแรกและเรื่องหลัง
26)พูดเรื่องใครเป็นผู้สร้างโลกหรือแผนที่โลก
27)พูดเรื่องมหาสมุทรเป็นคำถามว่า ทำไมมหาสมุทรจึงเรียกว่าสาคร คำตอบก็คือเพราะพระเจ้าสาครเป็นผู้สร้าง เป็นต้น
28)พูดเรื่องความเจริญและความเสื่อมว่า การกระทำดังนี้เป็นเหตุแห่งความเสื่อม การกระทำดังนี้เป็นเหตุแห่งความเจริญ เป็นต้น
29)พูดเรื่องป่า
30)พูดเรื่องภูเขา
31)พูดเรื่องแม่น้ำ
32)พูดเรื่องเกาะต่างๆ
6. 3应该说和不应该说的言词 不应该说的言词
对于不应该说的言词,分为两种;
1.畜生论
畜生论是阻碍通往涅槃的言词,有如下一些:
1)评论各种关于国王或皇室的言论
2)讲述各种盗贼的言论
3)讲述关于政府官员的言论
4)讲述关于军警的言论
5)讲述关于各种灾难的言论
6)讲述战略攻击的言论
7)讲述关于食物的言论,饭和菜肴等
8)讲述关于各种饮料的言论,例如:饮料和酒
9)讲述关于各种服装的言论
10)讲述关于睡觉的场所
11)讲述各种花的言论
12)讲述各种香味的言论
13)讲述关于亲戚的言论
14)讲述关于各种交通工具的言论
15)讲述各个村庄的言论
16)讲述各个乡镇的言论
17)讲述各个府的言论
18)讲述各种农村的言论
19)讲述关于女子的言论
20)讲述关于男子的言论
21)讲述勇敢的言论
22)讲述各个街道以及处在另个街道人的言论
23)讲述关于河边码头或仆人的言论
24)讲述已经往生了的亲属言论
25)讲述其他的事情,却不说事情的开头和结尾。
26)讲述哪个人是开创世界或者创造世界地图的人
27)讲述关于海洋的事情,冋到说为什么海洋被称之为江河,回答就 是因为河神是创造者等。
28)讲述发展与衰退的事情时,说如此的做法是衰退的原因,如此的 做法是发展的原因等。
29)讲述关于森林的言论
30)讲述关于山川的言论
31)讲述关于河流的言论
32)讲述关于岛屿的言论
ติรัจฉานกถาทั้ง 32 ประการดังที่ได้กล่าวมานี้ แม้ว่าบางอย่างจะเป็นประโยชน์ในทางโลกได้ก็จริง แต่ทว่าในด้านทางธรรมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติแล้ว ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างยิ่ง ฉะนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสว่าเป็นติรัจฉานกถา ส่วนในด้านการปริยัตินั้นส่วนมากก็คงเป็นอุปสรรคได้เช่นเดียวกัน กล่าวคือ ทำให้ไม่ได้รับผลดีเต็มที่จากการศึกษานั้นๆ ดังนั้น จึงเป็นติรัจฉานกถาฝ่ายด้านปริยัติอีกด้วย
以上所陈述到的这三十二项畜生论,虽然有些项在世俗中确实是有 益的,可是在佛法实践方面,却被认为是一种障碍。因此佛陀归类以上 所为是畜生论,包括在佛经里大部分则都认为是存在的障碍。同样的,也就 是说让我们无法学习到完整的知识,因此也会在理论方面的存在障碍。
ในติรัจฉานกถาทั้ง 32 นี้ ถ้าหากว่าได้กล่าวปรารภถึงคุณงามความดีของพระมหากษัตริย์ หรือผู้ใดผู้หนึ่งก็ตามที่มีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ดี หรือปรารภถึงผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ก็ดี หรือผู้ที่พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์ศฤงคารบริวารมากมายปานใดก็ดี เหล่านี้ล้วนแต่ต้องตกอยู่ในห้วงแห่งความตายด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้ายกขึ้นมากล่าวเปรียบเทียบ ประกอบการอธิบายข้อธรรมบางอย่างบางประการ ไม่จัดว่าเป็นโทษแต่ประการใด คงมีแต่การได้รับประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สำหรับนัก ปฏิบัติแล้ว ถ้าไม่มีหน้าที่ ก็ไม่จำเป็นต้องนำเอาเรื่องเหล่านี้มาคุยสนทนากันแต่อย่างใดทั้งสิ้น
在这三十二项畜生论中,如果谈及伟大国王的功绩或者任何人都好, 他们做了很多好事或卓越的事,或者拥有富足的财富和众多的侍从也好, 所有这些都处于生死轮回当中。如果在解释佛法时,拿出来做比较,也 不算是什么坏处,反而是好处。但无论如何,对于学习的人来说,如果 没有责任就不需要拿这些事情来谈论。
2.วิคคาหิกกถา
ส่วน “ วิคคาหิกกถา” คือถ้อยคำที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน เช่น ท่านเป็นผู้ถูกข้าพเจ้าข่มไว้ ข้าพเจ้าดีกว่าท่าน เป็นต้น มุ่งหมายให้เกิดการทุ่มเถียงกันไม่มีที่จบสิ้น เพราะการทุ่มเถียงกันย่อมเป็นการ ก่อโทสะให้เกิดขึ้นในใจของทั้งสองฝ่าย
วิคคาหิกกถา ล้วนแต่เป็นโทษ ไร้ประโยชน์ ทั้งฝ่ายด้านปริยัติและปฏิบัติ ตลอดจนถึงฝ่ายทางโลก กล่าวคือในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะทำลายความดีงามและความเจริญของตน พร้อมกับทำลายความสามัคคีของหมู่คณะอีกด้วย ครั้นถึงคราวที่จะละจากโลกนี้ไปก็ต้องไปสู่ทุคติภูมิอีก
ดังนั้น ผู้ที่มีความประสงค์ใคร่จะวางตนเป็นบัณฑิตหรือสัปบุรุษ ก็ควรเว้นจากถ้อยคำที่เป็นวิคคาหิกกถาเหล่านี้เสีย
2.争论
对于“争论”这个词,会使人与人之间产生争吵。例如,你被我欺 压,我比你好等,企图挑起无休止的争吵。而争吵必然会让双方的心产 生怒火。
争论,无论在佛经中还是在实践中,甚至是世俗方面,都是一种罪 恶,没有利益。也就是在还活着的时候,损坏美德与繁荣,同时还会破 坏集体的团结与和谐,当往生之后,会坠落恶道。
因此,有目标的人就会将自己变成智者或善人,也就远离这些争吵 的言词。
ถ้อยคำอันควรพูด
กถาวัตถุ 10 ประการ
ทางที่ถูกต้องคือควรเว้นคำพูดที่ทำให้ใจเศร้าหมองเสีย แต่ควรพูดแต่คำที่เป็นประโยชน์ต่อใจ เอื้อต่อสภาวธรรมภายใน คือ ดวงธรรม องค์พระ ในทางพระพุทธศาสนาท่านแบ่งไว้ 10 ประการเรียกว่า กถาวัตถุ
应该说的言词
十项论事
正确的做法应该排除那些让心忧愁的言词,而只说那些对心有益的言 词,善待体内的法身,即法球与佛像。在佛教中划分为十项,称之为论事。
กถาวัตถุ 10 ชื่อว่า ภัสสสัปปายะ เป็นถ้อยคำไม่ขัดกับมรรคผลนิพพาน มี 10 ประการ ดังนี้คือ
1)พูดเรื่องความมักน้อยในกามคุณ 5 ประการ ไม่พูดเรื่องมักมากในกามคุณ 5 ประการ อันได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่ผ่านเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
2)พูดเรื่องความพอใจตามมีตามได้ในสิ่งของของตนที่ได้มา หรือที่เกิดจากการมีความพอใจ ยินดีในทรัพย์ที่ได้มาโดยบริสุทธิ์
3)พูดเรื่องความสงัดทางกาย วาจา ใจ คือ การหลีกเร้นเข้าหาที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม เช่น เดินทางไปปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ เช่น ในถ้ำ ในป่าหรือรีสอร์ท เป็นต้น
4)พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับกามคุณอารมณ์ เรื่องเพศ เรื่องกาม
5)พูดเรื่องการขยันหมั่นเพียรในการทำความดี ในการสร้างบารมี
6)พูดเรื่องศีลที่ตนหรือผู้อื่นรักษาในทางสรรเสริญยกย่อง
7)พูดเรื่องสมาธิ คือพูดเรื่องการทำสมาธิ ผลของการปฏิบัติธรรม
8)พูดเรื่องปัญญา อาจเป็นธรรมะที่ได้ฟังมาจากพระอาจารย์
9)พูดเรื่องวิมุตติ คือ พูดเรื่องผลการปฏิบัติของผู้เข้าถึงสภาวธรรมภายในเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้น
10)พูดเรื่องวิมุตติญาณทัสสนะ
十论事,与涅槃不相矛盾的言词,一共有十项,如下:
1)讲述那些让五欲知足的事情,不讲述那些让五欲贪婪的事情。其包 括通过眼睛、耳朵、鼻子、舌头和身体接触后,产生的色、声、香、味、触。
2)讲述对自己所得物品感到满足的事情,或者对自己拥有的合法财富 感到知足。
3)讲述对身、口、意清净的事情,即:去寻找幽静的地方修行。例如 去到别的场所修行,如山洞、森林或度假村等。
4)讲述那些不关于五欲、性、情欲之事。
5)讲述关于勤修善行和波罗蜜之事。
6)讲述赞美自己或他人所持戒律之事。
7)讲述禅定的事情,即禅定修行的经验。
8)讲述智慧之事,可能是从师父那里听来的佛法。
9)讲述解脱之事,即:为了增加修行的信心,讲述那位能够证入法身 的人之修行经验。
10)讲述解脱知见之事。
กถาวัตถุ 10 ประการดังกล่าวมาแล้วนี้ แม้จะเป็นถ้อยคำที่ไม่ขัดกับมรรคผลนิพพานแต่ประการใด ก็จริง สำหรับนักปฏิบัติไม่ควรพูดมาก ควรพูดแต่พอประมาณ เพื่อจะได้รักษาสมาธิและปฏิภาคนิมิต ดังนั้น ท่านอรรถกถาจารย์จึงได้สั่งไว้ว่า แม้เป็นกถาวัตถุ 10 ก็ตาม ก็จง พูดแต่พอประมาณ อย่าให้มากเกินไปนัก
以上所讲的这十论事,虽然跟涅槃不相矛盾,但即使如此,修行者 也不应该多谈论,只需要适当就好,因为这样可以维持禅定和似相。因 此,论师就教导道:“即使是十论事,适当谈论就好,不应说过多。”
6.2应该去的场所(行处)和不应该去的场所(非行处)
非行处是指不适合于人来往的人或场所。当该地方进去后会让人产 生烦恼,心无法宁静,这样将会对修行者造成危害,也会让心理的各个 方面受伤害,这样的场所不应该去。
不适合修行者的场所,进去之后会让佛法消失,而这种场所正是与 六种歪门邪道有关,分别为:
1.สถานที่เที่ยวกลางคืน การเที่ยวกลางคืน หมายถึงการไปเที่ยวเตร็ดเตร่หาความสำราญในเวลากลางคืน ตามแหล่งบริการ ที่ส่งเสริมให้เกิดตัณหาราคะ ความกำหนัดและกามารมณ์ ปัจจุบันแหล่งบริการประเภทนี้มีอยู่มากมายทั้งในเมืองใหญ่และในชนบท และมีชื่อเรียกต่างๆ กันไป เช่น บาร์ ผับ อาบอบนวด ดิสโก้เธค ไนต์คลับ ฯลฯ
1.夜店
夜晚游逛,意思是在晚上的时间,出来闲逛寻找乐趣。各种的服务 诱发了色狼、情欲与色情的产生。现今这一类的服务行业在大城市和农 村都存在很多,并且还会有各种各样不同的称呼,例如:酒吧、按摩店、 迪斯科、夜总会等等。
2.สถานที่ที่มีการละเล่น การดูการละเล่น หมายถึงการดูมหรสพต่างๆ นั่นเอง พึงเข้าใจว่า พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงห้าม เรื่องนี้โดยเด็ดขาด อาจจะไปดูบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจไม่ถือว่าเป็นเรื่อง เสียหาย สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงชี้โทษ คือการหมกหมุ่นกับสิ่งบันเทิงเริงรมย์เหล่านี้ ทำให้ใจหมกหมุ่น คิดวนอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมีผลทำให้ใจเศร้าหมอง เมื่อใจเศร้าหมองก็เป็นเหตุปิดทางมรรคผลและไปสู่อบาย ซึ่งลักษณะของผู้ที่เป็นอย่างนี้ จะเป็นดังนี้ คือ
1)รำที่ไหนไปที่นั่น
2)ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น
3)ประโคมที่ไหนไปที่นั่น
4)เสภาที่ไหนไปที่นั่น
5)บรรเลงที่ไหนไปที่นั่น
6)เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น
2.游戏厅
游戏,意思是各种各样的娱乐。我们应该知道,虽然佛陀没有指明 绝对禁止这些娱乐,为了放松心情,偶尔去一下,也不会有所伤害。但 佛陀明确指出的是,这些娱乐会让心沉迷,让心变得忧愁。当心变得忧 郁之后,就会关闭通往善道之路,成为走向毁灭的原因。这类型的人将 会有如下特征,即为:
1)哪里有跳舞就会去那里
2)哪里有唱歌就会去那里
3)哪里有奏乐就会去那里
4)哪里有吟咏就会去那里
5)哪里有演奏就会去那里
6)哪里有鼓声就会去那里
ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ย่อมฟ้องว่า ใจของเขาหมกหมุ่นและฟุ้งซ่านเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ทำให้ใจของเขาเศร้าหมองอยู่เนืองๆ ธรรมะจะไม่ก้าวหน้าและเข้าถึงธรรมได้ยาก
不管是谁,要是有这种行为,就可以认定他的心已沉迷于这些娱乐, 也因此让他的心一直忧愁,不能精进修行,也很难证入法身。
3.สถานที่มีการเล่นการพนัน
การเล่นการพนันมีแต่โทษอย่างเดียว หาคุณไม่ได้ ผู้ที่ติดการพนันจะมีใจที่เศร้าหมองอย่างมากเพราะจิตของผู้เล่นการพนัน เป็นมิจฉาสมาธิอย่างแรง เนื่องจากผู้ที่เข้าวงการพนันทุกคนต่างหวังที่จะเข้าไปได้ ไม่มีใครหวังที่จะเข้าไปเสีย นั่นคือ มุ่งที่จะทำให้คนอื่นฉิบหายนั่นเอง แต่ในที่สุด ความฉิบหายก็ย้อนมาสู่ตนเองอย่างหนีไม่พ้น ใครก็ตามที่เข้าไปมีส่วนร่วมย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง นอกจากไม่ได้สัมมาสมาธิแล้วตายไปยังไปตกนรกลึกคือไปนรกขุม 6
3.赌场
赌博只有害处,没有半点好处。喜欢赌博之人的心会非常忧愁。因 为赌博之人的心灵有非常强烈的邪定。进入赌局里的每一个人都希望有 所收获,没有一个人进去之后想输掉,其目的就是为了让他人倾家荡产, 可是到头来自己也逃脱不了倾家荡产的危险。无论是谁,只要进去参与 就一定会让心变得忧愁。最后,除了没有正定之外,还会坠落到地狱的 第六层中。
4.สถานที่ที่บุคคลเสพสุรา
เป็นสถานที่ที่รวมของผู้ที่มีใจเศร้าหมอง ขาดสติ
5.สถานที่มีคนพาล
ท่านกล่าวกันว่า บุคคลที่อยู่ใกล้คนชั่ว จิตใจจะซึมซับความชั่วได้ง่ายกว่าความดีเพราะมีลักษณะตามกระแส ดังนั้นใครก็ตามที่คบคนชั่วเป็นมิตร ย่อมจะถูกชักนำให้ทำความชั่วได้ง่ายเป็นทางมา แห่งความเสื่อมของมรรคผลนิพพาน
ดังตัวอย่างของบุตรเศรษฐี2) ที่มีทรัพย์ถึง 160 โกฏิ3) แต่เพราะอาศัยมิตรที่เป็นพาลชักชวน เข้าสู่วงเหล้า ภายหลังจึงต้องเป็นขอทานและเสื่อมจากมรรคผล พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าหากเขาได้เข้า สู่เพศพรหมจรรย์ตั้งแต่ยังหนุ่ม จะได้เป็นพระอรหันต์ แต่หากไม่บวชแต่ยังหนุ่ม มาบวชเมื่อเริ่มมีอายุ จะได้เป็นพระอนาคามี ถ้าหากในบั้นปลายก่อนทรัพย์จะหมดไป ได้เข้ามาบวชแล้วจะได้เป็นพระสกทาคามี แต่สุดท้ายกลับต้องพลาดจากมรรคผลเพราะอาศัยคนพาล
ท่านจึงว่า การคบคนพาลนั้นเป็นโทษมากเพราะเป็นการปิดทางมรรคผลนิพพาน
6.สถานที่ที่เป็นที่รวมของคนเกียจคร้านในการทำงาน
การทำงานและการประกอบอาชีพเป็นหน้าที่ของทุกคนเนื่องจากทุกคนมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยปัจจัย 4 การทำงานประกอบอาชีพก็เพื่อหาทรัพย์สินมาเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนกับปัจจัย 4 เพื่อสงเคราะห์ ญาติมิตรเพื่อนฝูง ตลอดจนเพื่อบริจาคเป็นทานกุศล สั่งสมบุญไว้ในภพเบื้องหน้าต่อไป
คนที่เกียจคร้านในการทำงานหรือทำงานคั่งค้าง เกียจคร้านในการทำมาหากิน ปล่อยเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์ ถือว่าเป็นคนที่ตายแล้วทั้งทางด้านความคิดและความดี
คนบางคนเกียจคร้านในการทำมาหากินทั้งๆ ที่ยากจน แล้วยังหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการเอาเปรียบผู้อื่น ทำลายสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์ของตัว คนที่เป็นคนเกียจคร้านจึงเอาดีไม่ได้ เพราะกิเลส ที่นอนเนื่องอยู่ย่อมเบียดบังใจ ทำให้เห็นธรรมะในตัวได้ยาก
โคจรและอโคจรสำหรับพระภิกษุสงฆ์
โคจร4) หมายถึง บุคคลหรือสถานที่ซี่งพระภิกษุควรไปมาหาสู่ หรือสิ่งที่พระภิกษุควรเข้าไปเกี่ยวข้อง พระภิกษุที่ตั้งอยู่ในโคจรควรเข้าไปเฉพาะที่ที่ควรไปเท่านั้น เช่นสถานที่ หรือบุคคลที่อำนวยประโยชน์ต่อการศึกษา ค้นคว้าหรือการประพฤติพรหมจรรย์ของพระภิกษุโดยตรง
โคจรแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ5) ได้แก่
1.โคจรที่ควรเข้าไปอาศัย
2.โคจรที่ควรรักษา
3.โคจรที่ควรใส่ใจ
僧人的行处与非行处
行处Gowrn,意思是适合于僧人往来的人或场所,及僧人应该进去 参与的事情。僧人只会来往于应该来往的行处,例如,提供教育帮助的 场所或人,或同样是修梵行的僧人。
行处具备有三个特征,分别为:
1. 应该进去居住的行处
2.应该护持的行处
3.应该关心的行处
1.โคจรที่ควรเข้าไปอาศัย หมายถึง กัลยาณมิตรที่ถึงพร้อม ด้วยกถาวัตถุ 10 ประการ ดังจะกล่าวถึงต่อไป
2.โคจรที่ควรรักษา หมายถึงมรรยาทหรืออาจาระที่ดีงามของพระภิกษุ เช่น การเดินสงบเสงี่ยม สายตาทอดลงต่ำ ไม่เหลียวซ้ายแลขวา ดูหญิงดูชาย หรือสิ่งของต่างๆ จนปราศจากความสำรวม
3.โคจรที่ควรใส่ใจ คือที่ที่ใจควรเที่ยวไป ในที่นี้ท่านหมายถึงสติปัฏฐาน 4 คือ
1)กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นกายในกายหรือกายต่างๆ ที่ซ้อนกัน อยู่ในกายมนุษย์นี้ นับตั้งแต่กายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝัน จนกระทั่ง ถึงกายธรรมระดับต่างๆ
2)เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นเวทนาในเวทนา คือ ความรู้สึกสุขทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์ ของกายต่างๆ ที่ซ้อนกันอยู่ในกายมนุษย์นี้
3)จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นจิตในจิต คือดวงจิตของกายต่างๆ ที่ซ้อนกันอยู่ในกายมนุษย์
4)ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึงการตั้งสติตามเห็นธรรมในธรรม คือดวงธรรม ที่ทำให้เป็นกายต่างๆ ตั้งแต่กายมนุษย์จนถึงกายธรรม
1.应该进去居住的行处,其意思为:具备十项论事的善知识、
2.应该护持的行处,其意思为:僧人庄严的礼仪或者德行。例如,行走 时安静而端庄,眼睛要往下看,不左右张望去看人或其他事物,从而 导致注意力被分散。
3.应该关心的行处,是心所向往之地,在这里指的是四念处,即:
1)观身念处,意思是用正念去观人类的身内身,或是重叠在人类体 内的各种身。从细人身或梦身,一直到各种等级的法身。
2)观受念处,意思是用正念去观受中受。即是感受重叠于人身的各 种身之幸福和痛苦,或不幸福与不痛苦。
3)观心念处,意思是用正念去观心内心。即是重叠在人身的各种身 之心。
4)观法念处,意思是用正念去官法中法。即是法球展现出来的各种身, 从人身一直到法身。
ตรงกันข้ามกับโคจรคืออโคจร
อโคจรหมายถึงบุคคลหรือสถานที่ที่ซึ่งพระภิกษุไม่ควรเข้าไปมาหาสู่ มี 6 อย่าง คือ
หญิงแพศยา(โสเภณี) หญิงหม้าย สาวเทื้อ(สาวแก่) ภิกษุณี บัณเฑาะก์ และร้านสุรา
ในสภาพสังคมปัจจุบัน อโคจรนั้นมีอยู่มากมายเกินกว่า 6 อย่างดังกล่าว เช่น ในโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ต่างๆ และศูนย์การค้า เป็นต้น พระภิกษุไม่ควรจะเข้าไปเพราะเป็นเหตุแห่งความฟุ้งซ่านทางใจ การนึกนิมิตจะเห็นผิดได้ง่ายเพราะได้จดจำสิ่งที่ไม่เป็นทางมาแห่งกุศล และอันตรายย่อมเกิดแก่ ภิกษุที่เที่ยวไปในที่ที่ไม่ควรไป
与行处相反的是非行处
非行处Agocara的意思为:不适合于僧人往来的人或场所。有六种, 分别为:
娼妓(妓女)、寡妇、老女人(老处女)、比丘尼、人妖和酒店。
在当今的社会中,非行处比以上提到的六种还多。例如,各种娱乐 场所和购物中心等等。这些地方僧人都不应该进去,因为这些都是让心 散乱的原因。在意念所缘的时候,会容易出错,因为记住了一些不是来 自于善道的事物,这将会给那些去了不该去的地方的僧人带来危险。
อย่างไรก็ตาม สถานที่อโคจร ถ้าเขานิมนต์ด้วยกิจอันสมควร พระภิกษุก็สามารถไปปฏิบัติ หน้าที่ในฐานะนักบวชได้ แต่จะต้องไม่ไปด้วยเรื่องอื่นนอกจากกิจนิมนต์ เช่นไปสนทนาปราศรัยอย่างสามัญชนทั่วไป เพราะอาจจะถูกเข้าใจว่ามีความประพฤติผิดพระธรรมวินัย เป็นพระภิกษุที่น่ารังเกียจ
无论如何,对于非行处的场所,如果是居士虔诚的邀请,那么僧人 就可以以僧侣的身份去那里。除了被邀请之外,其他的事情是不能去的。 因为那种行为可能会被视为是触犯佛法戒律,这种僧人是令人憎恶的。
6.3 ถ้อยคำอันไม่สมควรและสมควร
ถ้อยคำอันไม่สมควรสำหรับถ้อยคำอันไม่สมควรนั้นท่านแบ่งไว้เป็นสองส่วนคือ
1.ติรัจฉานกถา ติรัจฉานกถาเป็นถ้อยคำที่เป็นเครื่องขัดขวางกับมรรคผลนิพพานนั้น มีดังนี้
1)พูดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับกษัตริย์ รวมถึงราชตระกูล
2)พูดเรื่องโจรต่างๆ
3)พูดเรื่องมหาอำมาตย์ราชมนตรีที่เป็นคณะรัฐบาล
4)พูดเรื่องทหารตำรวจ
5)พูดเรื่องภัยต่างๆ
6)พูดเรื่องยุทธศาสตร์การรบ
7)พูดเรื่องอาหารการกิน มีข้าวและกับเป็นต้น
8)พูดเรื่องเครื่องดื่มต่างๆ เช่น น้ำดื่มและสุรา
9)พูดเรื่องเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มต่างๆ
10)พูดเรื่องที่หลับที่นอน
11)พูดเรื่องระเบียบดอกไม้ต่างๆ
12)พูดเรื่องกลิ่นหอมต่างๆ
13)พูดเรื่องวงศ์ญาติ
14)พูดเรื่องยวดยานต่างๆ
15)พูดเรื่องหมู่บ้านต่างๆ
16)พูดเรื่องนิคมต่างๆ
17)พูดเรื่องจังหวัดต่างๆ
18)พูดเรื่องชนบทต่างๆ
19)พูดเรื่องผู้หญิง
20)พูดเรื่องผู้ชาย
21)พูดเรื่องความกล้าหาญ
22)พูดเรื่องถนนสายต่างๆ และผู้คนในถนนสายนั้น
23)พูดเรื่องท่าน้ำหรือเรื่องของคนรับใช้
24)พูดเรื่องวงศาคณาญาติที่ล่วงลับไปแล้ว
25)พูดเรื่องอื่นๆ โดยเว้นจากเรื่องแรกและเรื่องหลัง
26)พูดเรื่องใครเป็นผู้สร้างโลกหรือแผนที่โลก
27)พูดเรื่องมหาสมุทรเป็นคำถามว่า ทำไมมหาสมุทรจึงเรียกว่าสาคร คำตอบก็คือเพราะพระเจ้าสาครเป็นผู้สร้าง เป็นต้น
28)พูดเรื่องความเจริญและความเสื่อมว่า การกระทำดังนี้เป็นเหตุแห่งความเสื่อม การกระทำดังนี้เป็นเหตุแห่งความเจริญ เป็นต้น
29)พูดเรื่องป่า
30)พูดเรื่องภูเขา
31)พูดเรื่องแม่น้ำ
32)พูดเรื่องเกาะต่างๆ
6. 3应该说和不应该说的言词 不应该说的言词
对于不应该说的言词,分为两种;
1.畜生论
畜生论是阻碍通往涅槃的言词,有如下一些:
1)评论各种关于国王或皇室的言论
2)讲述各种盗贼的言论
3)讲述关于政府官员的言论
4)讲述关于军警的言论
5)讲述关于各种灾难的言论
6)讲述战略攻击的言论
7)讲述关于食物的言论,饭和菜肴等
8)讲述关于各种饮料的言论,例如:饮料和酒
9)讲述关于各种服装的言论
10)讲述关于睡觉的场所
11)讲述各种花的言论
12)讲述各种香味的言论
13)讲述关于亲戚的言论
14)讲述关于各种交通工具的言论
15)讲述各个村庄的言论
16)讲述各个乡镇的言论
17)讲述各个府的言论
18)讲述各种农村的言论
19)讲述关于女子的言论
20)讲述关于男子的言论
21)讲述勇敢的言论
22)讲述各个街道以及处在另个街道人的言论
23)讲述关于河边码头或仆人的言论
24)讲述已经往生了的亲属言论
25)讲述其他的事情,却不说事情的开头和结尾。
26)讲述哪个人是开创世界或者创造世界地图的人
27)讲述关于海洋的事情,冋到说为什么海洋被称之为江河,回答就 是因为河神是创造者等。
28)讲述发展与衰退的事情时,说如此的做法是衰退的原因,如此的 做法是发展的原因等。
29)讲述关于森林的言论
30)讲述关于山川的言论
31)讲述关于河流的言论
32)讲述关于岛屿的言论
ติรัจฉานกถาทั้ง 32 ประการดังที่ได้กล่าวมานี้ แม้ว่าบางอย่างจะเป็นประโยชน์ในทางโลกได้ก็จริง แต่ทว่าในด้านทางธรรมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติแล้ว ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างยิ่ง ฉะนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสว่าเป็นติรัจฉานกถา ส่วนในด้านการปริยัตินั้นส่วนมากก็คงเป็นอุปสรรคได้เช่นเดียวกัน กล่าวคือ ทำให้ไม่ได้รับผลดีเต็มที่จากการศึกษานั้นๆ ดังนั้น จึงเป็นติรัจฉานกถาฝ่ายด้านปริยัติอีกด้วย
以上所陈述到的这三十二项畜生论,虽然有些项在世俗中确实是有 益的,可是在佛法实践方面,却被认为是一种障碍。因此佛陀归类以上 所为是畜生论,包括在佛经里大部分则都认为是存在的障碍。同样的,也就 是说让我们无法学习到完整的知识,因此也会在理论方面的存在障碍。
ในติรัจฉานกถาทั้ง 32 นี้ ถ้าหากว่าได้กล่าวปรารภถึงคุณงามความดีของพระมหากษัตริย์ หรือผู้ใดผู้หนึ่งก็ตามที่มีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ดี หรือปรารภถึงผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ก็ดี หรือผู้ที่พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์ศฤงคารบริวารมากมายปานใดก็ดี เหล่านี้ล้วนแต่ต้องตกอยู่ในห้วงแห่งความตายด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้ายกขึ้นมากล่าวเปรียบเทียบ ประกอบการอธิบายข้อธรรมบางอย่างบางประการ ไม่จัดว่าเป็นโทษแต่ประการใด คงมีแต่การได้รับประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สำหรับนัก ปฏิบัติแล้ว ถ้าไม่มีหน้าที่ ก็ไม่จำเป็นต้องนำเอาเรื่องเหล่านี้มาคุยสนทนากันแต่อย่างใดทั้งสิ้น
在这三十二项畜生论中,如果谈及伟大国王的功绩或者任何人都好, 他们做了很多好事或卓越的事,或者拥有富足的财富和众多的侍从也好, 所有这些都处于生死轮回当中。如果在解释佛法时,拿出来做比较,也 不算是什么坏处,反而是好处。但无论如何,对于学习的人来说,如果 没有责任就不需要拿这些事情来谈论。
2.วิคคาหิกกถา
ส่วน “ วิคคาหิกกถา” คือถ้อยคำที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน เช่น ท่านเป็นผู้ถูกข้าพเจ้าข่มไว้ ข้าพเจ้าดีกว่าท่าน เป็นต้น มุ่งหมายให้เกิดการทุ่มเถียงกันไม่มีที่จบสิ้น เพราะการทุ่มเถียงกันย่อมเป็นการ ก่อโทสะให้เกิดขึ้นในใจของทั้งสองฝ่าย
วิคคาหิกกถา ล้วนแต่เป็นโทษ ไร้ประโยชน์ ทั้งฝ่ายด้านปริยัติและปฏิบัติ ตลอดจนถึงฝ่ายทางโลก กล่าวคือในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะทำลายความดีงามและความเจริญของตน พร้อมกับทำลายความสามัคคีของหมู่คณะอีกด้วย ครั้นถึงคราวที่จะละจากโลกนี้ไปก็ต้องไปสู่ทุคติภูมิอีก
ดังนั้น ผู้ที่มีความประสงค์ใคร่จะวางตนเป็นบัณฑิตหรือสัปบุรุษ ก็ควรเว้นจากถ้อยคำที่เป็นวิคคาหิกกถาเหล่านี้เสีย
2.争论
对于“争论”这个词,会使人与人之间产生争吵。例如,你被我欺 压,我比你好等,企图挑起无休止的争吵。而争吵必然会让双方的心产 生怒火。
争论,无论在佛经中还是在实践中,甚至是世俗方面,都是一种罪 恶,没有利益。也就是在还活着的时候,损坏美德与繁荣,同时还会破 坏集体的团结与和谐,当往生之后,会坠落恶道。
因此,有目标的人就会将自己变成智者或善人,也就远离这些争吵 的言词。
ถ้อยคำอันควรพูด
กถาวัตถุ 10 ประการ
ทางที่ถูกต้องคือควรเว้นคำพูดที่ทำให้ใจเศร้าหมองเสีย แต่ควรพูดแต่คำที่เป็นประโยชน์ต่อใจ เอื้อต่อสภาวธรรมภายใน คือ ดวงธรรม องค์พระ ในทางพระพุทธศาสนาท่านแบ่งไว้ 10 ประการเรียกว่า กถาวัตถุ
应该说的言词
十项论事
正确的做法应该排除那些让心忧愁的言词,而只说那些对心有益的言 词,善待体内的法身,即法球与佛像。在佛教中划分为十项,称之为论事。
กถาวัตถุ 10 ชื่อว่า ภัสสสัปปายะ เป็นถ้อยคำไม่ขัดกับมรรคผลนิพพาน มี 10 ประการ ดังนี้คือ
1)พูดเรื่องความมักน้อยในกามคุณ 5 ประการ ไม่พูดเรื่องมักมากในกามคุณ 5 ประการ อันได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่ผ่านเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
2)พูดเรื่องความพอใจตามมีตามได้ในสิ่งของของตนที่ได้มา หรือที่เกิดจากการมีความพอใจ ยินดีในทรัพย์ที่ได้มาโดยบริสุทธิ์
3)พูดเรื่องความสงัดทางกาย วาจา ใจ คือ การหลีกเร้นเข้าหาที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม เช่น เดินทางไปปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ เช่น ในถ้ำ ในป่าหรือรีสอร์ท เป็นต้น
4)พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับกามคุณอารมณ์ เรื่องเพศ เรื่องกาม
5)พูดเรื่องการขยันหมั่นเพียรในการทำความดี ในการสร้างบารมี
6)พูดเรื่องศีลที่ตนหรือผู้อื่นรักษาในทางสรรเสริญยกย่อง
7)พูดเรื่องสมาธิ คือพูดเรื่องการทำสมาธิ ผลของการปฏิบัติธรรม
8)พูดเรื่องปัญญา อาจเป็นธรรมะที่ได้ฟังมาจากพระอาจารย์
9)พูดเรื่องวิมุตติ คือ พูดเรื่องผลการปฏิบัติของผู้เข้าถึงสภาวธรรมภายในเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้น
10)พูดเรื่องวิมุตติญาณทัสสนะ
十论事,与涅槃不相矛盾的言词,一共有十项,如下:
1)讲述那些让五欲知足的事情,不讲述那些让五欲贪婪的事情。其包 括通过眼睛、耳朵、鼻子、舌头和身体接触后,产生的色、声、香、味、触。
2)讲述对自己所得物品感到满足的事情,或者对自己拥有的合法财富 感到知足。
3)讲述对身、口、意清净的事情,即:去寻找幽静的地方修行。例如 去到别的场所修行,如山洞、森林或度假村等。
4)讲述那些不关于五欲、性、情欲之事。
5)讲述关于勤修善行和波罗蜜之事。
6)讲述赞美自己或他人所持戒律之事。
7)讲述禅定的事情,即禅定修行的经验。
8)讲述智慧之事,可能是从师父那里听来的佛法。
9)讲述解脱之事,即:为了增加修行的信心,讲述那位能够证入法身 的人之修行经验。
10)讲述解脱知见之事。
กถาวัตถุ 10 ประการดังกล่าวมาแล้วนี้ แม้จะเป็นถ้อยคำที่ไม่ขัดกับมรรคผลนิพพานแต่ประการใด ก็จริง สำหรับนักปฏิบัติไม่ควรพูดมาก ควรพูดแต่พอประมาณ เพื่อจะได้รักษาสมาธิและปฏิภาคนิมิต ดังนั้น ท่านอรรถกถาจารย์จึงได้สั่งไว้ว่า แม้เป็นกถาวัตถุ 10 ก็ตาม ก็จง พูดแต่พอประมาณ อย่าให้มากเกินไปนัก
以上所讲的这十论事,虽然跟涅槃不相矛盾,但即使如此,修行者 也不应该多谈论,只需要适当就好,因为这样可以维持禅定和似相。因 此,论师就教导道:“即使是十论事,适当谈论就好,不应说过多。”
6.4 บุคคลที่ไม่สมควรและสมควร
บุคคลที่ไม่สมควรแก่การเข้าไปสนทนาปราศรัยในขณะที่กำลังปฏิบัติอยู่นั้น มีอยู่ 2 จำพวก คือ
1)บุคคลที่มีปกติชอบบำรุง ประคบประหงม ตกแต่งร่างกาย เพื่อให้เกิดความกำหนัดยินดี แก่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้ตกแต่งตนเพื่อมุ่งให้เกิดความน่าเลื่อมใสของใจ
2)บุคคลที่มีปกติชอบคุยชอบพูดแต่ในติรัจฉานกถา 32
ทั้ง 2 จำพวกนี้ย่อมทำให้ใจของผู้ปฏิบัติ เกิดความหม่นหมอง ไม่สงบ เพราะฉะนั้นบุคคลจำพวกนี้จึง จัดเป็นบุคคลที่ไม่ควรเข้าใกล้
บุคคลที่สมควรแก่การเข้าไปสนทนาปราศรัยในขณะที่กำลังปฏิบัติอยู่นั้น ก็มีอยู่ 2 จำพวก คือ
1)บุคคลที่มีปกติไม่ใคร่คุยไม่ใคร่พูด ในเรื่องติรัจฉานกถา
2)บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ และปัญญา
ทั้ง 2 จำพวกนี้ย่อมทำให้จิตใจของคู่สนทนา เกิดความสงบ เยือกเย็น ผ่องใสได้ ฉะนั้นบุคคลจำพวกนี้ จึงจัดเป็นบุคคลสัปปายะ
6. 4适合结交和不适合结交的人
在修行的时候,不应与两种类型的人交谈,分别是:
1)平常喜欢打扮自己的人不应该交谈,因为这样会让身边的人产生欲望。 相反的,不化妆也能让心产生信仰。
2)平常喜欢交谈三十二项畜生论的人。
这两种人会让修行者的心产生忧愁,不平静。因此,这类人被划分 为不应该交谈之人。
正在修行的时候,有两种类型的人适合交谈,分别是:
1)平常不交谈畜生论的人。
2)平常具足持戒、禅定和智慧的人。
这两种类型的人能够让与之交谈的人之心产生平静和明亮。因此这 种类型的人,归类为适合谈话的人。
1)บุคคลที่มีปกติชอบบำรุง ประคบประหงม ตกแต่งร่างกาย เพื่อให้เกิดความกำหนัดยินดี แก่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้ตกแต่งตนเพื่อมุ่งให้เกิดความน่าเลื่อมใสของใจ
2)บุคคลที่มีปกติชอบคุยชอบพูดแต่ในติรัจฉานกถา 32
ทั้ง 2 จำพวกนี้ย่อมทำให้ใจของผู้ปฏิบัติ เกิดความหม่นหมอง ไม่สงบ เพราะฉะนั้นบุคคลจำพวกนี้จึง จัดเป็นบุคคลที่ไม่ควรเข้าใกล้
บุคคลที่สมควรแก่การเข้าไปสนทนาปราศรัยในขณะที่กำลังปฏิบัติอยู่นั้น ก็มีอยู่ 2 จำพวก คือ
1)บุคคลที่มีปกติไม่ใคร่คุยไม่ใคร่พูด ในเรื่องติรัจฉานกถา
2)บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ และปัญญา
ทั้ง 2 จำพวกนี้ย่อมทำให้จิตใจของคู่สนทนา เกิดความสงบ เยือกเย็น ผ่องใสได้ ฉะนั้นบุคคลจำพวกนี้ จึงจัดเป็นบุคคลสัปปายะ
6. 4适合结交和不适合结交的人
在修行的时候,不应与两种类型的人交谈,分别是:
1)平常喜欢打扮自己的人不应该交谈,因为这样会让身边的人产生欲望。 相反的,不化妆也能让心产生信仰。
2)平常喜欢交谈三十二项畜生论的人。
这两种人会让修行者的心产生忧愁,不平静。因此,这类人被划分 为不应该交谈之人。
正在修行的时候,有两种类型的人适合交谈,分别是:
1)平常不交谈畜生论的人。
2)平常具足持戒、禅定和智慧的人。
这两种类型的人能够让与之交谈的人之心产生平静和明亮。因此这 种类型的人,归类为适合谈话的人。
6.5 อาหารที่ไม่ควรบริโภคและควรบริโภค
อาหารที่ไม่ควรบริโภคและควรบริโภคในขณะที่กำลังปฏิบัติภาวนา
เช่นผู้ปฏิบัติบางท่านได้รับประทานอาหารที่มีรสหวานซึ่งไม่ถูกปากทำให้ไม่มี
ความชุ่มชื่นผาสุกใจ จิตใจไม่มั่นคง แต่เมื่อได้อาหาร
ที่มีรสเปรี้ยวแล้วจะรู้สึกชุ่มชื่นผาสุกใจ
ทำให้จิตใจมั่นคงและถาวรยิ่งขึ้น ฉะนั้นอาหารที่มีรสหวานนั้นจึงเป็น “
อสัปปายะ” ส่วนอาหารที่มีรสเปรี้ยวนั้นเป็น “ สัปปายะ”
บางท่านเมื่อได้รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวแล้วไม่ถูกปาก ไม่มีความชุ่มชื่นผาสุกใจ จิตใจไม่มั่นคง แต่เมื่อได้อาหารที่มีรสหวานแล้วก็รู้สึกชุ่มชื่นผาสุกใจ ทำให้จิตใจถาวรและมั่นคงยิ่งขึ้น ฉะนั้นอาหารที่มีรสเปรี้ยวนั้นจึงเป็น “ อสัปปายะ” ส่วนอาหารที่มีรสหวานเป็น “ สัปปายะ” แก่ผู้ปฏิบัตินั้น เป็นต้น
6. 5应该饮用和不应该饮用的食物
对于正在禅定的时候,应该饮用和不应该饮用的食物。例如,有些 修行的人得到的甜味食物不合胃口,就会让他不舒心,心灵不平稳。但 是当得到含有酸味的食物食用了之后,就会感觉到很舒心,让心灵很开 朗,导致心的稳定。因此,那种甜味食物属于“不适合食用”,而那种含 有酸味的食物则属于“适合食用”。有些人当吃了含有酸味的食物后, 因不合胃口而感到不舒心,心不平稳。但当吃了含有甜味的食物后,就 会感到舒心开朗,让心很稳定。因此,那种含有酸味的食物就属于“不 适合”,而那种含有甜味的食物则属于“适合”等等。
บางท่านเมื่อได้รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวแล้วไม่ถูกปาก ไม่มีความชุ่มชื่นผาสุกใจ จิตใจไม่มั่นคง แต่เมื่อได้อาหารที่มีรสหวานแล้วก็รู้สึกชุ่มชื่นผาสุกใจ ทำให้จิตใจถาวรและมั่นคงยิ่งขึ้น ฉะนั้นอาหารที่มีรสเปรี้ยวนั้นจึงเป็น “ อสัปปายะ” ส่วนอาหารที่มีรสหวานเป็น “ สัปปายะ” แก่ผู้ปฏิบัตินั้น เป็นต้น
6. 5应该饮用和不应该饮用的食物
对于正在禅定的时候,应该饮用和不应该饮用的食物。例如,有些 修行的人得到的甜味食物不合胃口,就会让他不舒心,心灵不平稳。但 是当得到含有酸味的食物食用了之后,就会感觉到很舒心,让心灵很开 朗,导致心的稳定。因此,那种甜味食物属于“不适合食用”,而那种含 有酸味的食物则属于“适合食用”。有些人当吃了含有酸味的食物后, 因不合胃口而感到不舒心,心不平稳。但当吃了含有甜味的食物后,就 会感到舒心开朗,让心很稳定。因此,那种含有酸味的食物就属于“不 适合”,而那种含有甜味的食物则属于“适合”等等。
6.6 อากาศที่ไม่สบายและสบาย
อากาศที่ไม่สบายและสบายในขณะที่กำลังปฏิบัติอยู่นั้น
ผู้ปฏิบัติบางท่านเมื่อได้รับอากาศร้อน แล้วก็รู้สึกไม่ใคร่สบายใจ
จิตใจที่ยังไม่แจ่มใสตั้งมั่นก็กลับหงุดหงิดฟุ้งซ่านขึ้นมา
แต่ถ้าได้รับอากาศเย็นก็รู้สึกสบาย
จิตใจที่ยังไม่แจ่มใสไม่ตั้งมั่นก็กลับแจ่มใส ตั้งมั่น สงบ ระงับ
แล้วก็ถาวรยิ่งๆ ขึ้นไป ฉะนั้นอากาศร้อนจึงเป็น “ อสัปปายะ” อากาศเย็นเป็น “
สัปปายะ”แก่ผู้ปฏิบัตินั้น
6. 6舒适和不舒适的天气
对于修行时的天气,有些修行者当遇到炎热的天气时,心就会感觉 到非常的不舒服,原先还没有明亮平稳的心,就又回到了暴躁及胡思乱 想的状态中。但当遇到清凉的天气时,心就会感觉非常的舒服,原本还没有 明亮平稳的心,就立刻转变为明亮、平稳和宁静的状态,并能够保持很久。因 此,炎热的天气“不适合”该修行者,而清凉的天气则“适合”该修行者。
บางท่านเมื่อได้รับอากาศเย็นแล้วรู้สึกไม่สบาย จิตใจที่ยังไม่แจ่มใสไม่ตั้งมั่นก็กลับกระสับกระส่าย ขุ่นหมองยิ่งขึ้น จิตใจที่สงบระงับแจ่มใสตั้งมั่นแล้วก็กลับหงุดหงิดฟุ้งซ่านขึ้นมา แต่ถ้าได้รับอากาศร้อนแล้ว ร่างกายก็รู้สึกสบาย จิตใจที่ยังไม่แจ่มใสไม่ตั้งมั่น ก็กลับแจ่มใส ตั้งมั่น สงบ ระงับ แล้วก็ถาวรยิ่งๆ ขึ้นไป ฉะนั้นอากาศเย็นจึงเป็น “ อสัปปายะ” อากาศร้อนเป็น “ สัปปายะ” แก่ผู้ปฏิบัติ เป็นต้น
有些修行者当遇到清凉的天气时,心就会感觉非常的不舒服,原本 还没有明亮平稳的心,就回到了暴躁和胡思乱想的状态。但当遇到炎热 的天气时,心就会感觉非常的舒服,原本还没有明亮平稳的心就立刻转 变为明亮、平稳和宁静的状态,并能够保持得很久。因此,清凉的天气 “不适合”该修行者,而炎热的天气则“适合”该修行者等。6. 6舒适和不舒适的天气
对于修行时的天气,有些修行者当遇到炎热的天气时,心就会感觉 到非常的不舒服,原先还没有明亮平稳的心,就又回到了暴躁及胡思乱 想的状态中。但当遇到清凉的天气时,心就会感觉非常的舒服,原本还没有 明亮平稳的心,就立刻转变为明亮、平稳和宁静的状态,并能够保持很久。因 此,炎热的天气“不适合”该修行者,而清凉的天气则“适合”该修行者。
บางท่านเมื่อได้รับอากาศเย็นแล้วรู้สึกไม่สบาย จิตใจที่ยังไม่แจ่มใสไม่ตั้งมั่นก็กลับกระสับกระส่าย ขุ่นหมองยิ่งขึ้น จิตใจที่สงบระงับแจ่มใสตั้งมั่นแล้วก็กลับหงุดหงิดฟุ้งซ่านขึ้นมา แต่ถ้าได้รับอากาศร้อนแล้ว ร่างกายก็รู้สึกสบาย จิตใจที่ยังไม่แจ่มใสไม่ตั้งมั่น ก็กลับแจ่มใส ตั้งมั่น สงบ ระงับ แล้วก็ถาวรยิ่งๆ ขึ้นไป ฉะนั้นอากาศเย็นจึงเป็น “ อสัปปายะ” อากาศร้อนเป็น “ สัปปายะ” แก่ผู้ปฏิบัติ เป็นต้น
6.7 อิริยาบถที่ไม่สบายและสบาย
ในอิริยาบถ 4 อย่างนั้น
ผู้ปฏิบัติบางท่านเมื่อทำการปฏิบัติอยู่ในอิริยาบถนอนแล้วก็ทำให้
รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน ไม่ใคร่จะได้รับผลดี
แต่ถ้าทำการปฏิบัติอยู่ในอิริยาบถอื่นๆ กลับรู้สึกว่าสบายกาย สบายใจ
ทั้งได้รับผลดี ไม่มีนิวรณ์เกิดขึ้นกวนใจ
บางท่านก็ไม่สบายกายสบายใจเมื่อปฏิบัติในอิริยาบถเดิน
แต่ถ้าอยู่ในอิริยาบถนั่งกับยืนแล้วรู้สึกสบายกายสบายใจ
อิริยาบถนั้นก็จัดเป็นสัปปายะแก่ผู้ปฏิบัตินั้น
6. 7舒服和不舒服的姿势
在行坐卧立这四种姿势里,有些修行者当以卧姿来禅定时,就会感 觉疲倦欲睡,就无法达到预期的效果。但如果以其他姿势来禅定,则会 感觉到身心舒服,然后取得很好的效果,不会产生五盖。而有些修行者 以行姿来修行时,也会感觉到不舒服,但当以坐和立的姿势来禅定时, 身心却又感觉到很舒服,如此则被认作是适合于修行者的姿势。
อนึ่ง ในการปฏิบัติ จริงๆ แล้วต้องปฏิบัติเจริญภาวนาทุกๆ อิริยาบถอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหาก เราอยู่ในอิริยาบถใดแล้วสัปปายะแก่การทำสมาธิ ก็ให้อยู่ในอิริยาบถนั้นมาก อิริยาบถอื่นๆ ก็ลดลงตามส่วน
另外,在真正的修行中,应持续的实践各种各样的姿势。如果我们 感觉到哪种姿势比较适合自己,那么就应该多采用那种姿势,而其他的 姿势就按比例相对的减少一些。
อิริยาบถที่สัปปายะแก่บุคคลส่วนใหญ่ คือการนั่ง เพราะสามารถอยู่ในท่านั่งได้นานที่สุด โดยมีสติมั่นคงเป็นสมาธิดีทีสุด และหากนั่งขัดสมาธิไประยะหนึ่งแล้วเกิดอาการเมื่อย ก็อาจเปลี่ยนเป็นนั่งพับเพียบได้ตามสมควรแก่สัปปายะ
适合大多数人采用的姿势是以坐的方式,因为这是能维持禅定最久 的姿势,同时也是在禅定状态中保持正念最稳定的姿势。如果以盘腿的 姿势禅定久了,有酸麻的感觉,就应转换成侧坐的姿势,或自己感觉舒 服的姿势继续禅定。
ผู้ปฏิบัติที่กำลังประคองรักษานิมิตอยู่ โดยเว้นจากอสัปปายะ 7 แล้วเสพสัปปายะ 7 ประการ ตามที่ได้อธิบายมาแล้วนี้ บางท่านก็เข้าถึง “ ปฐมมรรค” หรือ”ปฐมฌาน” ได้ แต่หากว่าบางท่านยังไม่เข้าถึง พึงบำเพ็ญ “ อัปปนาโกศล” 10 ประการให้เกิดขึ้นในตนอย่างบริบูรณ์
正在护持所缘的修行者,摒除这七项不适当,而采用此前解释过的 七项适当,那么该修行者就能够证入“初道”或“初禅”。但如果有些修 行者还是不能证入,应该执行十项“安止熟练”,使之能够圆满的实现。
อัปปนาโกศล 10
อัปปนาโกศล 10 ประการ มีดังต่อไปนี้
1.จงชำระร่างกายและเครื่องนุ่งห่มให้สะอาด ตลอดจนทำการปัดกวาดเช็ดถูสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ให้หมดจด สะอาดสะอ้าน แล้วจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดูเย็นตา
十安止熟练
十项安止熟练,有如下:
1.沐浴身体与清洗衣服,接下来打扫和擦拭各种使用的工具,使之清洁 干净,然后摆放整齐。
2.กระทำอินทรีย์ทั้ง 5 มีศรัทธากับปัญญา วิริยะกับสมาธิ ให้เสมอกันในหน้าที่ของตนๆ โดยเฉพาะสำหรับสตินั้น ต้องกระทำให้มากยิ่งกว่าธรรมทั้งปวง เพราะกุศลธรรมเหล่านั้นย่อมมีสติเป็นที่พำนัก เป็นเครื่องป้องกันรักษาไม่ให้จิตตกไปสู่นิวรณ์ได้
ตัวอย่างเช่น ถ้ามีศรัทธามากกว่า อินทรีย์อีก 4 อย่างน้อย ผลก็คือวิริยะซึ่งทำหน้าที่ประคองสติ สมาธิซึ่งทำหน้าที่ไม่ฟุ้งซ่าน ปัญญาซึ่งทำหน้าที่รู้เห็น แต่ละอย่างๆ ไม่อาจทำหน้าที่ของตนได้เต็มขีดขั้น ดังนั้นต้องลดศรัทธาลงด้วยวิธีไม่ใส่ใจ
2.五根中的信根和慧根,精进根和定根,要让自己的责任保持平衡,但 念根会承担更多的职责。因为另外四种根会由念根(正念)引领,不 让心坠入“盖”的陷阱。(五盖:贪欲盖、嗔恚盖、惽沉睡眠盖、掉举 恶作盖、疑盖)
例如,如果信根多于其他的四根,那么其结果就是让负责护持正 念的精进根,负责护持不让心散乱的定根,责任护持知见的慧根,无 法圆满的履行自己的职责,因此,需要通过不在意的方法来减少信根。
3.มีความฉลาดในนิมิต คือ
ประการที่ 1 ฉลาดในการทำนิมิตที่ยังไม่เกิดให้เกิด (ฉลาดให้เกิด)
ประการที่ 2 ฉลาดในการรักษานิมิตที่เกิดแล้วมิให้เสื่อม (ฉลาดรักษา)
3.在所缘中拥有聪慧,即为:
第一种:聪慧在于让还没有产生的所缘,使之产生。(聪慧的产生) 第二种:聪慧在于护持已经产生的所缘,使其不衰退。(聪慧的护持)
4.ประคองจิตในเวลาควรประคอง คือ ถ้าเห็นว่าจิตหดหู่ ท้อถอย ตกไปในความเกียจคร้าน ต้องประคองจิตใจด้วยการเจริญธรรมะ 3 ประการ คือ
1)ธัมมวิจยะ นึกถึงธรรมะที่พระเดชพระคุณท่านสอน ตริตรองธรรม แล้วนำมาสอนตน ให้เกิดกำลังใจ
2)สร้างสมาธิ หักดิบนั่งสมาธิทำความเพียรเรื่อยไป จนใจผ่องใส มีความเบิกบาน
3)สร้างปีติ โดยนึกถึงบุญที่เราได้สร้างไว้ ให้เกิดปีติอิ่มเอมใจ
4.当心需要护持的时候,应该给予护持。如果发现心开始懒惰、畏缩, 并心灰意冷时,就必须运用三项佛法来精进护持。即为:
1)择法,想起师父所教导的佛法,思索后拿来教导自己,使自己产生信心。
2)树立禅定,毅然坚持精进的禅定,直到心明亮与愉快。
3)营造法喜,意念我们曾经修过的功德,让心法喜充满。
5.จิตฺตนิคฺคโห ข่มจิตในเวลาควรข่ม คือถ้าเห็นว่าจิตใจฟุ้งซ่าน เพราะศรัทธา วิริยะ ปัญญากล้า ต้องข่มจิตไว้ด้วยการเจริญธรรมะ 3 ประการ คือ
1)ปัสสัทธิ หลับตา ใจให้สงบจากความโลภ ความโกรธ และความหลง
2)สมาธิ ทำจิตของตนให้ตั้งมั่น
3)อุเบกขา วางเฉยจากอารมณ์เรื่องราวกวนใจต่างๆ
5.在适当的时候控制心。即:当发现心因为信根、精进根、慧根而胡思 乱想时,就应该精进三项佛法来给予克制,即:
1)轻松的闭眼,让心从贪、嗔、痴中静止。
2)禅定,让自己的心灵稳定。
3)捨(慈、悲、喜、捨,四无量心之一),自然的放下心中所有的事情。
6.เวลาใดรู้สึกว่ามีความเบื่อหน่ายในการเจริญภาวนา เวลานั้นควรปลูกความเชื่อ เลื่อมใส ในการเจริญภาวนา เพื่อยังจิตใจให้ร่าเริง โดยนึกถึงสังเวควัตถุ คือเรื่องที่ทำให้เกิดความสังเวชสลดใจ ได้แก่การ พิจารณาเห็นทุกข์ต่างๆ แล้วสลดหรือนึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
6.当在禅定中感觉到厌烦的时候,为了让心继续保持愉快的状态,就应 该培养信念与信仰。通过意念痛苦的事情,例如,观察分析看到各种 痛苦,然后心会悲伤,或意念到三宝的恩德。
7.เวลาใดจิตใจไม่มีการท้อถอย ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เบื่อหน่ายในการเจริญภาวนา เวลานั้นควรประคองใจไว้ให้นิ่งเฉย โดยไม่ต้องยกจิต ข่มจิต และทำจิตใจให้ร่าเริงแต่อย่างใดทั้งสิ้น
7.在禅定时,如果心没有畏缩、胡思乱想和厌烦的状况,那个时候就应该护持 让心自然的宁静。而不用去放纵或抑制心,让心一直都保持着愉快的状态。
8.อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนํ เว้นจากบุคคลที่มีจิตใจไม่สงบ มีความประพฤติเหลาะแหละ วอกแวก ไม่มั่นคงในการงาน เตร็ดเตร่เที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ
8.远离心不宁静、信口开河、心神不定、不专心工作、漫步于各种场合之人。
9.จงคบหาสมาคมกับผู้ที่มีความประพฤติมั่นคง ไม่จับจด มีจิตผ่องใส ตั้งมั่น
9.必须与那些拥有稳定行为,不敷衍,有明亮心的人结交为友。
10.จงน้อมใจอยู่แต่ในเรื่องฌานสมาธิ คือมีความพยายาม ดูนิมิต สืบต่อเนื่องกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ขาดสาย
10.必须虚心于禅定中,即是要一直持续不断且勤奋的观想所缘。
นอกจากบำเพ็ญ “ อัปปนาโกศล” 10 ประการแล้ว ให้ระวัง “ อุปกิเลส” ของสมาธิ 11 ประการ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการประคองใจรักษานิมิตดังนี้ คือ
1.วิจิกิจฉา ความลังเล หรือความสงสัย
2.อมนสิการ ความไม่ใส่ใจไว้ให้ดี
3.ถีนมิทธะ ความท้อ และความเคลิบเคลิ้มง่วงนอน
4.ฉิมภิตัตตะ ความสะดุ้งหวาดกลัว
5.อุพพิละ ความตื่นเต้นด้วยความยินดี
6.ทุฏฐุลละ ความไม่สงบกาย ความคะนองหยาบ
7.อัจจารัทธวิริยะ ความเพียรจัดเกินไป
8.อติลีนวิริยะ ความเพียรย่อหย่อนเกินไป
9.อภิชัปปา ความอยาก
10.มานัตตสัญญา ความนึกไปในสิ่งต่างๆ
11.รูปานํ อตินิชฌายิตัตตะ ความเพ่งต่อรูปจนเกินไป
除了实行“十安止熟练”之外,还应注意可能在护持心和维持所缘 时,产生的^^一项小烦恼。
1.犹豫或怀疑
2.不在乎
3.昏眠与昏沉睡眠
4.恐惧惊吓
5.乐意于激动
6.身不安定,鲁莽粗俗
7.过于勤奋
8.过于放逸
9.奢望、渴望
10.想各种各样的事情
11.过度的凝视图像
ความเพียร 3 ประเภทเปรียบเทียบกับผึ้ง 3 จำพวก
ในการฝึกหัดจิตใจประคองรักษานิมิต ควรใช้ความเพียรแต่พอปานกลาง อย่าให้กล้านัก เพราะจะทำให้เป็นเหตุแห่งความฟุ้งซ่าน อย่าให้อ่อนนัก เพราะจะเป็นเหตุแห่งความเกียจคร้าน ท่านเปรียบเทียบไว้กับผึ้งดังนี้
三种精进与三类蜜蜂的比较
在练习护持所缘中,应该使用适度的勤奋与毅力,不要过于强硬, 因为那样将会导致胡思乱想,同时也不要过于软弱,因为那样会让懒惰 产生。我们可以用蜜蜂来做比较:
ผึ้งจำพวกที่ 1 ไม่ฉลาด รู้ว่าดอกไม้ที่นั้น หรือที่โน้นบานแล้วก็บินไปอย่างรวดเร็ว ทำให้บินเลย ดอกไม้นั้นไป ครั้นรู้ตัวว่าบินเลยไปเสียแล้วก็บินย้อนกลับมา กว่าจะถึง ผึ้งตัวอื่นก็เคล้าเกสรดอกไม้ไปหมดแล้ว ตนก็ไม่ได้เกสร
第一种类型的蜜蜂:不聪明,知道哪边的花开了,就一直往花开的方向
快速飞去。但它却飞过头了,当领悟到超过时又飞回 来,就要快到蜂巢的时候,其他的蜜蜂已经把花粉采 集完了,最终自己什么也得不到。
ผึ้งจำพวกที่ 2 ไม่ฉลาด บินไปช้าๆ พอไปถึงผึ้งตัวอื่นก็เคล้าเกสรไปหมดแล้ว ตนก็ไม่ได้เกสรเช่นเดียวกันกับพวกที่ 1
第二种类型的蜜蜂:不聪明,飞得很慢,当快要到达的时候,其他的蜜
蜂已经把花粉给采集完了。自己也跟第一种类型的蜜 蜂一样,采不到蜂蜜。
ผึ้งจำพวกที่ 3 ฉลาด บินไปไม่ช้านัก ไม่เร็วนัก คลึงเคล้าเอาเกสรได้สมปรารถนา
第三种类型的蜜蜂:聪明,不会飞得太慢或太快。但能够顺利的采集到花粉。
ผู้ทำความเพียรจัดไป ก็เหมือนกับ ผึ้งจำพวกที่ 1
ผู้ทำความเพียรอ่อนไป ก็เหมือนกับ ผึ้งจำพวกที่ 2
ผู้ทำความเพียรปานกลางสม่ำเสมอ ก็เหมือนกับ ผึ้งจำพวกที่ 3 สามารถบรรลุอัปปนาสมาธิ เข้าถึงปฐมมรรค หรือปฐมฌาน ได้สมปรารถนา
过度强硬的人就会如第一种类型的蜜蜂。
过度软弱的人就会如第二种类型的蜜蜂。
保持适度的人就会如第三种类型的蜜蜂。
如果能够到达安止定,就能如愿的证入初道或初禅。
6. 7舒服和不舒服的姿势
在行坐卧立这四种姿势里,有些修行者当以卧姿来禅定时,就会感 觉疲倦欲睡,就无法达到预期的效果。但如果以其他姿势来禅定,则会 感觉到身心舒服,然后取得很好的效果,不会产生五盖。而有些修行者 以行姿来修行时,也会感觉到不舒服,但当以坐和立的姿势来禅定时, 身心却又感觉到很舒服,如此则被认作是适合于修行者的姿势。
อนึ่ง ในการปฏิบัติ จริงๆ แล้วต้องปฏิบัติเจริญภาวนาทุกๆ อิริยาบถอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหาก เราอยู่ในอิริยาบถใดแล้วสัปปายะแก่การทำสมาธิ ก็ให้อยู่ในอิริยาบถนั้นมาก อิริยาบถอื่นๆ ก็ลดลงตามส่วน
另外,在真正的修行中,应持续的实践各种各样的姿势。如果我们 感觉到哪种姿势比较适合自己,那么就应该多采用那种姿势,而其他的 姿势就按比例相对的减少一些。
อิริยาบถที่สัปปายะแก่บุคคลส่วนใหญ่ คือการนั่ง เพราะสามารถอยู่ในท่านั่งได้นานที่สุด โดยมีสติมั่นคงเป็นสมาธิดีทีสุด และหากนั่งขัดสมาธิไประยะหนึ่งแล้วเกิดอาการเมื่อย ก็อาจเปลี่ยนเป็นนั่งพับเพียบได้ตามสมควรแก่สัปปายะ
适合大多数人采用的姿势是以坐的方式,因为这是能维持禅定最久 的姿势,同时也是在禅定状态中保持正念最稳定的姿势。如果以盘腿的 姿势禅定久了,有酸麻的感觉,就应转换成侧坐的姿势,或自己感觉舒 服的姿势继续禅定。
ผู้ปฏิบัติที่กำลังประคองรักษานิมิตอยู่ โดยเว้นจากอสัปปายะ 7 แล้วเสพสัปปายะ 7 ประการ ตามที่ได้อธิบายมาแล้วนี้ บางท่านก็เข้าถึง “ ปฐมมรรค” หรือ”ปฐมฌาน” ได้ แต่หากว่าบางท่านยังไม่เข้าถึง พึงบำเพ็ญ “ อัปปนาโกศล” 10 ประการให้เกิดขึ้นในตนอย่างบริบูรณ์
正在护持所缘的修行者,摒除这七项不适当,而采用此前解释过的 七项适当,那么该修行者就能够证入“初道”或“初禅”。但如果有些修 行者还是不能证入,应该执行十项“安止熟练”,使之能够圆满的实现。
อัปปนาโกศล 10
อัปปนาโกศล 10 ประการ มีดังต่อไปนี้
1.จงชำระร่างกายและเครื่องนุ่งห่มให้สะอาด ตลอดจนทำการปัดกวาดเช็ดถูสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ให้หมดจด สะอาดสะอ้าน แล้วจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดูเย็นตา
十安止熟练
十项安止熟练,有如下:
1.沐浴身体与清洗衣服,接下来打扫和擦拭各种使用的工具,使之清洁 干净,然后摆放整齐。
2.กระทำอินทรีย์ทั้ง 5 มีศรัทธากับปัญญา วิริยะกับสมาธิ ให้เสมอกันในหน้าที่ของตนๆ โดยเฉพาะสำหรับสตินั้น ต้องกระทำให้มากยิ่งกว่าธรรมทั้งปวง เพราะกุศลธรรมเหล่านั้นย่อมมีสติเป็นที่พำนัก เป็นเครื่องป้องกันรักษาไม่ให้จิตตกไปสู่นิวรณ์ได้
ตัวอย่างเช่น ถ้ามีศรัทธามากกว่า อินทรีย์อีก 4 อย่างน้อย ผลก็คือวิริยะซึ่งทำหน้าที่ประคองสติ สมาธิซึ่งทำหน้าที่ไม่ฟุ้งซ่าน ปัญญาซึ่งทำหน้าที่รู้เห็น แต่ละอย่างๆ ไม่อาจทำหน้าที่ของตนได้เต็มขีดขั้น ดังนั้นต้องลดศรัทธาลงด้วยวิธีไม่ใส่ใจ
2.五根中的信根和慧根,精进根和定根,要让自己的责任保持平衡,但 念根会承担更多的职责。因为另外四种根会由念根(正念)引领,不 让心坠入“盖”的陷阱。(五盖:贪欲盖、嗔恚盖、惽沉睡眠盖、掉举 恶作盖、疑盖)
例如,如果信根多于其他的四根,那么其结果就是让负责护持正 念的精进根,负责护持不让心散乱的定根,责任护持知见的慧根,无 法圆满的履行自己的职责,因此,需要通过不在意的方法来减少信根。
3.มีความฉลาดในนิมิต คือ
ประการที่ 1 ฉลาดในการทำนิมิตที่ยังไม่เกิดให้เกิด (ฉลาดให้เกิด)
ประการที่ 2 ฉลาดในการรักษานิมิตที่เกิดแล้วมิให้เสื่อม (ฉลาดรักษา)
3.在所缘中拥有聪慧,即为:
第一种:聪慧在于让还没有产生的所缘,使之产生。(聪慧的产生) 第二种:聪慧在于护持已经产生的所缘,使其不衰退。(聪慧的护持)
4.ประคองจิตในเวลาควรประคอง คือ ถ้าเห็นว่าจิตหดหู่ ท้อถอย ตกไปในความเกียจคร้าน ต้องประคองจิตใจด้วยการเจริญธรรมะ 3 ประการ คือ
1)ธัมมวิจยะ นึกถึงธรรมะที่พระเดชพระคุณท่านสอน ตริตรองธรรม แล้วนำมาสอนตน ให้เกิดกำลังใจ
2)สร้างสมาธิ หักดิบนั่งสมาธิทำความเพียรเรื่อยไป จนใจผ่องใส มีความเบิกบาน
3)สร้างปีติ โดยนึกถึงบุญที่เราได้สร้างไว้ ให้เกิดปีติอิ่มเอมใจ
4.当心需要护持的时候,应该给予护持。如果发现心开始懒惰、畏缩, 并心灰意冷时,就必须运用三项佛法来精进护持。即为:
1)择法,想起师父所教导的佛法,思索后拿来教导自己,使自己产生信心。
2)树立禅定,毅然坚持精进的禅定,直到心明亮与愉快。
3)营造法喜,意念我们曾经修过的功德,让心法喜充满。
5.จิตฺตนิคฺคโห ข่มจิตในเวลาควรข่ม คือถ้าเห็นว่าจิตใจฟุ้งซ่าน เพราะศรัทธา วิริยะ ปัญญากล้า ต้องข่มจิตไว้ด้วยการเจริญธรรมะ 3 ประการ คือ
1)ปัสสัทธิ หลับตา ใจให้สงบจากความโลภ ความโกรธ และความหลง
2)สมาธิ ทำจิตของตนให้ตั้งมั่น
3)อุเบกขา วางเฉยจากอารมณ์เรื่องราวกวนใจต่างๆ
5.在适当的时候控制心。即:当发现心因为信根、精进根、慧根而胡思 乱想时,就应该精进三项佛法来给予克制,即:
1)轻松的闭眼,让心从贪、嗔、痴中静止。
2)禅定,让自己的心灵稳定。
3)捨(慈、悲、喜、捨,四无量心之一),自然的放下心中所有的事情。
6.เวลาใดรู้สึกว่ามีความเบื่อหน่ายในการเจริญภาวนา เวลานั้นควรปลูกความเชื่อ เลื่อมใส ในการเจริญภาวนา เพื่อยังจิตใจให้ร่าเริง โดยนึกถึงสังเวควัตถุ คือเรื่องที่ทำให้เกิดความสังเวชสลดใจ ได้แก่การ พิจารณาเห็นทุกข์ต่างๆ แล้วสลดหรือนึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
6.当在禅定中感觉到厌烦的时候,为了让心继续保持愉快的状态,就应 该培养信念与信仰。通过意念痛苦的事情,例如,观察分析看到各种 痛苦,然后心会悲伤,或意念到三宝的恩德。
7.เวลาใดจิตใจไม่มีการท้อถอย ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เบื่อหน่ายในการเจริญภาวนา เวลานั้นควรประคองใจไว้ให้นิ่งเฉย โดยไม่ต้องยกจิต ข่มจิต และทำจิตใจให้ร่าเริงแต่อย่างใดทั้งสิ้น
7.在禅定时,如果心没有畏缩、胡思乱想和厌烦的状况,那个时候就应该护持 让心自然的宁静。而不用去放纵或抑制心,让心一直都保持着愉快的状态。
8.อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนํ เว้นจากบุคคลที่มีจิตใจไม่สงบ มีความประพฤติเหลาะแหละ วอกแวก ไม่มั่นคงในการงาน เตร็ดเตร่เที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ
8.远离心不宁静、信口开河、心神不定、不专心工作、漫步于各种场合之人。
9.จงคบหาสมาคมกับผู้ที่มีความประพฤติมั่นคง ไม่จับจด มีจิตผ่องใส ตั้งมั่น
9.必须与那些拥有稳定行为,不敷衍,有明亮心的人结交为友。
10.จงน้อมใจอยู่แต่ในเรื่องฌานสมาธิ คือมีความพยายาม ดูนิมิต สืบต่อเนื่องกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ขาดสาย
10.必须虚心于禅定中,即是要一直持续不断且勤奋的观想所缘。
นอกจากบำเพ็ญ “ อัปปนาโกศล” 10 ประการแล้ว ให้ระวัง “ อุปกิเลส” ของสมาธิ 11 ประการ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการประคองใจรักษานิมิตดังนี้ คือ
1.วิจิกิจฉา ความลังเล หรือความสงสัย
2.อมนสิการ ความไม่ใส่ใจไว้ให้ดี
3.ถีนมิทธะ ความท้อ และความเคลิบเคลิ้มง่วงนอน
4.ฉิมภิตัตตะ ความสะดุ้งหวาดกลัว
5.อุพพิละ ความตื่นเต้นด้วยความยินดี
6.ทุฏฐุลละ ความไม่สงบกาย ความคะนองหยาบ
7.อัจจารัทธวิริยะ ความเพียรจัดเกินไป
8.อติลีนวิริยะ ความเพียรย่อหย่อนเกินไป
9.อภิชัปปา ความอยาก
10.มานัตตสัญญา ความนึกไปในสิ่งต่างๆ
11.รูปานํ อตินิชฌายิตัตตะ ความเพ่งต่อรูปจนเกินไป
除了实行“十安止熟练”之外,还应注意可能在护持心和维持所缘 时,产生的^^一项小烦恼。
1.犹豫或怀疑
2.不在乎
3.昏眠与昏沉睡眠
4.恐惧惊吓
5.乐意于激动
6.身不安定,鲁莽粗俗
7.过于勤奋
8.过于放逸
9.奢望、渴望
10.想各种各样的事情
11.过度的凝视图像
ความเพียร 3 ประเภทเปรียบเทียบกับผึ้ง 3 จำพวก
ในการฝึกหัดจิตใจประคองรักษานิมิต ควรใช้ความเพียรแต่พอปานกลาง อย่าให้กล้านัก เพราะจะทำให้เป็นเหตุแห่งความฟุ้งซ่าน อย่าให้อ่อนนัก เพราะจะเป็นเหตุแห่งความเกียจคร้าน ท่านเปรียบเทียบไว้กับผึ้งดังนี้
三种精进与三类蜜蜂的比较
在练习护持所缘中,应该使用适度的勤奋与毅力,不要过于强硬, 因为那样将会导致胡思乱想,同时也不要过于软弱,因为那样会让懒惰 产生。我们可以用蜜蜂来做比较:
ผึ้งจำพวกที่ 1 ไม่ฉลาด รู้ว่าดอกไม้ที่นั้น หรือที่โน้นบานแล้วก็บินไปอย่างรวดเร็ว ทำให้บินเลย ดอกไม้นั้นไป ครั้นรู้ตัวว่าบินเลยไปเสียแล้วก็บินย้อนกลับมา กว่าจะถึง ผึ้งตัวอื่นก็เคล้าเกสรดอกไม้ไปหมดแล้ว ตนก็ไม่ได้เกสร
第一种类型的蜜蜂:不聪明,知道哪边的花开了,就一直往花开的方向
快速飞去。但它却飞过头了,当领悟到超过时又飞回 来,就要快到蜂巢的时候,其他的蜜蜂已经把花粉采 集完了,最终自己什么也得不到。
ผึ้งจำพวกที่ 2 ไม่ฉลาด บินไปช้าๆ พอไปถึงผึ้งตัวอื่นก็เคล้าเกสรไปหมดแล้ว ตนก็ไม่ได้เกสรเช่นเดียวกันกับพวกที่ 1
第二种类型的蜜蜂:不聪明,飞得很慢,当快要到达的时候,其他的蜜
蜂已经把花粉给采集完了。自己也跟第一种类型的蜜 蜂一样,采不到蜂蜜。
ผึ้งจำพวกที่ 3 ฉลาด บินไปไม่ช้านัก ไม่เร็วนัก คลึงเคล้าเอาเกสรได้สมปรารถนา
第三种类型的蜜蜂:聪明,不会飞得太慢或太快。但能够顺利的采集到花粉。
ผู้ทำความเพียรจัดไป ก็เหมือนกับ ผึ้งจำพวกที่ 1
ผู้ทำความเพียรอ่อนไป ก็เหมือนกับ ผึ้งจำพวกที่ 2
ผู้ทำความเพียรปานกลางสม่ำเสมอ ก็เหมือนกับ ผึ้งจำพวกที่ 3 สามารถบรรลุอัปปนาสมาธิ เข้าถึงปฐมมรรค หรือปฐมฌาน ได้สมปรารถนา
过度强硬的人就会如第一种类型的蜜蜂。
过度软弱的人就会如第二种类型的蜜蜂。
保持适度的人就会如第三种类型的蜜蜂。
如果能够到达安止定,就能如愿的证入初道或初禅。
บทที่ 5 การใช้คำภาวนา 第五章默念词的使用
บทที่ 5 การใช้คำภาวนา
第五章默念词的使用
โดยปกติในเวลาทำสมาธิ เรามักจะพบกับใจที่ยังมีสภาพซัดส่าย และคิดไปในเรื่องราวต่างๆ ความคิดที่ปรากฏออกมาพร้อมกับใจที่ซัดส่าย บางครั้งก็เป็นภาพคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หรือ บางครั้งก็เป็นเสียงต่างๆ ปรากฏขึ้นมากมาย ในการปฏิบัติสมาธิเพื่อให้ใจของเราสงบนั้น กรณีที่เป็นภาพความคิดปรากฏเกิดขึ้น ได้แนะนำไว้ในบทเรียนที่แล้วว่าให้ใช้การนึกนิมิต สำหรับในกรณีของความคิดที่เผยตัวออกมาเป็นเสียงนั้น พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีได้ แนะนำให้ใช้วิธีการภาวนาเพื่อช่วยทำให้ใจของเราสงบหยุดนิ่งได้ง่าย ดังนั้นเราจึงควรจะได้ศึกษา เรียนรู้การภาวนาเพื่อนำไปใช้ฝึกปฏิบัติในขณะทำสมาธิ因此,通常在禅定的时候,我们的心可能会出现摇摆不定,以及胡 思乱想的情况。同时想法也会跟随不定的心一起表现出来。在修习禅定 时,会有人、动物、物品、场所的图像,或者是各种各样的声音出现在 脑海中,让我们的心无法宁静下来。对于意念图像,在前面的章节中已 经有介绍,可以通过观想所缘。而对于意念声音,帕蒙昆贴牟尼袓师则 介绍使用默念的方法,这也是为了让我们的心能够容易的进入宁静的状 态。为了在修行禅定时得以运用与实践,所以,我们应该去学习和了解 默念方面的知识。
5.1 ความหมายของการภาวนา
ภาวนา1) แปลว่า ธรรมที่ควรกระทำให้เจริญขึ้น คือให้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในสันดานของตน
วิเคราะห์ตามศัพท์พระบาลีท่านว่า “ ภาเวตัพพาติ = ภาวนา” แปลความว่า ธรรมที่บัณฑิตทั้งหลายพึงทำให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งหลังๆ ให้ติดต่อกันเป็นนิจจนถึงเจริญขึ้น
ข้างต้นที่ท่านแปลอย่างนี้ ก็เพราะภาวนาเป็นธรรมที่อำนวยประโยชน์ให้ผู้กระทำได้รับความสุขกาย สุขใจทั้งในภพนี้และภพหน้า ตลอดจนกระทั่งพ้นจากวัฏฏสงสาร
ดังนั้นการใช้คำภาวนา หรือที่เรียกว่า “ การบริกรรมภาวนา” ก็คือ การนึกถึงคำภาวนาอย่างต่อเนื่องเป็นการนึกถึงถ้อยคำที่เป็นเสียงดังละเอียด อ่อนขึ้นมาในใจ
5. 1默念的含义
默念1,意思指让佛法繁荣发展的动作,让其在自身的本质中常常的产生。 按照巴利语的意义来分析:“帕威达帕低(音译)=默念。翻译为: 众佛法智者第一次创造此法,然后常常的使用,让其繁荣。”
上面之所以如此解释,这是因为佛法的默念能够给修行者带来益处, 让修行者在今世和来世都获得身心幸福与快乐,及脱离轮回转世。
因此,使用默念词或者称之为“诵念默念词”,就是不断地意念默念词, 让意念到的词响亮而精细柔和的从心中发出来。
วิเคราะห์ตามศัพท์พระบาลีท่านว่า “ ภาเวตัพพาติ = ภาวนา” แปลความว่า ธรรมที่บัณฑิตทั้งหลายพึงทำให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งหลังๆ ให้ติดต่อกันเป็นนิจจนถึงเจริญขึ้น
ข้างต้นที่ท่านแปลอย่างนี้ ก็เพราะภาวนาเป็นธรรมที่อำนวยประโยชน์ให้ผู้กระทำได้รับความสุขกาย สุขใจทั้งในภพนี้และภพหน้า ตลอดจนกระทั่งพ้นจากวัฏฏสงสาร
ดังนั้นการใช้คำภาวนา หรือที่เรียกว่า “ การบริกรรมภาวนา” ก็คือ การนึกถึงคำภาวนาอย่างต่อเนื่องเป็นการนึกถึงถ้อยคำที่เป็นเสียงดังละเอียด อ่อนขึ้นมาในใจ
5. 1默念的含义
默念1,意思指让佛法繁荣发展的动作,让其在自身的本质中常常的产生。 按照巴利语的意义来分析:“帕威达帕低(音译)=默念。翻译为: 众佛法智者第一次创造此法,然后常常的使用,让其繁荣。”
上面之所以如此解释,这是因为佛法的默念能够给修行者带来益处, 让修行者在今世和来世都获得身心幸福与快乐,及脱离轮回转世。
因此,使用默念词或者称之为“诵念默念词”,就是不断地意念默念词, 让意念到的词响亮而精细柔和的从心中发出来。
5.2 ความสำคัญของการภาวนา
การภาวนาโดยปกติมักจะใช้ควบคู่กับการนึกนิมิต เพื่อช่วยให้ใจไม่สับสน
ฟุ้งซ่าน เพราะการภาวนา
จะช่วยส่งเสริมใจให้เกาะเกี่ยวติดแน่นอยู่กับศูนย์กลางกายฐานที่ 7
ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ถ้าจะเปรียบ ก็คือ
คำภาวนานั้นเหมือนเรือหรือแพที่นำบุคคลข้ามฝั่ง
นอกจากนี้ในการทำภาวนาจะช่วยทำให้ใจมาอยู่กับเนื้อกับตัว
ทำให้ใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายของเรา
5. 2默念的重要性
通常默念与观想所缘一同使用,这是为了让心不混乱和不散乱,也 是因为默念将会起到促进的作用,使得心一直稳定和持续的紧贴在身体 中央的第七点。而那些默念词就好像是载着人们渡河的船或筏子一般。 除此之外,默念将会有助于心与肉体的结合,使心与我们的身体合二为一。
5. 2默念的重要性
通常默念与观想所缘一同使用,这是为了让心不混乱和不散乱,也 是因为默念将会起到促进的作用,使得心一直稳定和持续的紧贴在身体 中央的第七点。而那些默念词就好像是载着人们渡河的船或筏子一般。 除此之外,默念将会有助于心与肉体的结合,使心与我们的身体合二为一。
5.3 คำภาวนาที่ใช้
ในการใช้คำภาวนาในการทำสมาธิ มีคำภาวนาให้เลือกใช้ได้มากมาย เช่น พุทโธ
ธัมโม สังโฆ สัมมา-อะระหัง ยุบหนอ-พองหนอ เป็นต้น
ซึ่งแต่ละคำล้วนมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ เป็นอุปกรณ์เพื่อช่วยให้ใจหยุด
ซึ่งในการใช้คำภาวนาแต่ละอย่างนั้น
ส่วนใหญ่ผู้ปฏิบัติมักจะเลือกใช้ถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังแล้ว ทำให้ใจสงบ
หยุดนิ่ง คือ เป็นถ้อยคำที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ดีงาม เช่น พระพุทธเจ้า
หรือเป็นถ้อยคำที่ทำให้สติอยู่กับเนื้อกับตัว เช่น ยุบหนอ พองหนอ
แม้ว่าคำภาวนาจะมีมากมาย แต่ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี
ท่านได้เลือกและให้ใช้คำว่า “ สัมมา อะระหัง”
5.3使用的默念词
在禅定中有很多类型的默念词可以使用,例如:普陀、达摩、桑抠、 三玛阿罗汉、忧挪一彭挪,等等。而且每一个词都拥有同样地目的,那 就是成为让心静止的工具。因此,在对各式各样默念词的使用时,大多 数修行者都会选择使用在听了之后,能够让自己的心宁静的词。而这个 词则又是与美好事物联系在一起的。例如,佛陀或是能够让正念与肉体 结合在一起的词,有如忧挪一彭挪。纵然有很多类型的默念词,但是帕 蒙昆贴牟尼袓师选择及推荐使用的是“三玛阿罗汉”。
1法胜法师领导打坐(1997年9月7日)
2法胜法师领导打坐(1997年9月7日)
3法胜法师领导打坐(1995年12月3日)
5.3使用的默念词
在禅定中有很多类型的默念词可以使用,例如:普陀、达摩、桑抠、 三玛阿罗汉、忧挪一彭挪,等等。而且每一个词都拥有同样地目的,那 就是成为让心静止的工具。因此,在对各式各样默念词的使用时,大多 数修行者都会选择使用在听了之后,能够让自己的心宁静的词。而这个 词则又是与美好事物联系在一起的。例如,佛陀或是能够让正念与肉体 结合在一起的词,有如忧挪一彭挪。纵然有很多类型的默念词,但是帕 蒙昆贴牟尼袓师选择及推荐使用的是“三玛阿罗汉”。
5.4 เหตุผลที่ใช้คำว่า สัมมา อะระหัง
5.4使用“三玛阿罗汉”的原因
พระมงคลเทพมุนีสอนให้บริกรรมภาวนาว่า สัมมา อะระหัง เป็นบทพุทธคุณ
การที่ใช้คำนี้เป็นพุทธานุสติในการเจริญสมาธิเพราะพุทธานุสตินี้เป็นธรรม
ประการต้นที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี
สนใจปฏิบัติและสอนสานุศิษย์เป็นพิเศษทุกครั้งที่ปฏิบัติธรรมจะต้องให้ใจ
ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เพราะพุทธานุสติเป็นธรรมให้จิตตื่น
ให้จิตสว่าง ให้จิตมีกำลัง มีความกล้าที่จะปฏิบัติธรรมสืบต่อไป
帕蒙昆贴牟尼袓师让我们诵念的默念词“三玛阿罗汉”是代表佛德 的词语,并且在禅定中使用这个词来念佛。帕蒙昆贴牟尼袓师在每一次 的修行及教导弟子时,都会把念佛作为首要的佛法准则,来让大家的心 能够意念到佛陀。因为念佛是一种唤醒心灵,让心灵明亮以及充满力量 的佛法,并且有信心继续修行佛法。
ธรรมดาจิตของบุคคลถ้าไม่มีอะไรยึดแล้ว จิตจะคอยแต่ฟุ้งซ่าน ทำให้สงบอยู่ไม่ได้ จึงต้อง มีพุทธคุณยึด เมื่อมีพุทธคุณยึดแล้ว จะหลับก็ตาม จะตื่นก็ตาม จิตย่อมอยู่ในการรักษา เพราะพุทธานุภาพย่อมรักษาคนที่มีสติระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่เป็น นิตย์ ดังพุทธภาษิตว่า
สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ สทา โคตมสาวกา
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ นิจฺจํ พุทฺธคตา สติ
แปลว่า สติที่ไปในพระพุทธเจ้ามีแด่พระสาวกของพระโคดมเหล่าใดทั้งวันทั้งคืน พระสาวกของพระโคดมเหล่านั้นจะหลับก็ตาม จะตื่นก็ตาม ชื่อว่า ตื่นแล้วด้วยดี
通常情况下,如果人的心灵没有什么可以依靠时,心灵就会胡思乱 想,而无法宁静。因此要有佛德来作为依靠,当有佛德作为依靠之后, 那么无论是在睡觉,还是睡醒的时候,心灵都会保持一致的状态。因为 佛威德会维护那些常念佛之人。就如佛陀所开示的:
“无论是佛陀的哪一个弟子,不管是細觉还是rnm, 都会时时刻刻意念到佛陀,如此才称得上是持正念之人。,,
อาศัยเหตุนี้พุทธานุสติจึงเป็นคุณธรรมที่ทำให้เกิดความสุขใจแก่ผู้ปฏิบัติ ธรรมเป็นประการแรก ดังนั้นพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีจึงสนใจ และเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า ท่านเตือนพุทธบริษัทเสมอๆ ว่าอย่าให้เป็นคนว่าง ควรมีพระพุทธคุณเป็นอารมณ์ แม้จะยังไม่บรรลุอริยผลเบื้องสูงก็ตาม แม้เมื่อละโลก ก็มีสุคติเป็นที่ไป ดังพุทธพจน์ว่า
เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตา เส น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ
ปหาย มนุสฺสํ เทหํ เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺติ
แปลว่า ชนเหล่าใดถึงซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ชนเหล่านั้นแลจักไม่ไปสู่อบาย เมื่อเขาละร่างกายนี้แล้วก็จะไปเพียบพร้อมอยู่ในเทวสมาคม
由此,念佛就成为了修行者产生快乐的第一项德行。因此,帕蒙昆 贴牟尼袓师很关心在这方面的培养,并时常提醒佛教四众道:“不要让自 己的心空闲,应时常意念佛陀的美德,即使是还没有取得很好的效果也 不要紧。这样当往生之后,会往生善道。就如佛陀所开示的:
“如果哪个种族的人以佛陀为依靠,那么该种族的人就不会堕落地狱’当他们往生后,就能往生天界。”
สัมมา อะระหังเป็นถ้อยคำที่ศักดิ์สิทธิ์ สืบทอดกันมายาวนานเป็นพันปี ให้ไว้สำหรับผู้มีบุญ ในกาลก่อน กว่าจะได้คำนี้มาจะได้ด้วยความยากลำบาก ต้องบอกกันแบบมีพิธีการมาก เพื่อให้รู้คุณค่าของคำๆ นี้
“三玛阿罗汉”是一个神圣的词,流传了有千年之久,而且属于那些有
功德的人所用。在以前经过了很多的困难,才得到这个词。而且为了让
人们了解这个词的价值,还得通过很多仪式来告诉大家。
ความหมายของคำว่า สัมมาอะระหัง
1.สัมมา อะระหัง เป็นคำสากลที่ใช้ได้กับทุกคนในโลก โดยไม่ขัดแย้งกับความเชื่อใดๆ
คำว่าสัมมา แปลว่า ถูกต้อง ดีงาม ที่ถูกที่ชอบ เช่น มีความเห็นถูก คิดถูก พูดถูก ทำถูก เป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม
อะระหัง แปลว่า ห่างไกลจากสิ่งชั่วร้าย ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความโกรธ ความโศกเศร้า ความคับแค้นใจ ความร่ำพิไรรำพัน ความอาลัย หรือห่างไกลจากบาปอกุศล
สัมมา อะระหัง จึงแปลรวมๆ ว่า ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงาม และไกลจากสิ่งชั่วร้าย จากบาปอกุศล ความโลภ ความโกรธ ความหลง
“三玛阿罗汉”的含义
1. “二玛阿罗汉”属于每个人都可以去运用的普通词语,不会与任何的 信仰有冲突。
“三玛”这个词的意思是:正确、美好,例如:有正确的见解,正确 的想法,正确的说法,以及正确的做法,即所有正确和美好的东西。
“阿罗汉”这个词的意思是:远离卑劣、贪婪、愤怒、沉迷、忧愁、眷 恋,或远离罪恶。
“三玛阿罗汉”整个词的意思是:做正确而美好的事情,远离卑劣、罪 恶、贪婪、愤怒、沉迷。
2.สัมมา อะระหัง เป็นภาษาบาลี มีศัพท์ควบคู่กันอยู่ 2 ศัพท์คือ สัมมาคำหนึ่ง กับอะระหังคำหนึ่ง
2.1สัมมา เป็นศัพท์ที่มีความหมายสูง แปลว่า ชอบ ดีงาม ถูกต้อง ในพระพุทธคุณ 9 บท ท่านเอาศัพท์ นี้เข้าคู่กับสัมพุทโธ เป็นสัมมาสัมพุทโธ แปลว่า ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ นอกจากใช้ในบทพุทธคุณแล้วยังใช้ ในอริยมรรคมีองค์ 8 ด้วย โดยมีคำว่า สัมมา ควบองค์มรรค อยู่ทุกข้อเป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ เป็นต้น ทำให้ความหมายของมรรค 8 หมายถึง ถูกต้อง สิ่งที่ดีงาม ตั้งแต่เห็นถูก คิดถูก พูดถูก ทำถูก เป็นต้นเรื่อยไป
2. “三玛阿罗汉”属于巴利语,由两个词组成,分别为:“三玛”和“阿罗汉”。
2. 1 “三玛”这个词的含义很深,在赞美佛德九章中解释为:正确与 美好。佛陀将“三玛”(三藐)和“三普陀”(三菩提,音译) 这两个词组合在一起,成为“三玛三普陀”,意思就是:觉醒智 者。除了在赞美佛德九章中使用之外,还在八圣道中使用,因 此,就有了“三玛”所组合成的正见和正思维等词语。用“八 正道”的意思分别解释为:正确、美好的事情、包括所有那些 正确的见解、正确的想法、正确的说法及正确的做法等等。
2.2ส่วนศัพท์ว่า อะระหัง เป็นพุทธคุณบทต้น แปลว่า พระพุทธองค์ทรงเป็นพระอรหันต์ เมื่อรวมเป็นสัมมาอะระหัง จึงแปลว่า พระพุทธองค์ทรงเป็นพระอรหันต์โดยชอบ
2.2对于“阿罗汉”这个词,则是属于佛德的初始章节。意思是:远 离烦恼的阿罗汉。当组合为“三玛阿罗汉”之后,意思为:佛 陀是正确远离烦恼的阿罗汉。
นอกจากนี้ อะระหัง ยังแปลว่าไกลจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย หมายถึง ไกลจากกิเลส คือ กิเลสไปไกลๆ เพราะใจของเราห่างจากกิเลส ห่างจากความมืด ห่างจากความทุกข์ทรมาน ห่างจากความเลว ห่างจากสิ่งไม่ดี มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงได้ชื่อว่า อะระหัง คือ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ ไม่มีสิ่งที่ เป็นมลทินเข้าไปเจือปนเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเพชร ก็เป็นเพชรที่ใส ไม่มีมลทิน ไม่มีขีด ไม่มีข่วน ไม่มีไฝฝ้า เป็นเพชรที่ใสทั้งเนื้อทั้งแววทั้งสี สวยงามไม่มีที่ติทีเดียว
除此之外,“阿罗汉”还解释为远离各种不好的东西,意思就是远离 烦恼,将烦恼抛得远远的。因为我们的心远离烦恼、远离黑暗、远离痛 苦、远离卑劣、远离不好的东西,而只有纯净。因此相信“阿罗汉”只 存在纯洁里,而不会存在有污点的东西内,即使是一点点的浑浊也都不 会看见。如果是钻石,也是纯洁的钻石,没有任何的污点、刮痕和瑕疵, 是洁白无瑕与完美无缺的钻石。
คำว่า อะระหัง นี้ยังเป็นคำแทนของพระธรรมกาย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย เป็นผู้รู้แจ้งเพราะเห็นแจ้ง ญาณทัศนะเกิด เพราะว่ามีธรรมจักขุมองเห็นสว่างไสว เห็นถึงไหน รู้ถึงนั่น เป็นผู้ตื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่งัวเงีย ไม่เหมือนอยู่ในโลกของความฝัน ตื่นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง คือรู้เรื่องความจริงทั้งหมด เห็นว่าอะไรเป็นจริง อะไรไม่จริงก็เห็นว่ามันไม่จริง อะไรจริงก็เห็นว่ามันจริง หลุดพ้นจากสิ่งเหล่านั้นจนกระทั่งใจขยายไม่มีที่สิ้นสุดที่เรียกว่าเบิกบาน เหมือนอาการบานของดอกไม้
“阿罗汉”这个词,还是法身法门的代名词,即成为远离一切烦恼, 能如实知见的纯净之人。智见的产生是因为有法眼可以看见光芒,看到 哪里,智慧就会到达那里。也是一个保持清醒意志的人,不迷茫,不像 处在梦想的世界中,而是惊醒在现实的世界中。即是了解一切事实的真 相,假的就是假的,真的就是真的。从那些烦恼中脱离出来,心就会无 限的扩大,像花开的形态一样。
ดอกไม้ที่น้ำเลี้ยงดอกไม้มันเต็มที่ก็ขยายส่งกลิ่นหอมไปไกลทีเดียว ขยายออกไป ใจที่เบิกบาน คือใจที่หลุดจากข้อง จากที่แคบ จากภพทั้งหลาย จากสิ่งที่ทำให้อึดอัดที่ทำให้คับแคบ ให้วิตกกังวล เซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม อะไรต่างๆ หลุดหมดเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง ขยายไปไม่มีที่สิ้นสุด
经常浇水的花,就会长大并开花,而且花的香味会立即传到很远的 地方。要想拥有愉快的心情,就应让心远离纠葛、狭隘和各境界,以及 那些压抑和狭窄的东西。让忧虑、乏味、紧张、厌烦、苦闷等完全的脱 离而独立起来,成为真正的自己并无限的扩大。
สัมมา อะระหัง โดยสรุปแล้วหมายถึง การเข้าถึงสิ่งอันประเสริฐ หรือสิ่งประเสริฐสูงสุดที่มนุษย์จะพึงเข้าถึงได้ คือพระธรรมกายในตัวนั่นเอง จากที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เห็นว่า คำว่า สัมมา อะระหัง จึงเป็นถ้อยคำที่ถูกกลั่นกรองและคัดเลือกแล้ว เพื่อนำมาใช้เป็นคำภาวนาที่เหมาะสมที่สุดในการภาวนา
“三玛阿罗汉”的意思是:证入高尚的境界或人类所能够证入的最 卓越之境界,就是证入自已体内的法身。通过以上所讲的内容可以知道 “三玛阿罗汉”这个词,是一个去粗取精、精挑细选的词语,为的就是 让它成为默念词当中最合适的一个词。
帕蒙昆贴牟尼袓师让我们诵念的默念词“三玛阿罗汉”是代表佛德 的词语,并且在禅定中使用这个词来念佛。帕蒙昆贴牟尼袓师在每一次 的修行及教导弟子时,都会把念佛作为首要的佛法准则,来让大家的心 能够意念到佛陀。因为念佛是一种唤醒心灵,让心灵明亮以及充满力量 的佛法,并且有信心继续修行佛法。
ธรรมดาจิตของบุคคลถ้าไม่มีอะไรยึดแล้ว จิตจะคอยแต่ฟุ้งซ่าน ทำให้สงบอยู่ไม่ได้ จึงต้อง มีพุทธคุณยึด เมื่อมีพุทธคุณยึดแล้ว จะหลับก็ตาม จะตื่นก็ตาม จิตย่อมอยู่ในการรักษา เพราะพุทธานุภาพย่อมรักษาคนที่มีสติระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่เป็น นิตย์ ดังพุทธภาษิตว่า
สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ สทา โคตมสาวกา
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ นิจฺจํ พุทฺธคตา สติ
แปลว่า สติที่ไปในพระพุทธเจ้ามีแด่พระสาวกของพระโคดมเหล่าใดทั้งวันทั้งคืน พระสาวกของพระโคดมเหล่านั้นจะหลับก็ตาม จะตื่นก็ตาม ชื่อว่า ตื่นแล้วด้วยดี
通常情况下,如果人的心灵没有什么可以依靠时,心灵就会胡思乱 想,而无法宁静。因此要有佛德来作为依靠,当有佛德作为依靠之后, 那么无论是在睡觉,还是睡醒的时候,心灵都会保持一致的状态。因为 佛威德会维护那些常念佛之人。就如佛陀所开示的:
“无论是佛陀的哪一个弟子,不管是細觉还是rnm, 都会时时刻刻意念到佛陀,如此才称得上是持正念之人。,,
อาศัยเหตุนี้พุทธานุสติจึงเป็นคุณธรรมที่ทำให้เกิดความสุขใจแก่ผู้ปฏิบัติ ธรรมเป็นประการแรก ดังนั้นพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีจึงสนใจ และเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า ท่านเตือนพุทธบริษัทเสมอๆ ว่าอย่าให้เป็นคนว่าง ควรมีพระพุทธคุณเป็นอารมณ์ แม้จะยังไม่บรรลุอริยผลเบื้องสูงก็ตาม แม้เมื่อละโลก ก็มีสุคติเป็นที่ไป ดังพุทธพจน์ว่า
เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตา เส น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ
ปหาย มนุสฺสํ เทหํ เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺติ
แปลว่า ชนเหล่าใดถึงซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ชนเหล่านั้นแลจักไม่ไปสู่อบาย เมื่อเขาละร่างกายนี้แล้วก็จะไปเพียบพร้อมอยู่ในเทวสมาคม
由此,念佛就成为了修行者产生快乐的第一项德行。因此,帕蒙昆 贴牟尼袓师很关心在这方面的培养,并时常提醒佛教四众道:“不要让自 己的心空闲,应时常意念佛陀的美德,即使是还没有取得很好的效果也 不要紧。这样当往生之后,会往生善道。就如佛陀所开示的:
“如果哪个种族的人以佛陀为依靠,那么该种族的人就不会堕落地狱’当他们往生后,就能往生天界。”
สัมมา อะระหังเป็นถ้อยคำที่ศักดิ์สิทธิ์ สืบทอดกันมายาวนานเป็นพันปี ให้ไว้สำหรับผู้มีบุญ ในกาลก่อน กว่าจะได้คำนี้มาจะได้ด้วยความยากลำบาก ต้องบอกกันแบบมีพิธีการมาก เพื่อให้รู้คุณค่าของคำๆ นี้
“三玛阿罗汉”是一个神圣的词,流传了有千年之久,而且属于那些有
功德的人所用。在以前经过了很多的困难,才得到这个词。而且为了让
人们了解这个词的价值,还得通过很多仪式来告诉大家。
ความหมายของคำว่า สัมมาอะระหัง
1.สัมมา อะระหัง เป็นคำสากลที่ใช้ได้กับทุกคนในโลก โดยไม่ขัดแย้งกับความเชื่อใดๆ
คำว่าสัมมา แปลว่า ถูกต้อง ดีงาม ที่ถูกที่ชอบ เช่น มีความเห็นถูก คิดถูก พูดถูก ทำถูก เป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม
อะระหัง แปลว่า ห่างไกลจากสิ่งชั่วร้าย ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความโกรธ ความโศกเศร้า ความคับแค้นใจ ความร่ำพิไรรำพัน ความอาลัย หรือห่างไกลจากบาปอกุศล
สัมมา อะระหัง จึงแปลรวมๆ ว่า ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงาม และไกลจากสิ่งชั่วร้าย จากบาปอกุศล ความโลภ ความโกรธ ความหลง
“三玛阿罗汉”的含义
1. “二玛阿罗汉”属于每个人都可以去运用的普通词语,不会与任何的 信仰有冲突。
“三玛”这个词的意思是:正确、美好,例如:有正确的见解,正确 的想法,正确的说法,以及正确的做法,即所有正确和美好的东西。
“阿罗汉”这个词的意思是:远离卑劣、贪婪、愤怒、沉迷、忧愁、眷 恋,或远离罪恶。
“三玛阿罗汉”整个词的意思是:做正确而美好的事情,远离卑劣、罪 恶、贪婪、愤怒、沉迷。
2.สัมมา อะระหัง เป็นภาษาบาลี มีศัพท์ควบคู่กันอยู่ 2 ศัพท์คือ สัมมาคำหนึ่ง กับอะระหังคำหนึ่ง
2.1สัมมา เป็นศัพท์ที่มีความหมายสูง แปลว่า ชอบ ดีงาม ถูกต้อง ในพระพุทธคุณ 9 บท ท่านเอาศัพท์ นี้เข้าคู่กับสัมพุทโธ เป็นสัมมาสัมพุทโธ แปลว่า ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ นอกจากใช้ในบทพุทธคุณแล้วยังใช้ ในอริยมรรคมีองค์ 8 ด้วย โดยมีคำว่า สัมมา ควบองค์มรรค อยู่ทุกข้อเป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ เป็นต้น ทำให้ความหมายของมรรค 8 หมายถึง ถูกต้อง สิ่งที่ดีงาม ตั้งแต่เห็นถูก คิดถูก พูดถูก ทำถูก เป็นต้นเรื่อยไป
2. “三玛阿罗汉”属于巴利语,由两个词组成,分别为:“三玛”和“阿罗汉”。
2. 1 “三玛”这个词的含义很深,在赞美佛德九章中解释为:正确与 美好。佛陀将“三玛”(三藐)和“三普陀”(三菩提,音译) 这两个词组合在一起,成为“三玛三普陀”,意思就是:觉醒智 者。除了在赞美佛德九章中使用之外,还在八圣道中使用,因 此,就有了“三玛”所组合成的正见和正思维等词语。用“八 正道”的意思分别解释为:正确、美好的事情、包括所有那些 正确的见解、正确的想法、正确的说法及正确的做法等等。
2.2ส่วนศัพท์ว่า อะระหัง เป็นพุทธคุณบทต้น แปลว่า พระพุทธองค์ทรงเป็นพระอรหันต์ เมื่อรวมเป็นสัมมาอะระหัง จึงแปลว่า พระพุทธองค์ทรงเป็นพระอรหันต์โดยชอบ
2.2对于“阿罗汉”这个词,则是属于佛德的初始章节。意思是:远 离烦恼的阿罗汉。当组合为“三玛阿罗汉”之后,意思为:佛 陀是正确远离烦恼的阿罗汉。
นอกจากนี้ อะระหัง ยังแปลว่าไกลจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย หมายถึง ไกลจากกิเลส คือ กิเลสไปไกลๆ เพราะใจของเราห่างจากกิเลส ห่างจากความมืด ห่างจากความทุกข์ทรมาน ห่างจากความเลว ห่างจากสิ่งไม่ดี มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงได้ชื่อว่า อะระหัง คือ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ ไม่มีสิ่งที่ เป็นมลทินเข้าไปเจือปนเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเพชร ก็เป็นเพชรที่ใส ไม่มีมลทิน ไม่มีขีด ไม่มีข่วน ไม่มีไฝฝ้า เป็นเพชรที่ใสทั้งเนื้อทั้งแววทั้งสี สวยงามไม่มีที่ติทีเดียว
除此之外,“阿罗汉”还解释为远离各种不好的东西,意思就是远离 烦恼,将烦恼抛得远远的。因为我们的心远离烦恼、远离黑暗、远离痛 苦、远离卑劣、远离不好的东西,而只有纯净。因此相信“阿罗汉”只 存在纯洁里,而不会存在有污点的东西内,即使是一点点的浑浊也都不 会看见。如果是钻石,也是纯洁的钻石,没有任何的污点、刮痕和瑕疵, 是洁白无瑕与完美无缺的钻石。
คำว่า อะระหัง นี้ยังเป็นคำแทนของพระธรรมกาย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย เป็นผู้รู้แจ้งเพราะเห็นแจ้ง ญาณทัศนะเกิด เพราะว่ามีธรรมจักขุมองเห็นสว่างไสว เห็นถึงไหน รู้ถึงนั่น เป็นผู้ตื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่งัวเงีย ไม่เหมือนอยู่ในโลกของความฝัน ตื่นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง คือรู้เรื่องความจริงทั้งหมด เห็นว่าอะไรเป็นจริง อะไรไม่จริงก็เห็นว่ามันไม่จริง อะไรจริงก็เห็นว่ามันจริง หลุดพ้นจากสิ่งเหล่านั้นจนกระทั่งใจขยายไม่มีที่สิ้นสุดที่เรียกว่าเบิกบาน เหมือนอาการบานของดอกไม้
“阿罗汉”这个词,还是法身法门的代名词,即成为远离一切烦恼, 能如实知见的纯净之人。智见的产生是因为有法眼可以看见光芒,看到 哪里,智慧就会到达那里。也是一个保持清醒意志的人,不迷茫,不像 处在梦想的世界中,而是惊醒在现实的世界中。即是了解一切事实的真 相,假的就是假的,真的就是真的。从那些烦恼中脱离出来,心就会无 限的扩大,像花开的形态一样。
ดอกไม้ที่น้ำเลี้ยงดอกไม้มันเต็มที่ก็ขยายส่งกลิ่นหอมไปไกลทีเดียว ขยายออกไป ใจที่เบิกบาน คือใจที่หลุดจากข้อง จากที่แคบ จากภพทั้งหลาย จากสิ่งที่ทำให้อึดอัดที่ทำให้คับแคบ ให้วิตกกังวล เซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม อะไรต่างๆ หลุดหมดเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง ขยายไปไม่มีที่สิ้นสุด
经常浇水的花,就会长大并开花,而且花的香味会立即传到很远的 地方。要想拥有愉快的心情,就应让心远离纠葛、狭隘和各境界,以及 那些压抑和狭窄的东西。让忧虑、乏味、紧张、厌烦、苦闷等完全的脱 离而独立起来,成为真正的自己并无限的扩大。
สัมมา อะระหัง โดยสรุปแล้วหมายถึง การเข้าถึงสิ่งอันประเสริฐ หรือสิ่งประเสริฐสูงสุดที่มนุษย์จะพึงเข้าถึงได้ คือพระธรรมกายในตัวนั่นเอง จากที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เห็นว่า คำว่า สัมมา อะระหัง จึงเป็นถ้อยคำที่ถูกกลั่นกรองและคัดเลือกแล้ว เพื่อนำมาใช้เป็นคำภาวนาที่เหมาะสมที่สุดในการภาวนา
“三玛阿罗汉”的意思是:证入高尚的境界或人类所能够证入的最 卓越之境界,就是证入自已体内的法身。通过以上所讲的内容可以知道 “三玛阿罗汉”这个词,是一个去粗取精、精挑细选的词语,为的就是 让它成为默念词当中最合适的一个词。
5.5 วิธีการภาวนา
1. ภาวนาที่ศูนย์กลางกาย
5.5 默念的方法
ให้เสียงดังออกมาจากในกลางท้อง ตรงศูนย์กลางกายที่กลางท้อง แล้วก็นึกถึงดวงใส ให้เห็นดวงใสชัดทีเดียว เสียงภาวนาดังออกมาจากตรงกลางดวงใสๆ ในท้อง จะเข้าถึงหนทางเบื้องต้นที่จะไปสู่อายตนนิพพาน เป็นดวงใสสว่างกลมรอบตัวทีเดียว ใสบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเพชร เมื่อใจหยุดนิ่งดีแล้ว มีความละเอียดอ่อน มีความบางเบาเหมือนไม่มีมวลของเนื้อแก้วเลยทีเดียว อย่างเล็ก ขนาดดวงดาวในอากาศ อย่างกลางขนาดพระจันทร์คืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ก็ขนาดพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน พอเราภาวนา ถูกส่วนนิ่ง พอถูกส่วนเข้าจะเห็นดวงธรรมอย่างนี้
1.在体内中心点默念
让声音从肚子的中心点发出,同时观想透明的水晶球,让默念声从 水晶球的中心点响亮的传出。此时便是踏上涅槃之道的初始阶段,那一刻的 水晶球光亮而圆滑,比钻石还要更加透明纯净。当心完全静止之后, 水晶球会变得精细柔软,非常的轻,就好像脱离了肉体的光球一般。小 光球的规格有如天空中的星星,中等光球的规格有如夜晚的圆月,大光 球的规格则有如午间的太阳。当我们默念恰到好处,就会见到如此的光球。
2. ภาวนาคล้ายเสียงที่ละเอียดอ่อน
พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์แนะนำให้ภาวนาในใจว่า สัมมา อะระหังๆ ๆ โดยให้เสียงของคำภาวนาดังออกมาจากจุดกึ่งกลางขององค์พระ ให้เสียงของคำภาวนาเป็นเสียงที่ละเอียดอ่อน คล้ายๆ กับเสียงเพลง ที่ดังก้องอยู่ในใจเรา ให้ภาวนาอย่างนี้เรื่อยๆ จนกว่าเราจะเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากจะภาวนาอยากจะวางใจเฉยๆ ให้หยุดนิ่งอยู่ภายในกลางดวงแก้วหรือองค์พระ ถ้าเกิดความรู้สึกอย่างนี้เราก็ไม่ต้องภาวนาต่อ ให้ตรึกถึงดวงใส ใจอยู่ที่กลางดวงใส ในกรณีที่นึกดวงแก้ว องค์พระไม่ออกก็ให้ภาวนา2)
2.以精细柔软的声音来默念
帕拉帕哇那威素(法胜法师)教导我们要在心中默念道:“三玛阿罗 汉,三玛阿罗汉。”让默念词的声音从体内佛像的中心点发出来。并让默 念词的声音精细柔软,类似于我们心中洪亮的音乐声。要如此不断地默 念下去,直到让我们感觉不想再默念了,而只想让心静止在体内的水晶 球或佛像中。如果真的产生如此的想法,我们就不需要再继续默念下去。 而去意念水晶球及水晶球的中心点。如果观想不出水晶球和佛像,那就 先继续的去默念。1
ข้อควรระวัง อย่าท่องคำภาวนาโดยใช้กำลังแต่ให้เป็นเสียงที่ละเอียดอ่อนที่ดังออกมา จากกลางดวงใสๆ คล้ายๆ เสียงสวดมนต์ในใจ ในบทที่เราคล่อง หรือเสียงเพลงที่เราชอบที่ดังในใจโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
值得注意的是,不要太用力的去诵念默念词,而应从水晶球的中心 点散发出精细柔软的声音,就好像在心中诵念熟悉的经文或喜欢的歌曲, 要自然的诵念出来。
3. ภาวนาเรื่อยไป
สัมมา อะระหัง ๆ ภาวนาเรื่อยไปด้วยความเคารพ ระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ให้นั่ง เอาใจหยุดนิ่ง ให้ใจใสบริสุทธิ์อย่างนี้เป็นวิธีการเตรียมการที่จะให้ใจบริสุทธิ์ผ่องใส เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะบังเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นให้ภาวนาไปเรื่อยๆ ภาวนาสัมมา อะระหัง ๆ ๆ สังเกตดูว่าดังออกมาจากในกลางท้องแล้วหรือยัง กลางเครื่องหมายที่ใส สะอาดบริสุทธิ์ ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว โตเท่ากับแก้วตาของเรา สัมมา อะระหัง ๆ ๆภาวนาอย่างสบายๆ ไปเรื่อยๆ จะกี่สิบกี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่แสน กี่ล้านครั้งก็ได้3)
3.持续的默念下去
以敬仰三宝的心持续的默念“三玛阿罗汉,三玛阿罗汉”,让心慢慢 的静止、纯净。目的是为了准备好光亮与纯净的心,来成为即将产生大 功德的容器。因此要持续的默念“三玛阿罗汉,三玛阿罗汉”,同时注意 观察是否有响亮的声音从肚子中央发出,而且透明、纯净的中心标志有 如被雕刻过的钻石一般,没有任何的斑点和划痕,跟我们的眼球一样大, 要一直舒畅的将“三玛阿罗汉”默念下去,就算是十次,一百次,一千 次,一万次的也没关系。2
4. การทำภาวนาเหมือนกับการขี่จักรยาน4)
เราสามารถเปรียบเทียบการทำภาวนาก็เหมือนกับการขี่จักรยาน ใหม่ๆ ก็ขี่แล้วล้ม ล้มแล้วก็จับมาขี่ใหม่ ขี่ใหม่ล้มอีก เข่าถลอกปอกเปิกมั่ง ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาจับจักรยานขี่ใหม่ ทำกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ ไม่ช้าก็จะขี่จักรยานได้ ใหม่ๆ ก็นึกได้บ้าง ฟุ้งบ้าง ง่วงบ้าง เมื่อยบ้าง มืดบ้าง ก็ไม่เป็นไร ก็ทำไปเรื่อยๆ
4.默念有如骑自行车3
默念好像是在骑自行车一般。刚开始的时候骑了就摔倒,摔倒之后 扶起来再重新骑,可是又再次摔倒,膝盖不断地被擦伤。如此反复做学 着,不久之后就学会骑自行车了。而默念也是一样,刚开始的时候,可 能只意念到一些,朦胧一些,懵懂一些,酸软一些,暗淡一些,但也不 要紧,要坚持慢慢地做下去。
5. สิ้นสุดการภาวนา
การทำภาวนาควรภาวนาไปจนกว่าใจจะสงบนิ่ง ไม่อยากภาวนาต่อ อยากจะทำใจให้นิ่งเฉยๆ หรือภาวนาไปจนกว่าคำภาวนา สัมมา อะระหัง จะกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับดวงแก้วใสๆ ภายในกลางกาย
5.结束默念
默念时,应该持续的默念,直到让心宁静下来,不想再去默念,只想让 心自然的静止。或让默念词“三玛阿罗汉”,与体内的透明水晶球合二为一。
เมื่อคำภาวนารวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับดวงแก้วแล้วในตอนนั้น คำภาวนาหรือเสียงของคำภาวนานั้นจะเลือนหายไปเอง เหมือนเราลืมภาวนา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ลืมภาวนา แต่ว่ามันเลือนไปเพราะคำภาวนากลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับดวงธรรมใสๆ สิ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นคือ เห็นดวงใสขึ้นมาแทน ชัดเจนแจ่มใสโดยไม่มีคำภาวนา
当默念词与水晶球合二为一后,默念词和默念的声音就会自己的慢 慢减弱。就好像忘记了默念,但事实上不是忘记了默念,而是因为默念 词已经跟透明的法球合二为一,所以他就逐渐消失了。此时的状态是看 见清晰光亮的水晶球浮现上来代替默念词,于是就不在有默念词了。
ถ้าภาวนาถึงระดับนี้ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าภาวนาไปเรื่อยๆ แล้วยังมีความคิดอื่นผ่านเข้ามา เดี๋ยวเห็นดวง เดี๋ยวดวงหาย อะไรต่างๆ เหล่านี้ต้องภาวนาต่อไป
5.5 默念的方法
ให้เสียงดังออกมาจากในกลางท้อง ตรงศูนย์กลางกายที่กลางท้อง แล้วก็นึกถึงดวงใส ให้เห็นดวงใสชัดทีเดียว เสียงภาวนาดังออกมาจากตรงกลางดวงใสๆ ในท้อง จะเข้าถึงหนทางเบื้องต้นที่จะไปสู่อายตนนิพพาน เป็นดวงใสสว่างกลมรอบตัวทีเดียว ใสบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเพชร เมื่อใจหยุดนิ่งดีแล้ว มีความละเอียดอ่อน มีความบางเบาเหมือนไม่มีมวลของเนื้อแก้วเลยทีเดียว อย่างเล็ก ขนาดดวงดาวในอากาศ อย่างกลางขนาดพระจันทร์คืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ก็ขนาดพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน พอเราภาวนา ถูกส่วนนิ่ง พอถูกส่วนเข้าจะเห็นดวงธรรมอย่างนี้
1.在体内中心点默念
让声音从肚子的中心点发出,同时观想透明的水晶球,让默念声从 水晶球的中心点响亮的传出。此时便是踏上涅槃之道的初始阶段,那一刻的 水晶球光亮而圆滑,比钻石还要更加透明纯净。当心完全静止之后, 水晶球会变得精细柔软,非常的轻,就好像脱离了肉体的光球一般。小 光球的规格有如天空中的星星,中等光球的规格有如夜晚的圆月,大光 球的规格则有如午间的太阳。当我们默念恰到好处,就会见到如此的光球。
2. ภาวนาคล้ายเสียงที่ละเอียดอ่อน
พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์แนะนำให้ภาวนาในใจว่า สัมมา อะระหังๆ ๆ โดยให้เสียงของคำภาวนาดังออกมาจากจุดกึ่งกลางขององค์พระ ให้เสียงของคำภาวนาเป็นเสียงที่ละเอียดอ่อน คล้ายๆ กับเสียงเพลง ที่ดังก้องอยู่ในใจเรา ให้ภาวนาอย่างนี้เรื่อยๆ จนกว่าเราจะเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากจะภาวนาอยากจะวางใจเฉยๆ ให้หยุดนิ่งอยู่ภายในกลางดวงแก้วหรือองค์พระ ถ้าเกิดความรู้สึกอย่างนี้เราก็ไม่ต้องภาวนาต่อ ให้ตรึกถึงดวงใส ใจอยู่ที่กลางดวงใส ในกรณีที่นึกดวงแก้ว องค์พระไม่ออกก็ให้ภาวนา2)
2.以精细柔软的声音来默念
帕拉帕哇那威素(法胜法师)教导我们要在心中默念道:“三玛阿罗 汉,三玛阿罗汉。”让默念词的声音从体内佛像的中心点发出来。并让默 念词的声音精细柔软,类似于我们心中洪亮的音乐声。要如此不断地默 念下去,直到让我们感觉不想再默念了,而只想让心静止在体内的水晶 球或佛像中。如果真的产生如此的想法,我们就不需要再继续默念下去。 而去意念水晶球及水晶球的中心点。如果观想不出水晶球和佛像,那就 先继续的去默念。1
ข้อควรระวัง อย่าท่องคำภาวนาโดยใช้กำลังแต่ให้เป็นเสียงที่ละเอียดอ่อนที่ดังออกมา จากกลางดวงใสๆ คล้ายๆ เสียงสวดมนต์ในใจ ในบทที่เราคล่อง หรือเสียงเพลงที่เราชอบที่ดังในใจโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
值得注意的是,不要太用力的去诵念默念词,而应从水晶球的中心 点散发出精细柔软的声音,就好像在心中诵念熟悉的经文或喜欢的歌曲, 要自然的诵念出来。
3. ภาวนาเรื่อยไป
สัมมา อะระหัง ๆ ภาวนาเรื่อยไปด้วยความเคารพ ระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ให้นั่ง เอาใจหยุดนิ่ง ให้ใจใสบริสุทธิ์อย่างนี้เป็นวิธีการเตรียมการที่จะให้ใจบริสุทธิ์ผ่องใส เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะบังเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นให้ภาวนาไปเรื่อยๆ ภาวนาสัมมา อะระหัง ๆ ๆ สังเกตดูว่าดังออกมาจากในกลางท้องแล้วหรือยัง กลางเครื่องหมายที่ใส สะอาดบริสุทธิ์ ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว โตเท่ากับแก้วตาของเรา สัมมา อะระหัง ๆ ๆภาวนาอย่างสบายๆ ไปเรื่อยๆ จะกี่สิบกี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่แสน กี่ล้านครั้งก็ได้3)
3.持续的默念下去
以敬仰三宝的心持续的默念“三玛阿罗汉,三玛阿罗汉”,让心慢慢 的静止、纯净。目的是为了准备好光亮与纯净的心,来成为即将产生大 功德的容器。因此要持续的默念“三玛阿罗汉,三玛阿罗汉”,同时注意 观察是否有响亮的声音从肚子中央发出,而且透明、纯净的中心标志有 如被雕刻过的钻石一般,没有任何的斑点和划痕,跟我们的眼球一样大, 要一直舒畅的将“三玛阿罗汉”默念下去,就算是十次,一百次,一千 次,一万次的也没关系。2
4. การทำภาวนาเหมือนกับการขี่จักรยาน4)
เราสามารถเปรียบเทียบการทำภาวนาก็เหมือนกับการขี่จักรยาน ใหม่ๆ ก็ขี่แล้วล้ม ล้มแล้วก็จับมาขี่ใหม่ ขี่ใหม่ล้มอีก เข่าถลอกปอกเปิกมั่ง ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาจับจักรยานขี่ใหม่ ทำกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ ไม่ช้าก็จะขี่จักรยานได้ ใหม่ๆ ก็นึกได้บ้าง ฟุ้งบ้าง ง่วงบ้าง เมื่อยบ้าง มืดบ้าง ก็ไม่เป็นไร ก็ทำไปเรื่อยๆ
4.默念有如骑自行车3
默念好像是在骑自行车一般。刚开始的时候骑了就摔倒,摔倒之后 扶起来再重新骑,可是又再次摔倒,膝盖不断地被擦伤。如此反复做学 着,不久之后就学会骑自行车了。而默念也是一样,刚开始的时候,可 能只意念到一些,朦胧一些,懵懂一些,酸软一些,暗淡一些,但也不 要紧,要坚持慢慢地做下去。
5. สิ้นสุดการภาวนา
การทำภาวนาควรภาวนาไปจนกว่าใจจะสงบนิ่ง ไม่อยากภาวนาต่อ อยากจะทำใจให้นิ่งเฉยๆ หรือภาวนาไปจนกว่าคำภาวนา สัมมา อะระหัง จะกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับดวงแก้วใสๆ ภายในกลางกาย
5.结束默念
默念时,应该持续的默念,直到让心宁静下来,不想再去默念,只想让 心自然的静止。或让默念词“三玛阿罗汉”,与体内的透明水晶球合二为一。
เมื่อคำภาวนารวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับดวงแก้วแล้วในตอนนั้น คำภาวนาหรือเสียงของคำภาวนานั้นจะเลือนหายไปเอง เหมือนเราลืมภาวนา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ลืมภาวนา แต่ว่ามันเลือนไปเพราะคำภาวนากลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับดวงธรรมใสๆ สิ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นคือ เห็นดวงใสขึ้นมาแทน ชัดเจนแจ่มใสโดยไม่มีคำภาวนา
当默念词与水晶球合二为一后,默念词和默念的声音就会自己的慢 慢减弱。就好像忘记了默念,但事实上不是忘记了默念,而是因为默念 词已经跟透明的法球合二为一,所以他就逐渐消失了。此时的状态是看 见清晰光亮的水晶球浮现上来代替默念词,于是就不在有默念词了。
ถ้าภาวนาถึงระดับนี้ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าภาวนาไปเรื่อยๆ แล้วยังมีความคิดอื่นผ่านเข้ามา เดี๋ยวเห็นดวง เดี๋ยวดวงหาย อะไรต่างๆ เหล่านี้ต้องภาวนาต่อไป
如果默念到这一阶段就表明成功了。但如果一直的默念下去,却还 有别的想法跑出来,一会儿看见光球,一会儿又消失,如果出现这样的 状况时,就应该持续的默念下去。
5.6 อานิสงส์ของการภาวนา
การภาวนาเพื่อให้ใจเป็นสมาธินี้มีอานิสงส์มาก
มีตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโยมลุงของพระราชภาวนาวิสุทธิ์
ท่านได้เล่าให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ฟังว่า ท่านเคยป่วยอยู่ ป่วยปวดท้องมาก
ไม่ทราบว่าเป็นอะไร
เมื่อไปเอ็กซ์เรย์หมอก็พบว่ามีนิ่วอยู่ในถุงน้ำดีต้องผ่าตัด
ท่านก็เข้าโรงพยาบาล แล้วก็เตรียมตัวผ่าตัด
เนื่องจากท่านอายุมากก็ไปอยู่ก่อนล่วงหน้า 2-3 วัน
วันทั้งวันท่านไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย
ท่านไม่ได้คิดว่าให้มันหายหรือให้มันไม่หาย หรือกังวลว่ามันจะหายไหม
จะหายได้ด้วยวิธีใด ท่านไม่ได้คิด
เรื่องลูกเรื่องหลานก็ไม่คิดเพราะคิดไปก็ไม่ช่วยอะไร พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย
สู้ทำสมาธิดีกว่า ระหว่าง ที่นอนรอคอยเตรียมการผ่าตัด
5. 6默念的功德利益
默念是为了让心静止,而这是一件很有功德利益的事情。有一个关 于帕拉帕哇那威素(法胜法师)的叔叔之实例。
叔叔曾对帕拉帕哇那威素(法胜法师)讲述道:曾有一次,他生病 了,而且肚子非常的痛,但又不知道是什么原因。当去医院拍X光,医 生就说在胆囊里面有结石,要开刀拿出来,于是他决定住院准备接受手 术。由于他的岁数已经很大,所以要提前去医院住两三天。在那几天中, 他整天都没有去做什么事情,也不去想病是否能够痊愈或以什么方式来 让病痊愈,儿孙的事情他也不去想,因为想也帮不上忙,反而会连累他 们。他认为浪费时间去想开刀的事情,还不如专心的修习禅定。
ท่านก็ภาวนา สัมมา อะระหัง นึกถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และก็นึกถึงพระหลานชาย เพราะความที่คุ้นเคยกับพระหลานชายก็นึกง่าย หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านมาไม่ทันเห็น เห็นแต่ในรูป แต่ก็มีความเคารพในองค์ท่านอย่างมาก แล้วก็ภาวนา สัมมา อะระหัง อย่างนั้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่จะภาวนาเพราะว่ายังไงก็ต้องผ่าตัดอยู่แล้วก็ไม่คิดอะไร สัมมา อะระหัง ๆ ไปเรื่อยๆ อย่างสบายๆ ใจ กระทั่งวันรุ่งขึ้นจะต้องผ่าตัด
于是叔叔就一边默念“三玛阿罗汉”,一边意念北榄寺袓师和身为比 丘的侄子。因为出家的侄子跟自己很亲密,所以很容易就意念到了出家 的侄子。而对于北榄寺袓师,虽然叔叔没有见过他本人,只是在相片中 见过,但一直对袓师怀有深深的敬仰。之后就如此持续的默念着“三玛 阿罗汉”,什么都不想,只想着不停地默念下去。因为注定都要开刀,所 以就什么都不用去想,一直轻松舒服的默念“三玛阿罗汉”,神奇的是到 了开刀的那一天。
ตอนที่เข้าห้องน้ำ ท่านบอกว่าพอถ่ายออกมาได้ยินเสียงดังแก๊ง ไม่ทราบอะไร เอามือคว้าไม่ทัน แต่ว่าอาการที่ปวดท้องนั้นมันหายไป แต่ท่านก็ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไร มีความรู้สึก เอ๊ะ! เราหายปวดท้อง เมื่อขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงผ่าตัด ก่อนผ่าตัดท่านได้บอกกับคุณหมอว่า คุณหมอครับ ขอผมพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณหมอท่านก็เข้าใจว่าคงจะนึกว่าจะสั่งอะไรถึงลูกถึงหลาน ท่านพูดว่า คุณหมอ ครับผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณหมอบอกว่าได้ ผมมีความรู้สึกว่าผมหายแล้วนะ ว่าไอ้นิ่วในถุงน้ำดีมันหลุดตอนที่ผมเข้าห้องส้วม แต่ผมคว้าไม่ทันเลยไม่มีพยานมาให้หมอดู คุณหมอครับ ผมว่าหายแล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ช่วยเอาผมไปเอ็กซ์เรย์อีกครั้งเถอะก่อนผ่าตัด
叔叔从卫生间出来,说他在排泄的时候,隐约的听到扑通的一声响, 可是不知道是什么,想回过头去看看,却来不及了。更神奇的是,在这 之后,肚子疼痛的感觉就消失了。叔叔不知道到底是怎么一回事,只感 觉到自己的肚子不再疼痛了。当睡在手术台上准备动手术时,叔叔就对 开刀的医生说:“医生啊,我能说几句话吗?”医生就以为他想留几句话 给子孙,于是就答应了叔叔的请求。叔叔就说:“我感觉我已经痊愈了, 胆囊里面的那颗结石,在我上厕所的时候被排出来了,可惜我来不及去 拿来给医生看。医生啊,我认为我已经好了,要不这样吧,您能不能在 动手术前帮我再进行一次X光。
หมอก็เลยเอาไปเอ็กซ์เรย์แล้วก็ขำๆ ด้วย ขำคนป่วย คือขำโยมลุงของหลวงพ่อ เมื่อไปเอ็กซ์เรย์ดู ปรากฏว่า นิ่วมันไม่มี มันหายไป หมอก็ถามว่า ลุงใช้คาถาอะไรทำไมมันหายไป มันจะเป็นไปได้อย่างไร มันคนละทางกัน นิ่วมันอยู่ในถุงน้ำดี ไอ้ที่ขับถ่ายมันลำไส้นะ มันคนละทางกันนะ มันมามันไปยังไง ลุงใช้คาถา อะไรหรือลุง ทำยังไง ลุงก็ตอบว่า ผมก็ไม่ได้ทำอะไร ผมนอนอยู่เพื่อเตรียมการผ่าตัดอยู่ว่างๆ ผมก็นึกภาวนา สัมมา อะระหัง อย่างเดียวเท่านั้น ก็นึกถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ กับพระหลานชาย ก็เห็น เห็นเหมือนฝัน แต่ไม่ได้ฝัน ว่ามายืนบนหัวเตียงนอน แล้วหลวงพ่อวัดปากน้ำก็เอามือลูบศีรษะผม ท่านลูบศีรษะบอกว่าหาย ทำให้ผมมีกำลังใจ บอกว่าผ่าตัดนี้หมอคงเอาออกได้ ผมก็คิดแค่นั้นว่า สัมมา อะระหัง และมันก็เป็นอย่างนี้ ผมก็อธิบายไม่ได้เพราะมันคนละทางกัน คือจากถุงน้ำดีไปออกลำไส้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นไปได้อย่างไร แต่เอาเป็นว่าผมหายแล้ว ขอบพระคุณคุณหมอที่กรุณาที่จะเตรียมการต่างๆ
于是医生就让叔叔再次去拍一次X光,可是医生觉得很滑稽,一直 在取笑叔叔。可是当X光的结果出来后,果然胆囊里面没有了结石。于 是医生就问叔叔说:“你使用了什么巫术吗?为什么结石会无缘无故的消 失不见了,它到底是怎么样消失的呢?结石它本是好好地呆在胆囊里, 可是消化道这属于另外的排泄系统,他们相互之间没有联系啊!结石到 底是怎么来又是怎么去的呢,你到底使用了什么巫术?怎么做到的呀? ” 叔叔就回答道:“我什么也没有做啊,只是睡在病床上等待开刀的日子, 在那段时间里,我就只是不停的默念“三玛阿罗汉”,同时意念着北榄寺 袓师以及出家的侄子。于是就如做梦一般,可是却不是梦。看见北榄寺 袓师来站在病床的床头,然后用手来抚摸着我的头,说道:“痊愈!”使 得我充满了信心,并认为这一次的手术,医生一定能够帮我拿出来。我 就真的只想到了 “三玛阿罗汉”,而事情就变成了现在这个样子。我也解 释不清楚,因为他们相互间没有必然的联系。结石本是在胆囊里面,却 从肠道中排出。我也一样不明白,为什么这也能行得通?但现在我已经 痊愈了,这得感谢医生一直来对我的照顾与治疗。
แต่ผมขอร้องอย่างเดียวนะหมอ อย่าไปบอกใครได้ไหม ว่าผมทำด้วยวิธีการ สัมมา อะระหัง เพราะเค้าจะหาว่ามีอภินิหารอะไร มาพูดอย่างนี้ เดี๋ยวผมก็ไม่ค่อยสบายใจ เอาแต่เพียงว่าตอนนี้ผมหายก็แล้วกันด้วยวิธีการอย่างนี้
โยมลุงท่านนี้ เล่าให้ฟังด้วยน้ำตาที่มีความปีติ นึกทีไรก็ปีติ แล้วก็อัศจรรย์ใจ ในคำภาวนาสัมมา อะระหังกับบารมีหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และท่านมีความคิดว่า ถ้าเรามีความชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เหนือธรรมชาติ เหมือนกฎเกณฑ์ที่ใครๆ คาดไม่ถึงก็จะต้องเกิดขึ้น อย่างที่ได้เกิดขึ้นกับตัวท่านเองมาแล้ว
但是我有一个请求,医生你能不能不告诉他人,说我是用默念“三 玛阿罗汉”这方法来把病治好的。因为我害怕他们会胡乱的传说,这样 我的心也会感到不舒服,你知道我能痊愈就是因为这个方法就好。叔叔 边一边讲述,一边流下法喜的泪水,无论什么时候想起都是如此的法喜, 并对默念“三玛阿罗汉”和北榄寺袓师的威德力感到无比的惊奇。同时 他还说:“如果我们相信美好之事,那么谁也无法预料得到结果会是怎样, 就好像超越自然法规的现象,在我身上发生了一样。”
เราจะเห็นแล้วว่า คำว่าสัมมา อะระหังนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เป็นเรื่องสำคัญ และมีอานิสงส์มากจึงขอแนะนำนักปฏิบัติสมาธิให้ภาวนาตามที่คุณลุงท่านได้ใช้ ภาวนา
由此可见,默念“三玛阿罗汉”这个词不是一件简单的事情,而是 一件重要的事情。因为这具有非常大的功德利益,所以介绍给所有的修 行者,希望他们都能如这位叔叔一样进行默念。
5. 6默念的功德利益
默念是为了让心静止,而这是一件很有功德利益的事情。有一个关 于帕拉帕哇那威素(法胜法师)的叔叔之实例。
叔叔曾对帕拉帕哇那威素(法胜法师)讲述道:曾有一次,他生病 了,而且肚子非常的痛,但又不知道是什么原因。当去医院拍X光,医 生就说在胆囊里面有结石,要开刀拿出来,于是他决定住院准备接受手 术。由于他的岁数已经很大,所以要提前去医院住两三天。在那几天中, 他整天都没有去做什么事情,也不去想病是否能够痊愈或以什么方式来 让病痊愈,儿孙的事情他也不去想,因为想也帮不上忙,反而会连累他 们。他认为浪费时间去想开刀的事情,还不如专心的修习禅定。
ท่านก็ภาวนา สัมมา อะระหัง นึกถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และก็นึกถึงพระหลานชาย เพราะความที่คุ้นเคยกับพระหลานชายก็นึกง่าย หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านมาไม่ทันเห็น เห็นแต่ในรูป แต่ก็มีความเคารพในองค์ท่านอย่างมาก แล้วก็ภาวนา สัมมา อะระหัง อย่างนั้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่จะภาวนาเพราะว่ายังไงก็ต้องผ่าตัดอยู่แล้วก็ไม่คิดอะไร สัมมา อะระหัง ๆ ไปเรื่อยๆ อย่างสบายๆ ใจ กระทั่งวันรุ่งขึ้นจะต้องผ่าตัด
于是叔叔就一边默念“三玛阿罗汉”,一边意念北榄寺袓师和身为比 丘的侄子。因为出家的侄子跟自己很亲密,所以很容易就意念到了出家 的侄子。而对于北榄寺袓师,虽然叔叔没有见过他本人,只是在相片中 见过,但一直对袓师怀有深深的敬仰。之后就如此持续的默念着“三玛 阿罗汉”,什么都不想,只想着不停地默念下去。因为注定都要开刀,所 以就什么都不用去想,一直轻松舒服的默念“三玛阿罗汉”,神奇的是到 了开刀的那一天。
ตอนที่เข้าห้องน้ำ ท่านบอกว่าพอถ่ายออกมาได้ยินเสียงดังแก๊ง ไม่ทราบอะไร เอามือคว้าไม่ทัน แต่ว่าอาการที่ปวดท้องนั้นมันหายไป แต่ท่านก็ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไร มีความรู้สึก เอ๊ะ! เราหายปวดท้อง เมื่อขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงผ่าตัด ก่อนผ่าตัดท่านได้บอกกับคุณหมอว่า คุณหมอครับ ขอผมพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณหมอท่านก็เข้าใจว่าคงจะนึกว่าจะสั่งอะไรถึงลูกถึงหลาน ท่านพูดว่า คุณหมอ ครับผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณหมอบอกว่าได้ ผมมีความรู้สึกว่าผมหายแล้วนะ ว่าไอ้นิ่วในถุงน้ำดีมันหลุดตอนที่ผมเข้าห้องส้วม แต่ผมคว้าไม่ทันเลยไม่มีพยานมาให้หมอดู คุณหมอครับ ผมว่าหายแล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ช่วยเอาผมไปเอ็กซ์เรย์อีกครั้งเถอะก่อนผ่าตัด
叔叔从卫生间出来,说他在排泄的时候,隐约的听到扑通的一声响, 可是不知道是什么,想回过头去看看,却来不及了。更神奇的是,在这 之后,肚子疼痛的感觉就消失了。叔叔不知道到底是怎么一回事,只感 觉到自己的肚子不再疼痛了。当睡在手术台上准备动手术时,叔叔就对 开刀的医生说:“医生啊,我能说几句话吗?”医生就以为他想留几句话 给子孙,于是就答应了叔叔的请求。叔叔就说:“我感觉我已经痊愈了, 胆囊里面的那颗结石,在我上厕所的时候被排出来了,可惜我来不及去 拿来给医生看。医生啊,我认为我已经好了,要不这样吧,您能不能在 动手术前帮我再进行一次X光。
หมอก็เลยเอาไปเอ็กซ์เรย์แล้วก็ขำๆ ด้วย ขำคนป่วย คือขำโยมลุงของหลวงพ่อ เมื่อไปเอ็กซ์เรย์ดู ปรากฏว่า นิ่วมันไม่มี มันหายไป หมอก็ถามว่า ลุงใช้คาถาอะไรทำไมมันหายไป มันจะเป็นไปได้อย่างไร มันคนละทางกัน นิ่วมันอยู่ในถุงน้ำดี ไอ้ที่ขับถ่ายมันลำไส้นะ มันคนละทางกันนะ มันมามันไปยังไง ลุงใช้คาถา อะไรหรือลุง ทำยังไง ลุงก็ตอบว่า ผมก็ไม่ได้ทำอะไร ผมนอนอยู่เพื่อเตรียมการผ่าตัดอยู่ว่างๆ ผมก็นึกภาวนา สัมมา อะระหัง อย่างเดียวเท่านั้น ก็นึกถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ กับพระหลานชาย ก็เห็น เห็นเหมือนฝัน แต่ไม่ได้ฝัน ว่ามายืนบนหัวเตียงนอน แล้วหลวงพ่อวัดปากน้ำก็เอามือลูบศีรษะผม ท่านลูบศีรษะบอกว่าหาย ทำให้ผมมีกำลังใจ บอกว่าผ่าตัดนี้หมอคงเอาออกได้ ผมก็คิดแค่นั้นว่า สัมมา อะระหัง และมันก็เป็นอย่างนี้ ผมก็อธิบายไม่ได้เพราะมันคนละทางกัน คือจากถุงน้ำดีไปออกลำไส้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นไปได้อย่างไร แต่เอาเป็นว่าผมหายแล้ว ขอบพระคุณคุณหมอที่กรุณาที่จะเตรียมการต่างๆ
于是医生就让叔叔再次去拍一次X光,可是医生觉得很滑稽,一直 在取笑叔叔。可是当X光的结果出来后,果然胆囊里面没有了结石。于 是医生就问叔叔说:“你使用了什么巫术吗?为什么结石会无缘无故的消 失不见了,它到底是怎么样消失的呢?结石它本是好好地呆在胆囊里, 可是消化道这属于另外的排泄系统,他们相互之间没有联系啊!结石到 底是怎么来又是怎么去的呢,你到底使用了什么巫术?怎么做到的呀? ” 叔叔就回答道:“我什么也没有做啊,只是睡在病床上等待开刀的日子, 在那段时间里,我就只是不停的默念“三玛阿罗汉”,同时意念着北榄寺 袓师以及出家的侄子。于是就如做梦一般,可是却不是梦。看见北榄寺 袓师来站在病床的床头,然后用手来抚摸着我的头,说道:“痊愈!”使 得我充满了信心,并认为这一次的手术,医生一定能够帮我拿出来。我 就真的只想到了 “三玛阿罗汉”,而事情就变成了现在这个样子。我也解 释不清楚,因为他们相互间没有必然的联系。结石本是在胆囊里面,却 从肠道中排出。我也一样不明白,为什么这也能行得通?但现在我已经 痊愈了,这得感谢医生一直来对我的照顾与治疗。
แต่ผมขอร้องอย่างเดียวนะหมอ อย่าไปบอกใครได้ไหม ว่าผมทำด้วยวิธีการ สัมมา อะระหัง เพราะเค้าจะหาว่ามีอภินิหารอะไร มาพูดอย่างนี้ เดี๋ยวผมก็ไม่ค่อยสบายใจ เอาแต่เพียงว่าตอนนี้ผมหายก็แล้วกันด้วยวิธีการอย่างนี้
โยมลุงท่านนี้ เล่าให้ฟังด้วยน้ำตาที่มีความปีติ นึกทีไรก็ปีติ แล้วก็อัศจรรย์ใจ ในคำภาวนาสัมมา อะระหังกับบารมีหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และท่านมีความคิดว่า ถ้าเรามีความชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เหนือธรรมชาติ เหมือนกฎเกณฑ์ที่ใครๆ คาดไม่ถึงก็จะต้องเกิดขึ้น อย่างที่ได้เกิดขึ้นกับตัวท่านเองมาแล้ว
但是我有一个请求,医生你能不能不告诉他人,说我是用默念“三 玛阿罗汉”这方法来把病治好的。因为我害怕他们会胡乱的传说,这样 我的心也会感到不舒服,你知道我能痊愈就是因为这个方法就好。叔叔 边一边讲述,一边流下法喜的泪水,无论什么时候想起都是如此的法喜, 并对默念“三玛阿罗汉”和北榄寺袓师的威德力感到无比的惊奇。同时 他还说:“如果我们相信美好之事,那么谁也无法预料得到结果会是怎样, 就好像超越自然法规的现象,在我身上发生了一样。”
เราจะเห็นแล้วว่า คำว่าสัมมา อะระหังนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เป็นเรื่องสำคัญ และมีอานิสงส์มากจึงขอแนะนำนักปฏิบัติสมาธิให้ภาวนาตามที่คุณลุงท่านได้ใช้ ภาวนา
由此可见,默念“三玛阿罗汉”这个词不是一件简单的事情,而是 一件重要的事情。因为这具有非常大的功德利益,所以介绍给所有的修 行者,希望他们都能如这位叔叔一样进行默念。
2法胜法师领导打坐(1997年9月7日)
3法胜法师领导打坐(1995年12月3日)
บทที่ 4 นิมิตและการนึกนิมิต 第四章所缘与观想所缘
บทที่ 4 นิมิตและการนึกนิมิต
第四章所缘与观想所缘
ในขณะฝึกปฏิบัติสมาธิ หลายท่านมักจะพบกับสภาวะที่ใจซัดส่ายไปมา บางครั้งก็มีความคิด ที่ปรากฏเป็นภาพของคน สัตว์ สิ่งของ ที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง พบเห็นหรือเคยเจอมา บางครั้งก็อาจปรากฏ เป็นเสียงของคน สัตว์ สิ่งของ เป็นต้น สำหรับผู้ฝึกปฏิบัติใหม่จึงรู้สึกว่าเป็นการยากในการที่จะทำให้ ใจของเราสงบหยุดนิ่ง ดังนั้นในการฝึกปฏิบัติสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายพระเดชพระคุณพระ มงคล-เทพมุนีได้แนะนำให้ใช้การนึกนิมิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ใจของเราสงบ และเกิดเป็นสมาธิได้ง่าย ดังนั้นเราจึงควรจะได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับนิมิต และการนึกนิมิตเพื่อให้สามารถนำไปฝึกปฏิบัติในขณะทำสมาธิได้在修行禅定时,有些人常常会碰到心摇摆不定的情况。有的时候这 些人的想法中,会出现人、动物或物品的画面,而这些画面则是与自己 有联系、遭遇或曾经遇见过的。有时候则可能出现人、动物或物品的声 音等等。对于那些刚开始修行的人来说,让他们感觉最为困难的一个环 节是让心宁静和止歇。而在修行禅定中,帕蒙昆贴牟尼袓师也曾教导过 对观想所缘的使用,那是一个能够帮助我们的心容易宁静和容易入定的 方式。因此,为了能够在修行禅定中得以运用,我们应该来学习和了解 关于所缘与观想所缘的知识。
4.1 ความหมายของนิมิต
นิมิต คือเครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนด
ประโยชน์ของนิมิตมีไว้เพื่อเป็นที่ยึดที่เกาะของใจเช่นเดียวกับคำภาวนา
ทำให้ใจไม่ซัดส่ายไปที่อื่น จะได้หยุดนิ่งอยู่ภายใน
นิมิตจึงเปรียบประดุจเป็นยานพาหนะที่จะดึงใจของเราให้หลุดพ้นจากความวุ่นวาย
ในชีวิตประจำวัน แล้วนำไปสู่เป้าหมายคือ
เข้าถึงปฐมมรรคภายในซึ่งเป็นดวงธรรมเบื้องต้น
4. 1所缘的含义
所缘,是作为限定心的标记。所缘的作用是为了将心吸引住,如同 佛圣号一样。使心不会想到别处,而是静止在体内。所缘犹如一辆车, 载着我们的心逃离混乱的日常生活,而证得初道法球。
4. 1所缘的含义
所缘,是作为限定心的标记。所缘的作用是为了将心吸引住,如同 佛圣号一样。使心不会想到别处,而是静止在体内。所缘犹如一辆车, 载着我们的心逃离混乱的日常生活,而证得初道法球。
4.2 ประเภทของนิมิต
4.2 所缘的种类
นิมิตแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
1.บริกรรมนิมิต คือ นิมิตขั้นเตรียมหรือเริ่มต้น ได้แก่ สิ่งใดก็ตามที่กำหนดเป็นอารมณ์์ ในการเจริญสมาธิ เช่น ดวงกสิณที่เพ่งดู ลมหายใจที่กำหนด หรือพุทธคุณที่กำหนดนึกเป็นอารมณ์ว่า อยู่ในใจ เป็นต้น
2.อุคคหนิมิต คือ นิมิตที่ใจเรียนหรือนิมิตติดตา ได้แก่ บริกรรมนิมิตที่เพ่งหรือกำหนด จนเห็น แม่นยำกลายเป็นภาพติดตาติดใจ เช่น ดวงกสิณที่เพ่งจนติดตาหลับตามองเห็น เป็นต้น ภาพที่เห็นอย่างไร นิมิตจะมีสภาพอย่างนั้น
3.ปฏิภาคนิมิต คือ นิมิตเสมือนนิมิตคู่เปรียบ หรือนิมิตเทียบเคียง ได้แก่ นิมิตที่เป็นภาพเหมือน ของอุคคหนิมิต แต่ติดลึกเข้าไปอีก จนเป็นภาพที่สามารถนึกขยายหรือย่อส่วนได้ตามปรารถนา นิมิตจะมีลักษณะที่เปลี่ยนจากของมีสีกลายเป็นของที่มีลักษณะใส
所缘分为三个种类,即是:
1.似相,也就是什么事物都要按照精进修行中的心情来决定。例如,用 光球(可借助来推进禅定的圆圈)仔细的观察呼吸的频率,或者规定 在心中要意念到的佛德等。
2.取相,也就是注视或规定的似相,直至清晰及准确看见画面的转变而 深深印在脑海中。例如,凝视的光球无论是在睁眼和闭眼时都可以看 见,等等。看到怎样的图像,所缘就会有怎样的状态。
3.观相,也就是跟取相的图像一样的所缘,但更深层次,即是能够如愿 的转移或缩小比例的图像。所缘的特征由多种颜色转变为清澈透明的 性质。
คำอธิบายนิมิตในแง่ของการปฏิบัติ
1.บริกรรมนิมิต1) คือสิ่งที่เราสร้างขึ้น วาดมโนภาพขึ้นมา อย่างเช่นนึกถึงดวงแก้ว เราก็วาดมโนภาพ เป็นดวงกลมๆ ใสบริสุทธิ์ นี่ถ้านึกถึงพระแก้วในขั้นของบริกรรมนิมิต ก็เห็นลัวๆ ลางๆ เป็นเค้าเป็นโครง รูปร่างของท่านไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ถ้าหากเราประคองไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ ภาวนาสัมมาอะระหังไปด้วย นึกถึงบริกรรมนิมิตไปด้วย ไม่ช้าบริกรรมนิมิตนั้นจะชัดเจนขึ้น ชัดในขั้นของอุคคหนิมิต
从修行的方面对所缘解释
1.似相,1是我们设想和想象而来的事物。例如,意念光球时,我们就将 它想象为清澈透明的圆形光球。如果在似相的阶段意念水晶佛,那么 就只会迷迷糊糊的看见其轮廓而已。但如果我们保持舒适的心,同时 诵念“三玛阿罗汉”,意念着似相且一直保持下去,不久就会越来越清 晰,直至到达取相的阶段。
2.อุคคหนิมิต คือนิมิตที่เราจำลองจากข้างนอกเข้าไปสู่ข้างในลักษณะดวงแก้วข้างนอกเป็น อย่างไร ลักษณะดวงแก้วภายใน ในขั้นของอุคคหนิมิตก็จะเป็นอย่างนั้น คือชัดเจนได้ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนลืมตาเห็น ในขั้นที่ชัดเจนเหมือนลืมตาเห็น เรียกว่า อุคคหนิมิต
2.取相,是我们从外部复制到内部的所缘,外部光球的特征如何,那么 取相阶段中的光球特征也如此。即能够用眼睛清晰可见,这种用眼睛 清晰可见的阶段称之为:取相。
3.ปฏิภาคนิมิต พอถึงขั้นนี้ นิมิตจะขยายใหญ่ขึ้น แล้วนึกให้เล็กลง ก็เล็กได้ นึกขยายก็ขยายได้ เกิดขึ้นเมื่อใจหยุดนิ่งแน่น ร่างกายเหมือนถูกตรึงติดไว้กับพื้น ไม่ขยับเขยื้อน ใจไม่ซัดส่ายไปคิดเรื่องราวต่างๆ ตรึกติดกับภาพนิมิตนั้น จะเป็นดวงแก้วก็ตามหรือองค์พระก็ตามตรึงติดแน่นเลย สมาธิระดับนี้ ถ้านึกนิมิตเป็นดวงแก้วก็จะใส สว่าง มีแสงออก มีรัศมีออกมา สว่างเจิดจ้า นุ่มนวลฟ่องเบาเหมือนฟองสบู่อย่างนั้น ถ้าเป็นองค์พระก็จะสุกใส ใสยิ่งกว่าเพชร สว่างจนกระทั่งเท่าดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวันหรือยิ่งกว่านั้น
3.观相,到了这一个阶段时,所缘会渐渐扩大起来。然后意念让其变小 或扩大都可以。这些都是在心静定、身体仿佛紧贴于地面,不会动摇,
心无旁骛时才产生的。一心系着所缘的画面,不管是光球或佛像都可 以,都要稳定的护持。这一个阶段的禅定,意念到的所缘将是透明、 光亮的光球,散发的光芒很亮,且柔和得如同肥皂泡沬。如果是佛像, 就会非常的透明如钻石一般,散发的光亮就像是中午的阳光一样或更亮。
ในขั้นของบริกรรมนิมิตนั้นยังฝืนอยู่2) พอถึงขั้นอุคคหนิมิตจะไม่ฝืน จะเริ่มชอบ พอขั้นปฏิภาคนิมิต จะมีความสนุก มีความเพลิน ใจก็เป็นหนึ่งที่เรียกว่า เอกัคคตา ไม่ซัดส่ายไปที่อื่น ไม่มีความคิดอื่นผ่านเข้ามาในใจ จะมีแต่นิมิตที่สุกใสสว่าง มีชีวิตขึ้นมาทันที
在似相的阶段还可能勉强存在2,可是到了取相的阶段时就不会强行的存在了,而会开始喜欢。到了观相的阶段,将会感觉很有趣,此时的心称之为一心一意,不会转移到别的地方,也不会有别的想法进入心中。
只有晶莹剔透的所缘随即产生。
1.บริกรรมนิมิต คือ นิมิตขั้นเตรียมหรือเริ่มต้น ได้แก่ สิ่งใดก็ตามที่กำหนดเป็นอารมณ์์ ในการเจริญสมาธิ เช่น ดวงกสิณที่เพ่งดู ลมหายใจที่กำหนด หรือพุทธคุณที่กำหนดนึกเป็นอารมณ์ว่า อยู่ในใจ เป็นต้น
2.อุคคหนิมิต คือ นิมิตที่ใจเรียนหรือนิมิตติดตา ได้แก่ บริกรรมนิมิตที่เพ่งหรือกำหนด จนเห็น แม่นยำกลายเป็นภาพติดตาติดใจ เช่น ดวงกสิณที่เพ่งจนติดตาหลับตามองเห็น เป็นต้น ภาพที่เห็นอย่างไร นิมิตจะมีสภาพอย่างนั้น
3.ปฏิภาคนิมิต คือ นิมิตเสมือนนิมิตคู่เปรียบ หรือนิมิตเทียบเคียง ได้แก่ นิมิตที่เป็นภาพเหมือน ของอุคคหนิมิต แต่ติดลึกเข้าไปอีก จนเป็นภาพที่สามารถนึกขยายหรือย่อส่วนได้ตามปรารถนา นิมิตจะมีลักษณะที่เปลี่ยนจากของมีสีกลายเป็นของที่มีลักษณะใส
所缘分为三个种类,即是:
1.似相,也就是什么事物都要按照精进修行中的心情来决定。例如,用 光球(可借助来推进禅定的圆圈)仔细的观察呼吸的频率,或者规定 在心中要意念到的佛德等。
2.取相,也就是注视或规定的似相,直至清晰及准确看见画面的转变而 深深印在脑海中。例如,凝视的光球无论是在睁眼和闭眼时都可以看 见,等等。看到怎样的图像,所缘就会有怎样的状态。
3.观相,也就是跟取相的图像一样的所缘,但更深层次,即是能够如愿 的转移或缩小比例的图像。所缘的特征由多种颜色转变为清澈透明的 性质。
คำอธิบายนิมิตในแง่ของการปฏิบัติ
1.บริกรรมนิมิต1) คือสิ่งที่เราสร้างขึ้น วาดมโนภาพขึ้นมา อย่างเช่นนึกถึงดวงแก้ว เราก็วาดมโนภาพ เป็นดวงกลมๆ ใสบริสุทธิ์ นี่ถ้านึกถึงพระแก้วในขั้นของบริกรรมนิมิต ก็เห็นลัวๆ ลางๆ เป็นเค้าเป็นโครง รูปร่างของท่านไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ถ้าหากเราประคองไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ ภาวนาสัมมาอะระหังไปด้วย นึกถึงบริกรรมนิมิตไปด้วย ไม่ช้าบริกรรมนิมิตนั้นจะชัดเจนขึ้น ชัดในขั้นของอุคคหนิมิต
从修行的方面对所缘解释
1.似相,1是我们设想和想象而来的事物。例如,意念光球时,我们就将 它想象为清澈透明的圆形光球。如果在似相的阶段意念水晶佛,那么 就只会迷迷糊糊的看见其轮廓而已。但如果我们保持舒适的心,同时 诵念“三玛阿罗汉”,意念着似相且一直保持下去,不久就会越来越清 晰,直至到达取相的阶段。
2.อุคคหนิมิต คือนิมิตที่เราจำลองจากข้างนอกเข้าไปสู่ข้างในลักษณะดวงแก้วข้างนอกเป็น อย่างไร ลักษณะดวงแก้วภายใน ในขั้นของอุคคหนิมิตก็จะเป็นอย่างนั้น คือชัดเจนได้ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนลืมตาเห็น ในขั้นที่ชัดเจนเหมือนลืมตาเห็น เรียกว่า อุคคหนิมิต
2.取相,是我们从外部复制到内部的所缘,外部光球的特征如何,那么 取相阶段中的光球特征也如此。即能够用眼睛清晰可见,这种用眼睛 清晰可见的阶段称之为:取相。
3.ปฏิภาคนิมิต พอถึงขั้นนี้ นิมิตจะขยายใหญ่ขึ้น แล้วนึกให้เล็กลง ก็เล็กได้ นึกขยายก็ขยายได้ เกิดขึ้นเมื่อใจหยุดนิ่งแน่น ร่างกายเหมือนถูกตรึงติดไว้กับพื้น ไม่ขยับเขยื้อน ใจไม่ซัดส่ายไปคิดเรื่องราวต่างๆ ตรึกติดกับภาพนิมิตนั้น จะเป็นดวงแก้วก็ตามหรือองค์พระก็ตามตรึงติดแน่นเลย สมาธิระดับนี้ ถ้านึกนิมิตเป็นดวงแก้วก็จะใส สว่าง มีแสงออก มีรัศมีออกมา สว่างเจิดจ้า นุ่มนวลฟ่องเบาเหมือนฟองสบู่อย่างนั้น ถ้าเป็นองค์พระก็จะสุกใส ใสยิ่งกว่าเพชร สว่างจนกระทั่งเท่าดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวันหรือยิ่งกว่านั้น
3.观相,到了这一个阶段时,所缘会渐渐扩大起来。然后意念让其变小 或扩大都可以。这些都是在心静定、身体仿佛紧贴于地面,不会动摇,
心无旁骛时才产生的。一心系着所缘的画面,不管是光球或佛像都可 以,都要稳定的护持。这一个阶段的禅定,意念到的所缘将是透明、 光亮的光球,散发的光芒很亮,且柔和得如同肥皂泡沬。如果是佛像, 就会非常的透明如钻石一般,散发的光亮就像是中午的阳光一样或更亮。
ในขั้นของบริกรรมนิมิตนั้นยังฝืนอยู่2) พอถึงขั้นอุคคหนิมิตจะไม่ฝืน จะเริ่มชอบ พอขั้นปฏิภาคนิมิต จะมีความสนุก มีความเพลิน ใจก็เป็นหนึ่งที่เรียกว่า เอกัคคตา ไม่ซัดส่ายไปที่อื่น ไม่มีความคิดอื่นผ่านเข้ามาในใจ จะมีแต่นิมิตที่สุกใสสว่าง มีชีวิตขึ้นมาทันที
在似相的阶段还可能勉强存在2,可是到了取相的阶段时就不会强行的存在了,而会开始喜欢。到了观相的阶段,将会感觉很有趣,此时的心称之为一心一意,不会转移到别的地方,也不会有别的想法进入心中。
只有晶莹剔透的所缘随即产生。
4.3 นิมิตที่ไม่ควรนึกถึง
4.3 不应观想的所缘
นิมิตที่ไม่ควรนึกถึงคือสิ่งที่เรานึกถึงแล้วทำให้ใจของเราไม่สงบ
และทำให้ใจเลื่อนลอยออกจากศูนย์กลางกายฐานที่ 7
ถือเป็นนิมิตเลื่อนลอยไม่ใช่ของจริง เราสามารถแบ่งนิมิตเหล่านั้นออกง่ายๆ
ได้ 3 ประเภทคือ
不该观想的所缘,就是当我们观想此事物后,会让心不能宁静,以 及让心脱离身体中央第七点。这被认为是漂浮的所缘,不是真实的。我 们可以将那种所缘分为三类,即是:
1.ภาพที่เกี่ยวกับกาม นึกแล้วทำให้ใจเกิดความกำหนัดยินดี อย่างเช่นการที่บางคนนึกถึงแฟนสาว หรือภาพอนาจารต่างๆ
2.ภาพที่เกี่ยวกับพยาบาท นึกแล้วทำให้ใจเกิดโทสะ ความโกรธหรือทำให้เกิดความแค้นเคือง อย่างเช่น ภาพคนที่เป็นคู่เวรคู่อาฆาตกัน ภาพสิ่งของที่เราไม่ชอบ
3.ภาพเกี่ยวกับการเบียดเบียน ที่นึกขึ้นแล้วทำให้เราเกิดอารมณ์ในทางเบียดเบียนให้ผู้อื่นและตนเองเดือด ร้อน เช่น นึกถึงภาพสงคราม การฆ่าฟันกัน การตีรันฟันแทง เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรนึกถึงเพราะทำให้ใจของผู้ปฏิบัติฟุ้งซ่านไม่เป็นทางมาแห่งความสงบใจได้ จึงไม่ควรนึกถึง
1.与情欲有关的图像,意念了之后心会产生快乐的欲望。例如,有些人 会意念到女朋友或者各种色情物品。
2.与仇恨有关的图像,意念了之后心就会产生激怒、恼火或愤恨。例如, 人与人之间相互仇杀的画面,或者我们所不喜欢的画面。
3.与侵扰有关的图像,意念了之后会让我们产生糟糕的情绪,让他人和 自己痛苦。例如,战争、相互残杀和武斗的画面。
以上的这些都是不应去意念的,因为这些都会让修行者心神不定, 而且也不是通往和平之路。
不该观想的所缘,就是当我们观想此事物后,会让心不能宁静,以 及让心脱离身体中央第七点。这被认为是漂浮的所缘,不是真实的。我 们可以将那种所缘分为三类,即是:
1.ภาพที่เกี่ยวกับกาม นึกแล้วทำให้ใจเกิดความกำหนัดยินดี อย่างเช่นการที่บางคนนึกถึงแฟนสาว หรือภาพอนาจารต่างๆ
2.ภาพที่เกี่ยวกับพยาบาท นึกแล้วทำให้ใจเกิดโทสะ ความโกรธหรือทำให้เกิดความแค้นเคือง อย่างเช่น ภาพคนที่เป็นคู่เวรคู่อาฆาตกัน ภาพสิ่งของที่เราไม่ชอบ
3.ภาพเกี่ยวกับการเบียดเบียน ที่นึกขึ้นแล้วทำให้เราเกิดอารมณ์ในทางเบียดเบียนให้ผู้อื่นและตนเองเดือด ร้อน เช่น นึกถึงภาพสงคราม การฆ่าฟันกัน การตีรันฟันแทง เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรนึกถึงเพราะทำให้ใจของผู้ปฏิบัติฟุ้งซ่านไม่เป็นทางมาแห่งความสงบใจได้ จึงไม่ควรนึกถึง
1.与情欲有关的图像,意念了之后心会产生快乐的欲望。例如,有些人 会意念到女朋友或者各种色情物品。
2.与仇恨有关的图像,意念了之后心就会产生激怒、恼火或愤恨。例如, 人与人之间相互仇杀的画面,或者我们所不喜欢的画面。
3.与侵扰有关的图像,意念了之后会让我们产生糟糕的情绪,让他人和 自己痛苦。例如,战争、相互残杀和武斗的画面。
以上的这些都是不应去意念的,因为这些都会让修行者心神不定, 而且也不是通往和平之路。
4.4 นิมิตที่แนะนำให้ใช้
4.4推荐使用的所缘
ในแง่ของการปฏิบัติ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ท่านแนะนำว่า
ให้เรานึกถึงอะไรก็ได้ ที่ทำให้ใจของเราสงบขึ้น โดยท่านแนะนำให้นึกนิมิต
เช่น ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ หรือหยดน้ำใส บนปลายยอดหญ้า หยดน้ำใสบนใบบัว
ฟองสบู่ หรือนิมิตที่ผู้ปฏิบัติชอบ ซึ่งสามารถนำใจให้หยุดนิ่งได้ เช่น
แตงโม ส้ม บาตรพระ ทุเรียน ซาลาเปา เป็นต้น
在修行方面,帕拉帕哇那威素(法胜法师)引导说,只要能够让我 们的心宁静,意念什么都可以。所以他介绍让我们意念的所缘有:月亮、 太阳或草尖上的一滴露水,荷花叶上的水珠,肥皂泡,或者是修行者自 己喜欢的且能够让心静止、宁静的即可。例如,西瓜、橙子、僧钵、榴 莲、面包,等等。
สำหรับนิมิตที่นิยมให้นึกกัน ซึ่งสืบมาตั้งแต่ครั้งสมัยพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) ท่านแนะให้ใช้นิมิตที่เป็นนิมิตแสงสว่าง เรียกว่า อาโลกกสิณ ซึ่งนิมิตที่นำมาใช้เป็นหลักในการทำสมาธิมี 2 อย่าง คือ ดวงแก้วใส และองค์พระใส
而大家都喜爱意念的所缘,就是在很久之前,帕蒙昆贴牟尼袓师所 引导使用的所缘,即有光亮的所缘,称之为借助光亮的禅定法。因此, 可以在禅定中用来意念的所缘有两种,分别为:透明的水晶球以及透明 的佛像。
สาเหตุที่แนะนำให้ใช้นิมิตเช่นนี้ มีผู้อธิบายไว้ว่า3)
1.การวางดวงแก้วไว้ที่ศูนย์กลางกายตลอดวัน ทำให้ใจของเราอยู่ที่ศูนย์กลางกายได้ง่ายขึ้น
2.จะทำให้ใจเป็นบวกหรืออย่างน้อยที่สุดเป็นกลางๆ คือ ช่วยให้จิตเป็นกุศล
3.ดวงแก้วเป็นของที่ใส สะอาด และบริสุทธิ์ คล้ายคลึงกับสภาวะใจที่รวมเป็นหนึ่ง คือ สภาวะของดวงธรรมภายใน ดวงแก้วจะนำใจของเราให้สะอาดและบริสุทธิ์ และจะนำไปสู่การประสบ ความสำเร็จในการปฏิบัติธรรม อีกทั้งจะเป็นการลัดขั้นตอน ช่วยย่นระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงของภาพที่เห็น (บริกรรมนิมิต) เนื่องจากนิมิตทุกชนิด เมื่อได้ทำภาวนาไประยะหนึ่ง จิตเกิดความสงบนิ่งดีแล้ว นิมิตทุกชนิด จะเปลี่ยนเป็นของใส เปลี่ยนเป็นแก้ว เพื่อย่นระยะเวลาการเปลี่ยนของภาพ ไม่ต้องรอให้มาถึงจุดนี้ การนึกถึงสิ่งที่มีความใกล้เคียงกัน จะช่วยลดระยะเวลาการปฏิบัติลงได้
4.สำหรับองค์พระแก้วใสก็คล้ายคลึงกับสภาวธรรมภายใน เมื่อใจละเอียดไปตามลำดับ จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย องค์พระแก้วใสจึงเป็นตัวแทนนิมิตที่ทำให้ใจสามารถเข้าไปสู่จุดที่ใจหยุดนิ่ง จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย
为什么介绍使用这种所缘,有人解释道S
1.整天都把水晶球放置在身体的中心点,将会让我们的心更容易的处在 身体的中心点。
2.让心处于向上或至少是中间的位置,即是让心处于善意中。
3.水晶球是透明与纯净的物体,跟心的形态非常相似,即是体内法球的 形态。法球会净化我们的心,让其清洁和纯净,同时也会带领我们的 心在修行中取得成就。而且也是禅定的快捷程序,可以帮助缩短看到 的图像(似相)的时间。每一个类型的所缘,当修行到一定的时间, 心灵宁静好之后,就会转变透明的物体,转变为水晶。为了缩短图像 的转变时间,不需要等很久便可到达这一程度,就应意念相似的物体, 这样将会有助于缩短修行的时间。
4.对于透明的佛像则跟内在的修行境界相似,当精细的心按阶段层层的 细腻下去,那么就会证入内在的法身。而透明的水晶佛像则将代替所 缘,来让心到达宁静的点,并在最后证入法身法门。
ในกรณีที่ยังนึกองค์พระให้ใสไม่ได้ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ท่านแนะนำให้นึกองค์พระที่เป็นวัสดุอื่นก็ได้ เช่น โลหะ อิฐ หิน และแนะนำวิธีการนึกองค์พระว่าให้นึกเหมือนเรามองจากด้านบน ลงไปด้านล่าง จากเศียรของท่านลงไปที่หน้าตา แขน ตัก และขา จากการศึกษาคำสอนของครูบาอาจารย์
如果还无法意念到佛像,那么帕拉帕哇那威素(法胜法师)则推荐大家,意念的佛像可为其他性质的材料。例如,金属、砖、石头。同时法胜法师还教导意念佛像时,应仿佛由上到下的观望,从佛像的头顶往下,到脸部再到手臂和膝盖,最后到脚。
เราสามารถจะสรุปออกมาได้อย่างนี้ว่า การนึกนิมิต สามารถแบ่งการนึกได้ตามลักษณะดังต่อไปนี้ คือ
1.สัณฐานหรือรูปร่างของนิมิต จะเป็นรูปร่างอย่างไรก็ได้ขอเพียงเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ใจ ของเราสบายและสงบ แต่ที่ท่านแนะนำก็คือ เป็นองค์พระ หรือดวงแก้ว
2.สีสันของนิมิตจะเป็นสีอะไรก็ได้ เช่น สีแดง สีเหลือง สีเขียว แต่ที่แนะนำให้ใช้ก็คือ สีใส
3.ขนาดของนิมิตจะเล็กหรือใหญ่ก็ได้ แล้วแต่ความชอบใจของคนนึก อาจนึกให้ครอบตัว หรือมีขนาดเล็กเท่าดวงดาวในอากาศก็ได้
4.ตำแหน่งของการนึก ให้วางนิมิตไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เหนือสะดือ 2 นิ้วมือเราจะเห็นว่าข้อจำกัดของการนึกมีน้อยมาก แล้วแต่ความพอใจของคนปฏิบัติธรรม ขอเพียงให้นึกถึงสิ่งนั้นให้ได้ต่อเนื่องเป็นลำดับไป
在了解法胜法师的教导后,我们可以知道,对于观想所缘这个环节,
我们可以按照以下的特性来划分,即是:
1.相的外形或体型是怎么样都可以,只希望是让我们的心舒服或宁静的 物体即可。但是法胜法师推荐的是佛像与水晶球。
2.相的色彩是什么颜色都可以,例如:红色、黄色,但是推荐使用的颜 色为透明。
3.相的尺寸可大可小,随意念之人的喜好。可以意念大到罩住自己的身 体,也可以意念小得如天上的星星。
4.意念的位置,应该是将所缘放置在肚脐上方两根手指高的身体中央第 七点。
由此,我们可以发现意念的限定事项很少,都是顺着修行者的意愿,
只是希望修行者意念到的物体,能够让自己继续的修行下去。
在修行方面,帕拉帕哇那威素(法胜法师)引导说,只要能够让我 们的心宁静,意念什么都可以。所以他介绍让我们意念的所缘有:月亮、 太阳或草尖上的一滴露水,荷花叶上的水珠,肥皂泡,或者是修行者自 己喜欢的且能够让心静止、宁静的即可。例如,西瓜、橙子、僧钵、榴 莲、面包,等等。
สำหรับนิมิตที่นิยมให้นึกกัน ซึ่งสืบมาตั้งแต่ครั้งสมัยพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) ท่านแนะให้ใช้นิมิตที่เป็นนิมิตแสงสว่าง เรียกว่า อาโลกกสิณ ซึ่งนิมิตที่นำมาใช้เป็นหลักในการทำสมาธิมี 2 อย่าง คือ ดวงแก้วใส และองค์พระใส
而大家都喜爱意念的所缘,就是在很久之前,帕蒙昆贴牟尼袓师所 引导使用的所缘,即有光亮的所缘,称之为借助光亮的禅定法。因此, 可以在禅定中用来意念的所缘有两种,分别为:透明的水晶球以及透明 的佛像。
สาเหตุที่แนะนำให้ใช้นิมิตเช่นนี้ มีผู้อธิบายไว้ว่า3)
1.การวางดวงแก้วไว้ที่ศูนย์กลางกายตลอดวัน ทำให้ใจของเราอยู่ที่ศูนย์กลางกายได้ง่ายขึ้น
2.จะทำให้ใจเป็นบวกหรืออย่างน้อยที่สุดเป็นกลางๆ คือ ช่วยให้จิตเป็นกุศล
3.ดวงแก้วเป็นของที่ใส สะอาด และบริสุทธิ์ คล้ายคลึงกับสภาวะใจที่รวมเป็นหนึ่ง คือ สภาวะของดวงธรรมภายใน ดวงแก้วจะนำใจของเราให้สะอาดและบริสุทธิ์ และจะนำไปสู่การประสบ ความสำเร็จในการปฏิบัติธรรม อีกทั้งจะเป็นการลัดขั้นตอน ช่วยย่นระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงของภาพที่เห็น (บริกรรมนิมิต) เนื่องจากนิมิตทุกชนิด เมื่อได้ทำภาวนาไประยะหนึ่ง จิตเกิดความสงบนิ่งดีแล้ว นิมิตทุกชนิด จะเปลี่ยนเป็นของใส เปลี่ยนเป็นแก้ว เพื่อย่นระยะเวลาการเปลี่ยนของภาพ ไม่ต้องรอให้มาถึงจุดนี้ การนึกถึงสิ่งที่มีความใกล้เคียงกัน จะช่วยลดระยะเวลาการปฏิบัติลงได้
4.สำหรับองค์พระแก้วใสก็คล้ายคลึงกับสภาวธรรมภายใน เมื่อใจละเอียดไปตามลำดับ จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย องค์พระแก้วใสจึงเป็นตัวแทนนิมิตที่ทำให้ใจสามารถเข้าไปสู่จุดที่ใจหยุดนิ่ง จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย
为什么介绍使用这种所缘,有人解释道S
1.整天都把水晶球放置在身体的中心点,将会让我们的心更容易的处在 身体的中心点。
2.让心处于向上或至少是中间的位置,即是让心处于善意中。
3.水晶球是透明与纯净的物体,跟心的形态非常相似,即是体内法球的 形态。法球会净化我们的心,让其清洁和纯净,同时也会带领我们的 心在修行中取得成就。而且也是禅定的快捷程序,可以帮助缩短看到 的图像(似相)的时间。每一个类型的所缘,当修行到一定的时间, 心灵宁静好之后,就会转变透明的物体,转变为水晶。为了缩短图像 的转变时间,不需要等很久便可到达这一程度,就应意念相似的物体, 这样将会有助于缩短修行的时间。
4.对于透明的佛像则跟内在的修行境界相似,当精细的心按阶段层层的 细腻下去,那么就会证入内在的法身。而透明的水晶佛像则将代替所 缘,来让心到达宁静的点,并在最后证入法身法门。
ในกรณีที่ยังนึกองค์พระให้ใสไม่ได้ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ท่านแนะนำให้นึกองค์พระที่เป็นวัสดุอื่นก็ได้ เช่น โลหะ อิฐ หิน และแนะนำวิธีการนึกองค์พระว่าให้นึกเหมือนเรามองจากด้านบน ลงไปด้านล่าง จากเศียรของท่านลงไปที่หน้าตา แขน ตัก และขา จากการศึกษาคำสอนของครูบาอาจารย์
如果还无法意念到佛像,那么帕拉帕哇那威素(法胜法师)则推荐大家,意念的佛像可为其他性质的材料。例如,金属、砖、石头。同时法胜法师还教导意念佛像时,应仿佛由上到下的观望,从佛像的头顶往下,到脸部再到手臂和膝盖,最后到脚。
เราสามารถจะสรุปออกมาได้อย่างนี้ว่า การนึกนิมิต สามารถแบ่งการนึกได้ตามลักษณะดังต่อไปนี้ คือ
1.สัณฐานหรือรูปร่างของนิมิต จะเป็นรูปร่างอย่างไรก็ได้ขอเพียงเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ใจ ของเราสบายและสงบ แต่ที่ท่านแนะนำก็คือ เป็นองค์พระ หรือดวงแก้ว
2.สีสันของนิมิตจะเป็นสีอะไรก็ได้ เช่น สีแดง สีเหลือง สีเขียว แต่ที่แนะนำให้ใช้ก็คือ สีใส
3.ขนาดของนิมิตจะเล็กหรือใหญ่ก็ได้ แล้วแต่ความชอบใจของคนนึก อาจนึกให้ครอบตัว หรือมีขนาดเล็กเท่าดวงดาวในอากาศก็ได้
4.ตำแหน่งของการนึก ให้วางนิมิตไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เหนือสะดือ 2 นิ้วมือเราจะเห็นว่าข้อจำกัดของการนึกมีน้อยมาก แล้วแต่ความพอใจของคนปฏิบัติธรรม ขอเพียงให้นึกถึงสิ่งนั้นให้ได้ต่อเนื่องเป็นลำดับไป
在了解法胜法师的教导后,我们可以知道,对于观想所缘这个环节,
我们可以按照以下的特性来划分,即是:
1.相的外形或体型是怎么样都可以,只希望是让我们的心舒服或宁静的 物体即可。但是法胜法师推荐的是佛像与水晶球。
2.相的色彩是什么颜色都可以,例如:红色、黄色,但是推荐使用的颜 色为透明。
3.相的尺寸可大可小,随意念之人的喜好。可以意念大到罩住自己的身 体,也可以意念小得如天上的星星。
4.意念的位置,应该是将所缘放置在肚脐上方两根手指高的身体中央第 七点。
由此,我们可以发现意念的限定事项很少,都是顺着修行者的意愿,
只是希望修行者意念到的物体,能够让自己继续的修行下去。
4.5 วิธีการนึกนิมิต
การกำหนดนึกนิมิตตามที่ได้รวบรวมมาจากคำสอนของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ มีแนวทางในการปฏิบัติดังต่อไปนี้
4.5观想所缘的方法
从帕拉帕哇那威素(法胜法师)的教诲中,我们总结出了观想所缘的方法。具体如下:
1.นึกกำหนดนิมิต เป็น”ดวงแก้วกลมใส” ขนาดเท่าแก้วตาดำ ใสสนิท ปราศจากรอยขีดข่วน หรือ รอยตำหนิใดๆ ขาวใส เย็นตาเย็นใจ ดังประกายของดวงดาว ดวงแก้วกลมใสนี้เรียกว่า บริกรรมนิมิต นึกสบายๆ นึกเหมือนดวงแก้วนั้นมานิ่งสนิทอยู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 นึกไปภาวนาไปอย่างนุ่มนวลเป็นพุทธานุสติว่า “ สัมมา อะระหัง” หรือค่อยๆ น้อมนึกถึงดวงแก้วกลมใส ค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่ศูนย์กลางกายตามแนวฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ฐานที่หนึ่งเป็นต้นไป น้อมด้วยการนึกอย่างสบายๆ ใจเย็นๆ ไปพร้อมๆ กับคำภาวนา
1.观想限定的所缘是“透明圆滑的水晶球”,尺寸和黑眼珠一般大。透明 紧密,没有任何的刮痕或瑕疵。洁白透明,看起来非常的顺眼舒心, 就如同闪闪发光的星星,这个透明圆滑的水晶球被称之为“取相”。轻 松的观想,就好像那个水晶球安稳的静止在身体中央第七点一样。柔 和地意念下去,同时心中默念佛圣号“三玛阿罗汉”。或慢慢意念透明 圆滑的水晶球,然后第一定点开始意念下去,渐渐转移至体内的第七 定点,同时在这过程中应轻柔与舒服的默念佛圣号。
การนึกจะต่างจากการคิด เพราะการนึกคือการเริ่มต้นอย่างเบาๆ สบายๆ เพลินๆ ไม่มีการเร่งการลุ้น แต่การคิดจะเป็นการนึกที่หนักกว่าและมีขั้นตอน
意念跟想象不一样,因为意念始于轻松愉快的心情,不会有过快 的紧迫感。但是,想象则是更为深重的意念,同时还会有步骤。
เมื่อนิมิตดวงใสและกลมสนิทปรากฏแล้ว ณ ศูนย์กลางกาย ให้วางอารมณ์สบายๆ กับนิมิตนั้น จนเหมือนกับว่า นิมิตเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ หากดวงนิมิตนั้นอันตรธานหายไป ก็ไม่ต้องนึกเสียดาย ให้วางอารมณ์สบายๆ แล้วนึกนิมิตนั้นขึ้นมาใหม่แทนดวงเก่า หรือเมื่อนิมิตนั้นไปปรากฏที่อื่น ที่มิใช่่ศูนย์กลางกาย ให้ค่อยๆ น้อมนิมิตเข้ามาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการบังคับ และเมื่อนิมิตมาหยุดสนิท ณ ศูนย์กลางกาย ให้วางสติลงไปยังจุดศูนย์กลางของดวงนิมิต ด้วยความรู้สึกคล้ายมีดวงดาวดวงเล็กๆ อีกดวงหนึ่งซ้อนอยู่ตรงกลางดวงนิมิตดวงเดิม แล้วสนใจเอาใจใส่แต่ดวงเล็กๆ ตรงกลางนั้นไปเรื่อยๆ ใจจะปรับจนหยุดได้ถูกส่วน แล้วจากนั้นทุกอย่างจะค่อยๆ ปรากฏให้เห็นได้ด้วยตนเองเป็นภาวะของดวงกลม ที่ทั้งใสทั้งสว่างผุดซ้อนขึ้นมาจากกึ่งกลางดวงนิมิต ตรงที่เราเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
当透明圆滑的水晶球出现后,身体中央要一直保持轻松舒服的 感觉,就好像所缘是情绪的一种。如果那个水晶球消失不见了,也不 要感觉到可惜,应继续保持那种轻松舒服的感觉。然后再重新意念一 个新的水晶球来代替旧的那个。或者当那个水晶球不是在体内的中心 点浮现,而是在别的地方出现,也不要去勉强,而应逐渐的将它引导 回到体内的中心点。当水晶球已经在中心点静止时,就把注意力移到 水晶球的中心点。而当水晶球的中心点有一颗小星星出现时,再把注 意力转移至那颗小星星上,让它成为自己禅定的重心。而当心静定之 后,在我们常常关注的中心点,将有各种各样的圆形物体慢慢浮现, 并透明光亮的重叠出现在水晶球的中央。
2.เทคนิคการนึกนิมิต พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า การเห็นเริ่มจาก การนึกก่อน ถ้านึกได้ก็เห็นได้ สิ่งที่เราเห็นได้แล้วเราก็เอามานึกได้4)
2.观想所缘的技术,帕拉帕哇那威素(法胜法师)教导说:“看见始于观 想之前,如果可以观想得到,那么就可以看得见。如果可以看得到, 你可以意念出来、
3.นึกนิมิตดวงแก้ว ก็นึกแบบนึกดอกกุหลาบ ดอกบัว นึกถึงบ้านที่เราอยู่ คือ อย่าให้มีลีลาหรือมีพิธีรีตองมากมาย การนึกก็นึกอย่างสบายๆ นึกเห็นก็เห็น เพราะใจเป็นธาตุสำเร็จอยู่แล้ว ให้มีความมั่นใจ ความมั่นใจเท่านั้น ที่จะสร้างความมั่นใจต่อๆ ไป
3.观想所缘为水晶球时,就如同观想玫瑰花与莲花,或意念到简单的家。 轻松舒服的去观想,想见便能见到。因为心是成功之本,自己要有 信心,并保持下去。
4.ถ้าใจยังไม่พร้อมที่จะนึก อย่าเพิ่งนึก ให้วางใจเฉยๆ จงคอยด้วยใจที่เยือกเย็น วางใจในที่สบายๆ การวางใจเฉยๆ ไม่ใช่ทำให้ช้าหรือเสียเวลา เพราะใจเฉยเป็นใจที่ใกล้กับใจละเอียดแล้ว
4.如果心还没有准备好观想,那就先不要去观想,而是先让心放轻松。 让心放轻松不是放慢速度或浪费时间。因为静静的心已经离精细|很近了。
5.การนึกให้นึกอย่างธรรมดาๆ ดูธรรมดาเหมือนดูทิวทัศน์ ดูต้นไม้ ภูเขา น้ำตก คลื่นซัดฝั่ง ดวงอาทิตย์ ดวงดาว น้ำค้างที่ปลายยอดหญ้า นึกเหมือนนึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคย อันไหนคุ้นเคยมากก็นึกได้ง่าย อันไหนคุ้นเคยน้อยก็นึกได้ยากหน่อย มันเป็นธรรมดาของสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตาของเรา อันไหนผ่านมาบ่อย เห็นเจนตาก็นึกง่าย อันไหนผ่านมาน้อย ก็นึกยากหน่อย อย่างไรก็ตามให้นึกอย่าง ธรรมดาๆ สบายๆ
5.观想时应是普通式的观想。普通的观看,就如观看风景、树木、山丘、 瀑布、海浪、太阳、星星、草尖上的露珠。观想我们所熟悉的东西, 因为熟悉的物体,会很容易的观想到。而对于自己所不熟悉的,观想 时就会有点困难。它应该是我们视线内的一件普通的物体。什么物体 常入我们的视线,而且已经司空见惯,那么观想起来就会很容易。什 么物体不常入我们的视线,就很难观想起来。但不管怎么样,都应简单、 轻松、舒服的去观想。
6.ตรึกไปเรื่อยๆ อย่ายอมแพ้ ค่อยๆ ตรึก ค่อยๆ นึก ค่อยๆ คิด ให้ใจของเราคุ้นอยู่กับศูนย์กลางกาย ถ้าหากรู้สึกว่าศูนย์กลางกายเล็กเกินไป ก็นึกให้โตขึ้นมา องค์พระเล็กก็นึกให้องค์พระใหญ่ ตอนที่เราสามารถจินตนาการให้ดวงนั้นชัดใส นึกได้ โตได้ ขยายได้ เล็กได้แสดงว่าใจเราเริ่มละเอียด รักษาสภาพตรงนี้ให้ต่อเนื่อง ประคองภาพที่เห็นทั้งหลับตาลืมตา ประคองไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใจกำลังจะ หยุดนิ่งสนิท 100 เปอร์เซ็นต์ มันกึ้กเลย ตอนนี้ทิ้งร่างกายเหมือนไม่มีตัวเลย ตอนนี้เรากับสิ่งนั้นก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชัดใสแจ๋ว
6.继续观想下去,不要认输,慢慢地意念,慢慢地观想,让我们的心习 惯于安放在身体的中心点。如果感觉身体中心点过于狭小,就观想让 其扩大起来。如果佛像很小,那么就观想让其变大。当我们意念的佛 像是清晰透明的,以及可使其变大或变小,那么表明此时我们的心已 经开始精细了,要将这个状态继续保持下去。护持睁眼与闭眼所看到 的一切画面,且一直的护持下去。直到整颗心百分之一百的宁静,这 时侯则可以忽略身体,就好像没有了躯体一般。那时我们应与清晰透 明的佛像合二为一。
7.ให้นึกอย่างต่อเนื่องคล้ายๆ กับเรานึกถึงของที่เรารักคนที่เรารู้จักเช่น เราชอบแหวนวงหนึ่ง หัวแหวนมีเพชรที่ใสบริสุทธิ์ เราได้มาเราก็เพลิดเพลินในการนึก นึกแล้วอิ่มใจ ปีติใจ เบิกบานใจ หรือ เหมือนชายหนุ่มคิดถึงหญิงสาวหรือหญิงสาวคิดถึงชายหนุ่ม คือนึกถึงทั้งวันทั้งคืน การนึกดวงแก้ว ก็ให้มีความเพลินอย่างนั้น ไม่ต้องมีความรู้สึกว่าเราถูกบังคับให้ภาวนา ถูกบังคับให้นึกนิมิต
7.持续的观想,就如同在思念自己的爱人或熟人一般。比如我们得到了 一枚自己喜欢的,镶嵌透明钻石的钻戒,我们可以用来意念,可能顿 时心情就会非常的愉快和欢喜。在或者如同男生想念着女生,或女生 想念着男生,而且是整天整夜的想。对于观想水晶球时,我们也应该 有那种感觉。而不应该觉得我们是在勉强的修行,以及勉强的观想所缘。
8.หากนิมิตอยู่ข้างหน้า และหากใจสบายกับนิมิตที่อยู่ตรงหน้านั้น เราก็เอาใจไว้ตรงนิมิตนั้นไปก่อน แต่เรารู้เป้าหมายแล้วว่า ต้องมาอยู่ที่ฐานที่ 7
8.如果所缘就在面前,而且心对面前的所缘也感到很舒服,那么我们就 应先用心去观想前面的所缘。但我们一定要时刻清楚,最终的目的地 一定是在身体中央第七点。
9.การเห็นของละเอียดจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เห็นค่อยๆ ชัด จากกลางจะค่อยๆ ชัดขึ้น จากมืดมิดมามืดมัว เห็นสลัวๆ เห็นเหมือนฟ้าสางๆ แล้วก็เห็นเหมือนลืมตาเห็น จนเรากับสิ่งที่เห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นี่คือหยุดอย่างสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
9.要想看见精细的东西,就一定要逐渐的变化,慢慢地看,慢慢地由中 间开始变得清晰起来。由漆黑转为阴暗,由朦朦胧胧的看见,转变成 如睁开眼睛般的清晰可见。然后自己就会和所见到的物体合二为一, 此时便是百分之百的宁静了。
10.วิธีรักษานิมิตให้ดูเฉยๆ แม้หายก็ช่าง5)
10.保持所缘的方法只需静静的看,即使不见了也没有关系、
4.5观想所缘的方法
从帕拉帕哇那威素(法胜法师)的教诲中,我们总结出了观想所缘的方法。具体如下:
1.นึกกำหนดนิมิต เป็น”ดวงแก้วกลมใส” ขนาดเท่าแก้วตาดำ ใสสนิท ปราศจากรอยขีดข่วน หรือ รอยตำหนิใดๆ ขาวใส เย็นตาเย็นใจ ดังประกายของดวงดาว ดวงแก้วกลมใสนี้เรียกว่า บริกรรมนิมิต นึกสบายๆ นึกเหมือนดวงแก้วนั้นมานิ่งสนิทอยู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 นึกไปภาวนาไปอย่างนุ่มนวลเป็นพุทธานุสติว่า “ สัมมา อะระหัง” หรือค่อยๆ น้อมนึกถึงดวงแก้วกลมใส ค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่ศูนย์กลางกายตามแนวฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ฐานที่หนึ่งเป็นต้นไป น้อมด้วยการนึกอย่างสบายๆ ใจเย็นๆ ไปพร้อมๆ กับคำภาวนา
1.观想限定的所缘是“透明圆滑的水晶球”,尺寸和黑眼珠一般大。透明 紧密,没有任何的刮痕或瑕疵。洁白透明,看起来非常的顺眼舒心, 就如同闪闪发光的星星,这个透明圆滑的水晶球被称之为“取相”。轻 松的观想,就好像那个水晶球安稳的静止在身体中央第七点一样。柔 和地意念下去,同时心中默念佛圣号“三玛阿罗汉”。或慢慢意念透明 圆滑的水晶球,然后第一定点开始意念下去,渐渐转移至体内的第七 定点,同时在这过程中应轻柔与舒服的默念佛圣号。
การนึกจะต่างจากการคิด เพราะการนึกคือการเริ่มต้นอย่างเบาๆ สบายๆ เพลินๆ ไม่มีการเร่งการลุ้น แต่การคิดจะเป็นการนึกที่หนักกว่าและมีขั้นตอน
意念跟想象不一样,因为意念始于轻松愉快的心情,不会有过快 的紧迫感。但是,想象则是更为深重的意念,同时还会有步骤。
เมื่อนิมิตดวงใสและกลมสนิทปรากฏแล้ว ณ ศูนย์กลางกาย ให้วางอารมณ์สบายๆ กับนิมิตนั้น จนเหมือนกับว่า นิมิตเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ หากดวงนิมิตนั้นอันตรธานหายไป ก็ไม่ต้องนึกเสียดาย ให้วางอารมณ์สบายๆ แล้วนึกนิมิตนั้นขึ้นมาใหม่แทนดวงเก่า หรือเมื่อนิมิตนั้นไปปรากฏที่อื่น ที่มิใช่่ศูนย์กลางกาย ให้ค่อยๆ น้อมนิมิตเข้ามาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการบังคับ และเมื่อนิมิตมาหยุดสนิท ณ ศูนย์กลางกาย ให้วางสติลงไปยังจุดศูนย์กลางของดวงนิมิต ด้วยความรู้สึกคล้ายมีดวงดาวดวงเล็กๆ อีกดวงหนึ่งซ้อนอยู่ตรงกลางดวงนิมิตดวงเดิม แล้วสนใจเอาใจใส่แต่ดวงเล็กๆ ตรงกลางนั้นไปเรื่อยๆ ใจจะปรับจนหยุดได้ถูกส่วน แล้วจากนั้นทุกอย่างจะค่อยๆ ปรากฏให้เห็นได้ด้วยตนเองเป็นภาวะของดวงกลม ที่ทั้งใสทั้งสว่างผุดซ้อนขึ้นมาจากกึ่งกลางดวงนิมิต ตรงที่เราเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
当透明圆滑的水晶球出现后,身体中央要一直保持轻松舒服的 感觉,就好像所缘是情绪的一种。如果那个水晶球消失不见了,也不 要感觉到可惜,应继续保持那种轻松舒服的感觉。然后再重新意念一 个新的水晶球来代替旧的那个。或者当那个水晶球不是在体内的中心 点浮现,而是在别的地方出现,也不要去勉强,而应逐渐的将它引导 回到体内的中心点。当水晶球已经在中心点静止时,就把注意力移到 水晶球的中心点。而当水晶球的中心点有一颗小星星出现时,再把注 意力转移至那颗小星星上,让它成为自己禅定的重心。而当心静定之 后,在我们常常关注的中心点,将有各种各样的圆形物体慢慢浮现, 并透明光亮的重叠出现在水晶球的中央。
2.เทคนิคการนึกนิมิต พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า การเห็นเริ่มจาก การนึกก่อน ถ้านึกได้ก็เห็นได้ สิ่งที่เราเห็นได้แล้วเราก็เอามานึกได้4)
2.观想所缘的技术,帕拉帕哇那威素(法胜法师)教导说:“看见始于观 想之前,如果可以观想得到,那么就可以看得见。如果可以看得到, 你可以意念出来、
3.นึกนิมิตดวงแก้ว ก็นึกแบบนึกดอกกุหลาบ ดอกบัว นึกถึงบ้านที่เราอยู่ คือ อย่าให้มีลีลาหรือมีพิธีรีตองมากมาย การนึกก็นึกอย่างสบายๆ นึกเห็นก็เห็น เพราะใจเป็นธาตุสำเร็จอยู่แล้ว ให้มีความมั่นใจ ความมั่นใจเท่านั้น ที่จะสร้างความมั่นใจต่อๆ ไป
3.观想所缘为水晶球时,就如同观想玫瑰花与莲花,或意念到简单的家。 轻松舒服的去观想,想见便能见到。因为心是成功之本,自己要有 信心,并保持下去。
4.ถ้าใจยังไม่พร้อมที่จะนึก อย่าเพิ่งนึก ให้วางใจเฉยๆ จงคอยด้วยใจที่เยือกเย็น วางใจในที่สบายๆ การวางใจเฉยๆ ไม่ใช่ทำให้ช้าหรือเสียเวลา เพราะใจเฉยเป็นใจที่ใกล้กับใจละเอียดแล้ว
4.如果心还没有准备好观想,那就先不要去观想,而是先让心放轻松。 让心放轻松不是放慢速度或浪费时间。因为静静的心已经离精细|很近了。
5.การนึกให้นึกอย่างธรรมดาๆ ดูธรรมดาเหมือนดูทิวทัศน์ ดูต้นไม้ ภูเขา น้ำตก คลื่นซัดฝั่ง ดวงอาทิตย์ ดวงดาว น้ำค้างที่ปลายยอดหญ้า นึกเหมือนนึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคย อันไหนคุ้นเคยมากก็นึกได้ง่าย อันไหนคุ้นเคยน้อยก็นึกได้ยากหน่อย มันเป็นธรรมดาของสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตาของเรา อันไหนผ่านมาบ่อย เห็นเจนตาก็นึกง่าย อันไหนผ่านมาน้อย ก็นึกยากหน่อย อย่างไรก็ตามให้นึกอย่าง ธรรมดาๆ สบายๆ
5.观想时应是普通式的观想。普通的观看,就如观看风景、树木、山丘、 瀑布、海浪、太阳、星星、草尖上的露珠。观想我们所熟悉的东西, 因为熟悉的物体,会很容易的观想到。而对于自己所不熟悉的,观想 时就会有点困难。它应该是我们视线内的一件普通的物体。什么物体 常入我们的视线,而且已经司空见惯,那么观想起来就会很容易。什 么物体不常入我们的视线,就很难观想起来。但不管怎么样,都应简单、 轻松、舒服的去观想。
6.ตรึกไปเรื่อยๆ อย่ายอมแพ้ ค่อยๆ ตรึก ค่อยๆ นึก ค่อยๆ คิด ให้ใจของเราคุ้นอยู่กับศูนย์กลางกาย ถ้าหากรู้สึกว่าศูนย์กลางกายเล็กเกินไป ก็นึกให้โตขึ้นมา องค์พระเล็กก็นึกให้องค์พระใหญ่ ตอนที่เราสามารถจินตนาการให้ดวงนั้นชัดใส นึกได้ โตได้ ขยายได้ เล็กได้แสดงว่าใจเราเริ่มละเอียด รักษาสภาพตรงนี้ให้ต่อเนื่อง ประคองภาพที่เห็นทั้งหลับตาลืมตา ประคองไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใจกำลังจะ หยุดนิ่งสนิท 100 เปอร์เซ็นต์ มันกึ้กเลย ตอนนี้ทิ้งร่างกายเหมือนไม่มีตัวเลย ตอนนี้เรากับสิ่งนั้นก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชัดใสแจ๋ว
6.继续观想下去,不要认输,慢慢地意念,慢慢地观想,让我们的心习 惯于安放在身体的中心点。如果感觉身体中心点过于狭小,就观想让 其扩大起来。如果佛像很小,那么就观想让其变大。当我们意念的佛 像是清晰透明的,以及可使其变大或变小,那么表明此时我们的心已 经开始精细了,要将这个状态继续保持下去。护持睁眼与闭眼所看到 的一切画面,且一直的护持下去。直到整颗心百分之一百的宁静,这 时侯则可以忽略身体,就好像没有了躯体一般。那时我们应与清晰透 明的佛像合二为一。
7.ให้นึกอย่างต่อเนื่องคล้ายๆ กับเรานึกถึงของที่เรารักคนที่เรารู้จักเช่น เราชอบแหวนวงหนึ่ง หัวแหวนมีเพชรที่ใสบริสุทธิ์ เราได้มาเราก็เพลิดเพลินในการนึก นึกแล้วอิ่มใจ ปีติใจ เบิกบานใจ หรือ เหมือนชายหนุ่มคิดถึงหญิงสาวหรือหญิงสาวคิดถึงชายหนุ่ม คือนึกถึงทั้งวันทั้งคืน การนึกดวงแก้ว ก็ให้มีความเพลินอย่างนั้น ไม่ต้องมีความรู้สึกว่าเราถูกบังคับให้ภาวนา ถูกบังคับให้นึกนิมิต
7.持续的观想,就如同在思念自己的爱人或熟人一般。比如我们得到了 一枚自己喜欢的,镶嵌透明钻石的钻戒,我们可以用来意念,可能顿 时心情就会非常的愉快和欢喜。在或者如同男生想念着女生,或女生 想念着男生,而且是整天整夜的想。对于观想水晶球时,我们也应该 有那种感觉。而不应该觉得我们是在勉强的修行,以及勉强的观想所缘。
8.หากนิมิตอยู่ข้างหน้า และหากใจสบายกับนิมิตที่อยู่ตรงหน้านั้น เราก็เอาใจไว้ตรงนิมิตนั้นไปก่อน แต่เรารู้เป้าหมายแล้วว่า ต้องมาอยู่ที่ฐานที่ 7
8.如果所缘就在面前,而且心对面前的所缘也感到很舒服,那么我们就 应先用心去观想前面的所缘。但我们一定要时刻清楚,最终的目的地 一定是在身体中央第七点。
9.การเห็นของละเอียดจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เห็นค่อยๆ ชัด จากกลางจะค่อยๆ ชัดขึ้น จากมืดมิดมามืดมัว เห็นสลัวๆ เห็นเหมือนฟ้าสางๆ แล้วก็เห็นเหมือนลืมตาเห็น จนเรากับสิ่งที่เห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นี่คือหยุดอย่างสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
9.要想看见精细的东西,就一定要逐渐的变化,慢慢地看,慢慢地由中 间开始变得清晰起来。由漆黑转为阴暗,由朦朦胧胧的看见,转变成 如睁开眼睛般的清晰可见。然后自己就会和所见到的物体合二为一, 此时便是百分之百的宁静了。
10.วิธีรักษานิมิตให้ดูเฉยๆ แม้หายก็ช่าง5)
10.保持所缘的方法只需静静的看,即使不见了也没有关系、
4.6 สาเหตุที่นึกนิมิตไม่ออก และวิธีแก้ไข
ในการนึกนิมิต มีนักปฏิบัติธรรมหลายท่านนึกนิมิตไม่ออก ทั้งนี้ก็เพราะ
1.ไม่คุ้นในการนึกถึงนิมิต เช่น ไม่คุ้นกับการนึกองค์พระ หรือดวงแก้ว
2.ไม่เข้าใจคำว่า นึกอย่างสบาย ทำให้ไปเพ่ง คือ กดลูกนัยน์ตาลงไปดู
3.อารมณ์หยาบ เพราะมีความคิดคั่งค้างอยู่ในใจ
ดังนั้น หากเกิดอาการนึกนิมิตไม่ออก ให้ผู้ปฏิบัติแก้ไขด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
4.6观想不出所缘的原因及解决方法
在观想所缘时,有的修行者观想不出,这是因为:
1.对观想所缘不熟悉,例如:不习惯意念佛像或者水晶球。
2.不理解“轻松意念”,而去注视它,即是用眼球去凝视。
3.心情粗糖,即是有很多杂念堆积在心里。
因此,如果观想不出所缘,希望修行者能够按照以下的方法去解决:
วิธีแก้ไข
1.ถ้าไม่คุ้นกับการนึกภาพองค์พระ หรือดวงแก้ว ก็ให้วางใจนิ่งๆ เฉยๆ สบายๆ
2.ถ้ากดลูกนัยน์ตาดู ให้หยุดการนึกเสียแล้ว ปรับไม่ให้ใช้นัยน์ตาในการนึก หรืออาจเปลี่ยนมาใช้ การวางใจเฉยๆ แทนไปก่อน
3.ถ้าอารมณ์ยังหยาบให้ทำใจเฉยๆ ไปก่อนยังไม่ต้องนึกนิมิต หรืออาจเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ทำให้ใจละเอียดขึ้นก่อน เช่น ร้อยมาลัย ปัดกวาด เช็ดถูทำความสะอาดข้าวของในบ้าน เป็นต้น
解决方法
1.如果不习惯意念佛像或水晶球,那就将心宁静而轻松的安放好。
2.如果是用眼球去凝视,那就应停止这种方式的意念,调整为不用眼球 去意念,或转变为让心静静的安放。
3.如果心还很粗糙,那么就先让心静下来,还不用去观想所缘,或者可 以先转为去做其他能够让心精细起来的事情。例如:串花环或给家里 打扫卫生,等等。
1.ไม่คุ้นในการนึกถึงนิมิต เช่น ไม่คุ้นกับการนึกองค์พระ หรือดวงแก้ว
2.ไม่เข้าใจคำว่า นึกอย่างสบาย ทำให้ไปเพ่ง คือ กดลูกนัยน์ตาลงไปดู
3.อารมณ์หยาบ เพราะมีความคิดคั่งค้างอยู่ในใจ
ดังนั้น หากเกิดอาการนึกนิมิตไม่ออก ให้ผู้ปฏิบัติแก้ไขด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
4.6观想不出所缘的原因及解决方法
在观想所缘时,有的修行者观想不出,这是因为:
1.对观想所缘不熟悉,例如:不习惯意念佛像或者水晶球。
2.不理解“轻松意念”,而去注视它,即是用眼球去凝视。
3.心情粗糖,即是有很多杂念堆积在心里。
因此,如果观想不出所缘,希望修行者能够按照以下的方法去解决:
วิธีแก้ไข
1.ถ้าไม่คุ้นกับการนึกภาพองค์พระ หรือดวงแก้ว ก็ให้วางใจนิ่งๆ เฉยๆ สบายๆ
2.ถ้ากดลูกนัยน์ตาดู ให้หยุดการนึกเสียแล้ว ปรับไม่ให้ใช้นัยน์ตาในการนึก หรืออาจเปลี่ยนมาใช้ การวางใจเฉยๆ แทนไปก่อน
3.ถ้าอารมณ์ยังหยาบให้ทำใจเฉยๆ ไปก่อนยังไม่ต้องนึกนิมิต หรืออาจเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ทำให้ใจละเอียดขึ้นก่อน เช่น ร้อยมาลัย ปัดกวาด เช็ดถูทำความสะอาดข้าวของในบ้าน เป็นต้น
解决方法
1.如果不习惯意念佛像或水晶球,那就将心宁静而轻松的安放好。
2.如果是用眼球去凝视,那就应停止这种方式的意念,调整为不用眼球 去意念,或转变为让心静静的安放。
3.如果心还很粗糙,那么就先让心静下来,还不用去观想所缘,或者可 以先转为去做其他能够让心精细起来的事情。例如:串花环或给家里 打扫卫生,等等。
บทที่ 3 การปรับใจ 第三章调整心
บทที่ 3 การปรับใจ
第三章调整心
ใจ ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของชีวิต ดังที่มีคำพังเพยกล่าวไว้ว่า “ ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” เพราะใจเป็นตัวควบคุมความคิด คำพูด และการกระทำของมนุษย์ทุกคน การฝึกสมาธินั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องของการฝึกใจ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าในการฝึกใจนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย เนื่องจากสภาพใจของมนุษย์มีปกติซัดส่ายไปมา เปรียบเสมือนลิงที่คอยกระโดดเกาะกิ่งไม้ กิ่งโน้นกิ่งนี้อยู่เรื่อยไปไม่มีหยุด การจะฝึกใจ ด้วยการทำใจให้สงบนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิธีการในการฝึกใจหรือปรับ ใจของเราให้ค่อยๆ หยุด ค่อยๆ นิ่ง เสมือนกับการทำให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เราจะต้องค่อยๆ แตะเบรกรถ ให้ความเร็วของรถค่อยๆ ลดลง แล้วรถจึงจะหยุด หรือเสมือนกับการหาอุบายค่อยๆ ต้อนลิง และจับลิงให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ดังนั้นเราควรจะได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับการปรับใจให้เหมาะสมแก่การฝึก สมาธิกัน心可以算是生命中最为重要的一部分。正如一句格言讲的:“心为主 人,身为奴仆”。因为心控制着每个人的想法、话语与行为。练习禅定与 练习心,有着直接而紧密的关联。众所周知,练习心不是一件简单的事情。 由于人类的心通常处于摇摆不定的状态,有如猴子从这一根树枝跳到另外 一根树枝,从来都没有停止过一般。为了练习让心宁静下来,必须学习和 了解训练心与调整心的方法,使之能够慢慢地静止,慢慢地宁静。就有如 想让高速行驶的汽车慢下来,我们就得慢慢的踩住刹车,让汽车的速度缓 慢降下来,直至停止。再或者有如寻找伎俩来慢慢的制服猴子,让它在原 地停止不动。因此,我们应该学习调整适合的心来练习禅定。
3.1 ความหมายของการปรับใจ
3.1 调整心的含义
การปรับใจ หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงสภาวะของใจให้เหมาะสมต่อสภาวะความเป็นสมาธิ นั่นคือ
การเปลี่ยนแปลงใจให้มีสภาวะเบิกบาน แช่มชื่น สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส
เป็นใจที่สบาย ไม่มีความคิดอะไร ปลอดโปร่ง โล่ง เบา
调整心是指:通过改变心的状态去迎合进入适合禅定的状态。也就 是调整心,让心保持愉快、舒畅、洁净、纯洁、明亮的状态。让其轻松 自然,没有任何的想法,只有纯洁、透明、空旷和轻巧。
调整心是指:通过改变心的状态去迎合进入适合禅定的状态。也就 是调整心,让心保持愉快、舒畅、洁净、纯洁、明亮的状态。让其轻松 自然,没有任何的想法,只有纯洁、透明、空旷和轻巧。
3.2 ความสำคัญของการปรับใจ
3.2 调整心的重要性
ในวิถีชีวิตประจำวันมีเครื่องดึงใจเราออกจากตัวมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของคน สัตว์ สิ่งของ การงานต่างๆ เป็นต้น
เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้มีผลทำให้สภาพจิตใจของเราไม่เหมาะกับการปฏิบัติธรรม
คือ จิตจะซัดส่าย ดิ้นรน ฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ เพราะมีเรื่องกังวลต่างๆ
มากมายผูกพันจิตเอาไว้ และเมื่อมานั่งปฏิบัติธรรม ทำให้ปฏิบัติได้ไม่ดี
จิตไม่เข้าถึงความเป็นสมาธิ และไม่ได้รับผลจากการปฏิบัติ
ดังนั้นเพื่อให้สามารถปฏิบัติธรรมได้ดีจึงต้องมีการปรับใจ
ด้วยการทำอารมณ์ให้เกิดความสบาย
เมื่อใจสบายก็จะทำให้ใจพัฒนาจนละเอียดอ่อนไปตามลำดับ
在日常的生活中,无论是人类个人的私事,还是动物、物品以及各 种各样的工作等,都会吸引我们的心脱离出身体。像如此的这些事情都 将会影响我们的心,让我们的心不适合于修行禅定。因为心系各种各样 的事情,于是会表现出各种不安、挣扎和散乱的情绪。同时在佛法修行 的时候,就得不到好的效果,心也不能证入宁静,最后得不到好的修行 成就。因此,为了让修行获得优异的效果,必须懂得调整心,让自己拥 有轻松愉快的心情。当心感觉舒服后会逐渐变得柔软与细腻。
在日常的生活中,无论是人类个人的私事,还是动物、物品以及各 种各样的工作等,都会吸引我们的心脱离出身体。像如此的这些事情都 将会影响我们的心,让我们的心不适合于修行禅定。因为心系各种各样 的事情,于是会表现出各种不安、挣扎和散乱的情绪。同时在佛法修行 的时候,就得不到好的效果,心也不能证入宁静,最后得不到好的修行 成就。因此,为了让修行获得优异的效果,必须懂得调整心,让自己拥 有轻松愉快的心情。当心感觉舒服后会逐渐变得柔软与细腻。
3.3 ประเภทของการปรับใจ
3.3 调整心的种类
การปรับใจ เพื่อการทำสมาธินั้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ
1.การปรับใจในการดำรงชีวิตประจำวันเป็นการปรับความคิด คำพูด และการกระทำของตนเองในชีวิตประจำวันให้เป็นสัปปายะคือ เกื้อหนุนต่อการปฏิบัติธรรม รวมทั้งเป็นการสังเกตเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวที่เกิดขึ้นซึ่งมีผลต่อสภาพใจ เพื่อพิจารณาและแก้ไขเหตุการณ์ภายนอกเหล่านั้นเพื่อรักษาสภาวะใจให้คงที่ อีกทั้งยังเป็นการแก้ไขสิ่งที่จะทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีขึ้นกับใจ
2.การปรับใจในขณะทำสมาธิเป็นการทำใจให้พร้อมเข้าสู่สภาวธรรมภายใน
为了修习禅定而调整心,可以分为两种,分别是:
1.在日常生活中调整心,也就是对自己日常的想法、话语和行为进行调 整,以便更加的协调。因为这样将有助于佛法修行,甚至还能观察到 我们身边发生的的各种事情。然而这也将会对我们的心有一定的影响, 但最终的目的也是为了分析和改正外在的错误,保持好的心情,以及 解决让心产生不良影响的事情。
2.在禅定中调整心,是为了让心能够做好证入内在法身的准备。
1.การปรับใจในการดำรงชีวิตประจำวันเป็นการปรับความคิด คำพูด และการกระทำของตนเองในชีวิตประจำวันให้เป็นสัปปายะคือ เกื้อหนุนต่อการปฏิบัติธรรม รวมทั้งเป็นการสังเกตเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวที่เกิดขึ้นซึ่งมีผลต่อสภาพใจ เพื่อพิจารณาและแก้ไขเหตุการณ์ภายนอกเหล่านั้นเพื่อรักษาสภาวะใจให้คงที่ อีกทั้งยังเป็นการแก้ไขสิ่งที่จะทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีขึ้นกับใจ
2.การปรับใจในขณะทำสมาธิเป็นการทำใจให้พร้อมเข้าสู่สภาวธรรมภายใน
为了修习禅定而调整心,可以分为两种,分别是:
1.在日常生活中调整心,也就是对自己日常的想法、话语和行为进行调 整,以便更加的协调。因为这样将有助于佛法修行,甚至还能观察到 我们身边发生的的各种事情。然而这也将会对我们的心有一定的影响, 但最终的目的也是为了分析和改正外在的错误,保持好的心情,以及 解决让心产生不良影响的事情。
2.在禅定中调整心,是为了让心能够做好证入内在法身的准备。
3.4 วิธีการปรับใจ
การปรับใจมี 2 แบบตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งแต่ละวิธีมีวิธีการปรับใจดังต่อไปนี้
3.4 调整心的方法
上述说到关于调整心可以分为两种类,而各种类的调整方法如下:
3.4 调整心的方法
上述说到关于调整心可以分为两种类,而各种类的调整方法如下:
3.4.1 วิธีการปรับใจในการดำรงชีวิตประจำวัน
3.4.1在日常生活中调整心
เนื่องจากในแต่ละวัน วิถีชีวิตของเราจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับคน สัตว์
สิ่งของ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ซึ่งทำให้อารมณ์ของเรามีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่เสมอๆ บางครั้งก็สุข
เบิกบาน ดีอกดีใจ แต่บางครั้งก็หงุดหงิด โกรธ ฟุ้งซ่าน เครียด ทุกข์ใจ
ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อการปฏิบัติ โดยเฉพาะเมื่อเราจะนั่งสมาธิ
ดังนั้นการปรับใจในชีวิตประจำวันนี้จะช่วยรักษาอารมณ์และสภาพของใจเราให้
พร้อมต่อการปฎิบัติธรรม ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้
每天从早到晚,我们的生活方式都与人、动物和物品有着紧密的联 系。因此,这会让我们的心情来回不断地改变。有时会感觉到非常的幸 福快乐,但有时又会感觉到非常的暴躁、愤怒、紧张、忧愁以及胡思乱 想。以上这些情绪都会影响到我们的修行,特别是在我们即将禅定的时 候。因此在日常生活中调整心,将有助于我们保持良好的情绪和心态, 让我们顺利的完成佛法修行。具体方法如下:
1.) หัดมองโลกตามความเป็นจริง
การมองเช่นนี้จะทำให้เราเห็นความเป็นจริงของโลก ไม่ใช่ว่าจะมองในแง่ดีหรือในแง่ร้าย แต่ให้มองว่าความเป็นจริงของโลกนี้มีธรรมอยู่ 8 ประการ ( โลกธรรม 8 ) คือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีคนสรรเสริญ มีคนนินทา มีสุข มีทุกข์ ธรรมทั้ง 8 ประการนี้ จะวนเวียนอยู่ในชีวิตของเราตลอดเวลา เราจะต้องไม่หวั่นไหว ในเวลาที่สิ่งเหล่านี้มากระทบ แต่ให้ทำใจเป็นกลางๆ ทำใจให้นิ่งๆ เหมือนผู้เฒ่าเจนโลกมองโลก
1)以如实之见的态度看世界
以如实之见的态度看世界,将会让我们看见一个真实的世界。不是 让我们只看到好的方面或者不好的方面,而是要看到一个实实在在的世 界,它分为八种类型(八风),分别为:利,衰,誉,毁,称,讥,乐,苦。 这八项会一直的环绕在我们的生活中。但是我们也不必惊慌,当遭遇到 这些时,我们要保持平常心,让心宁静,以智者的眼光去看待世界。
มีเรื่องเล่าว่ามีผู้เฒ่าเจนโลกท่านหนึ่ง อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน วันหนึ่งม้าของผู้เฒ่าหายไป ชาวบ้านจึงเข้ามาหาท่านผู้เฒ่าและกล่าวแสดงความเสียใจว่า “ ขอแสดงความเสียใจด้วยที่ม้าของท่านหายไป” ผู้เฒ่าเจนโลกทำหน้าเฉยๆ และบอกว่า “ ในสิ่งที่ไม่ดี อาจจะมีสิ่งที่ดีอยู่ก็ได้” หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ ม้าตัวนั้นก็ได้กลับมา พร้อมกับพาม้าตัวเมียมาด้วย ชาวบ้านจึงเข้าไปหาท่านผู้เฒ่าและกล่าวแสดงความดีใจว่า “ แต่ก่อนม้าของท่านหายไป เดี๋ยวนี้กลับมาพร้อมกับนำม้าตัวเมียกลับมาด้วย ขอแสดงความยินดีด้วย” ผู้เฒ่าเจนโลกทำหน้าเฉยๆ และบอกว่า “ ในสิ่งที่ดี อาจมีสิ่งที่ไม่ดีอยู่ก็ได้” หลังจากนั้น 3 วัน ลูกชายของท่านผู้เฒ่าได้นำเอาม้าตัวใหม่ไปฝึกขี่ในทุ่งนา แล้วเขาก็พลัดตกจากม้าขาหัก ผู้เฒ่าเจนโลกบอกว่า “ ในสิ่งที่ไม่ดี อาจมีสิ่งที่ดีอยู่ก็ได้” ผ่านไปหลายเดือน ทางการประกาศข่าวแจ้งให้ผู้ชายในหมู่บ้านออกไปเกณฑ์ทหาร เนื่องจากกำลังมีสงครามจลาจลเกิดขึ้นที่ชายแดน ชายในหมู่บ้านต้องออกไปทำการสู้รบหมด ยกเว้น ลูกชายของผู้เฒ่าเจนโลกที่ขาเจ็บจึงไม่ได้ไปสู้รบยังชายแดน
ดังนั้น จากตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เราเห็นว่า โลกของเรามีดี มีร้าย มีได้ มีเสีย เราจึงควร หัดมองโลกตามความเป็นจริง เพื่อจะได้ทำให้ใจเรามั่นคง ไม่ซัดส่ายไปตามกระแสโลก
有一个故事,在一座村庄中住着一位经验丰富的老人家。有一天, 他的马走丢了。村民就来到他家中,非常同情的对智者说:“我对您丢失马的这件事,表示非常的同情。”而老人家却一本正经的回答道:“塞 翁失马,焉知非福”。一个星期之后,那只丢失的那匹马真的回来了, 而且身边还带着一只母马。村民又来到智者的家中对他表示祝贺说:“之 前您的马丢失了,现在回来了,而且还带回了一只母马,真是祝贺你呀” ! 而老人家也还是以非常平静的表情回答说:“福过祸生,乐极生悲”。 在这之后的第三天,智者的儿子骑着那只新母马去田野,结果失足跌倒, 腿被摔断了。智者却说:“塞翁失马,焉知非福”。几个月过去之后, 因为在边境地区爆发战争,所以国家颁布公告,征招村里的所有男子去 参军打仗。最后,村里的所有的壮丁都被征招去参军打仗了,除了一位 男子没有被招去参军,那位就是老人家的儿子,因为他那摔断的腿还没 有康复。
由以上这个故事,我们可以看到:我们的世界有好也有坏;有得必 有失。因此,我们应该以如实之见的态度看世界,这样将会让我们安稳, 而不会随波逐流。
2.) มองมนุษย์ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมโลก
2)把所有的人都看成同胞
ให้มองมนุษย์ทุกคนว่าเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย จะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสามี ภรรยา พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บุตร ธิดา หรือเพื่อนร่วมงาน ให้มองว่าเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เสมอเหมือนกันทุกคน ให้เรามีความปรารถนาดีแก่เพื่อนเราทุกๆ คนที่อยู่ใกล้ จะทำให้เราได้ความสบายใจ ใจเราจะสบาย ไม่หงุดหงิดง่าย ไม่ฉุนเฉียวง่าย ไม่เจ้าอารมณ์ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน อยู่ที่ไหน นั่ง นอน ยืน เดิน ก็จะรู้สึกเหมือนมีมิตรสหายอยู่ล้อมรอบตัว ทำให้เกิดอารมณ์สบายเวลานั่งสมาธิ ใจจะไม่ติดเรื่องจุกจิก เรื่องปลีกย่อยต่างๆ
把所有的人都看成是自己生、老、病、死的患难之友,无论是哪个 人,就算是丈夫、妻子、父亲、母亲、爷爷、奶奶、外公、外婆、儿子、 女儿或者同事也一样,都将他们看作难友。每个人都会经历生、老、病、 死,希望我们对身边的每一个人都怀有善意,这样做将会让我们收获快 乐,心情舒畅,而不会轻易地急躁、愤怒,也不会成为多愁善感的人。 不管我们去哪里,身处哪里,还是坐、卧、立、行也都会感觉,有很多 的朋友环绕在自己的身边。同时也会让我们在禅定的时候,拥有轻松舒 服的心情,而不会心系着各种各样琐碎的事。
3.) มองโลกให้ว่างเปล่า 3)将世界看成是空虚的
คือมองว่าไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร แม้เราจะต้องทำมาหากิน ก็ทำให้เต็มที่ แต่ก็ให้มองว่าในการทำมาหากิน เรามีวัตถุประสงค์ก็เพื่อเอาปัจจัย 4 มาหล่อเลี้ยงร่างกาย เราไม่ควรยึดติด ทุกข์ กังวล เครียด กับการแสวงหา หรือการได้มามากจนเกินไป เรื่องราวของคน สัตว์ สิ่งของรอบๆ ตัวเรา ก็เช่นเดียวกัน มีการเปลี่ยนแปลงไปเสมอ ลูก ภรรยา เพื่อน สิ่งของของเรา เราก็ไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ทั้งหมด แม้ตัวของเราเองก็ยังไม่สามารถบังคับบัญชาได้ยังต้องเจ็บป่วย ชรา ไปตามกาลเวลา ดังนั้น ในโลกนี้จึงไม่ควรไปยึดติด เป็นจริงเป็นจังกับอะไรมากนัก
将世界看成是空虚的,没有任何实体,就算是要谋生,大可尽力而 为。但应将四事(衣服、饮食、卧具、医药)看作是为了维持身体而已, 而不应过于依赖、担心和紧张于谋生这方面。在我们周遭的人,动物,事物也是一样,时时刻刻都在变化,无论是孩子或妻子,我们都不能随 心所欲地控制。连我们自己也不能控制,还是要随时间而病老。因此在 这个世界上,我们不应该去执著追求。
4.) การคิด พูด ทำ ในเรื่องละเอียด
เนื่องจากในแต่ละวันเราต้องพบปะกับผู้คน มีเรื่องที่จะต้องคิด ต้องสนทนากันมากมาย สิ่งที่คิด พูดและทำนี้ จะถูกเก็บเป็นภาพเอาไว้ในใจ ถ้าคิด พูด ทำในเรื่องที่ทำให้ใจหยาบก็จะทำให้สภาพใจหยาบกระด้างไปด้วย เรื่องที่ทำให้ใจหยาบมีมากมาย เป็นเรื่องที่เราเจอกันทุกคนเช่น เรื่องบ้าน ครอบครัว ลูก เงินทอง การฆ่ากัน การแก่งแย่ง ชู้สาว การคดโกง และปัญหาต่างๆ เป็นต้น เรื่องเหล่านี้ฟังแล้ว พูดแล้ว จะนำความร้อนใจมาให้ และจะมีผลต่อสภาพจิตใจ เมื่อถึงคราวมานั่งสมาธิก็จะมีผลทำให้ใจไม่สงบ ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักคิด พูดและทำเรื่องที่ละเอียด เรื่องละเอียดก็คือ เรื่องเกี่ยวกับการสร้างความดี การสร้างบุญ การปฏิบัติธรรม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ใจละเอียดอ่อน เมื่อถึงเวลามานั่งสมาธิก็จะทำให้นั่งได้ดี
4)想、说和做细腻的事情
由于我们每天都会见到很多人,所以会有很多的事情需要去想与交 流。那些要经过想、说和做的事情,都将会成为一种记忆储存在心里。 如果所想、所说和所做的事情会让心粗糙,那么心的状态也会随之粗糙 和僵硬起来。至于让心变得粗糙的事情会有很多,而且也是我们每一个 人都会遇见的。例如,家庭、亲人、儿子、金钱、相互残杀、竞争、恋 爱、奸诈、欺骗,以及各种各样的事情。这些事情在听完或讲述之后, 会产生焦急的情绪,并而影响到个人的精神状态,那么当到了禅定的时 候,就会让心无法宁静下来。所以我们应去要想、说和做那些细腻之事, 细腻的事情有做善事、修功德以及佛法修行等等。这些事情都会让心变 得细腻而柔软,当禅定的时候,就将会获得良好的效果。
5.) การเลือกคิดและมองแต่สิ่งที่ดี
5)选择想与看美好的事情
เนื่องจากเราจะต้องเจอกับคน เหตุการณ์ อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันซึ่งมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี สิ่งเหล่านี้จะเข้าไปเก็บเอาไว้ในใจของเรา แม้ว่าใจของเราจะมีอานุภาพมากพอที่จะเก็บเรื่องราวต่างๆ ไว้ได้ แต่ทางที่ดีเราควรจะเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีเอาไว้ในใจ มองแต่ในสิ่งที่ดี เป็นผู้ชาญฉลาดในการรักษาอารมณ์ให้ใสไว้ นอกจากนี้ธรรมชาติของใจเรา เมื่อถึงเวลาคิดก็คิดได้เรื่องเดียว เมื่อเกิดอารมณ์ก็เกิดได้คราวละเพียงอารมณ์เดียว เราจึงควรจะเลือกเก็บแต่สิ่งทีดีงามเอาไว้ในใจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ใจของเราคุ้นกับภาพที่ดีงาม ดังตัวอย่างเรื่องของปลากัดดังต่อไปนี้
在日常生活中,我们总会遇到各种各样好与不好的人、事与情绪, 而这些也将会保留在我们的心中。即使我们的心有容量可以储存各种各 样的事情,但是最好的方式就是,只选择保留好的东西在心中,只看到 美好的东西,成为一位懂得保持良好情绪的智者。除此之外,我们心灵 的本质,在想事情时,也只会想一件事,当有情绪时,也只会产生相对 的情绪。所以我们应该将美好的东西保留在心中,让我们的心习惯于美 好的画面,就如“斗鱼”故事一般。
ลุงคนหนึ่งมีอาชีพเลี้ยงปลากัด ปลากัดของลุงเป็นที่เลื่องลือว่ามีสีสันสวยงามมาก ไม่ว่าจะส่งเข้าประกวดครั้งใด ก็คว้ารางวัลทุกครั้ง มีผู้สังเกตว่าปลากัดของลุงไม่เพียงแต่มีสีสันสดสวยทั้งสีน้ำเงิน สีเขียว สีม่วง สีแดงเท่านั้น แต่ยังมีสีสันที่แปลกตา เช่น สีเผือก สีชมพู หรือแม้แต่สีทอง
从前有一位老伯伯,他以饲养斗鱼为生,传说他的斗鱼色彩斑斓, 非常的漂亮。不管是哪一次比赛,都能够很轻松的获得名次。有人观察 说:“老伯伯的斗鱼五花八门,不仅有蓝色、绿色、紫色和红色,还会 有其他新奇的色彩,例如芋头色、粉红色或金色。
ลุงมักจะถูกถามว่า ได้พันธุ์ปลามาจากไหน หรือมีวิธีปรับปรุงพันธุ์ปลาอย่างไร จึงได้ปลากัดที่สวยงามเช่นนี้ ลุงก็จะตอบว่า ไม่ได้เอาพันธุ์ปลามาจากไหนเลย แต่มีวิธีการปรับปรุงพันธุ์ง่ายๆ คือ อยากได้ปลากัดมีลักษณะสีสันอย่างไร ลุงก็ให้คนวาดรูปปลากัดให้ โดยลุงจะบอกให้เขาระบายสีสันต่างๆ ตามที่ลุงต้องการ จากนั้นลุงก็จะเอารูปวาดไปตั้งไว้ให้แม่ปลากัดดู แม่ปลากัดก็ดูรูปปลากัดสวยๆ นั้นทุกวัน
老伯伯经常被问:“从哪里得到的这些鱼苗,或者用什么方法来配 种,才会得到如此漂亮的鱼苗。老伯伯就回答道:“并没有得到什么奇 异的鱼苗,只是利用了一个简单易行的配种方式而已。就是如果想要得 到什么样色彩的鱼,就让绘画的人帮忙画出自己想要的那种鱼,然后图 上各种各样的颜色。接下来再将完成的画拿去给斗鱼妈妈看,之后,斗 鱼妈妈每天都望着那张漂亮的小斗鱼画。
เมื่อถึงเวลาแม่ปลากัดออกลูกมา ก็จะมีลูกปลากัดส่วนหนึ่งที่มีลักษณะสีสันสวยงามตามแบบที่ลุงต้องการอย่าง น่าอัศจรรย์ โดยที่ไม่ต้องใช้วิชาพันธุศาสตร์ ลุงก็สามารถปรับปรุงพันธุ์ปลาได้ โดยการนำวิชาวิทยาศาสตร์ทางใจมาใช้
当斗鱼妈妈生产时,老伯伯就神奇的发现,生下来的部分小鱼色彩, 跟他原来想要得到的那种一模一样。因此,不需要按照遗传学来配种, 老伯伯也能够成功的配种,那便是使用一种心理科学的方法。
จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า หากใจได้รับสิ่งที่ดี ก็จะเกิดพลังที่ดี พลังที่สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นได้ ดังเช่น แม่ปลากัดที่คุ้นเคยกับภาพวาดที่มีสีสันสวยงามจนเก็บบันทึกไว้เป็นภาพในใจ และในที่สุด ใจก็ควบคุมร่างกายให้สร้างสารพันธุกรรมตามนั้นขึ้นมา ใจของเราก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราก็เพราะภาพในใจที่เราสั่งสมมา ดังนั้นเราจึงควรเลือกเหตุการณ์ที่ดีๆ คนที่ดีๆ อารมณ์ที่ดีๆ เก็บไว้อันจะเป็นปัจจัย สนับสนุนต่อการนั่งสมาธิ
从上面这个例子中我们可以得知,如果心能够接收到好的东西,那 么它就会有一股力量去产生出美好的东西。就如同斗鱼妈妈习惯了画中 色彩漂亮的小斗鱼,于是它就会将这个画面保存在心中,最后由心去控 制身体,生产出漂亮的小斗鱼。我们的心也是一样,产生在我们身上的 事情就是因为我们累积下来的画面。因此,我们应该选择保留好的事情、 人物和情绪,让其成为积极支持和促进我们禅定的因素。
每天从早到晚,我们的生活方式都与人、动物和物品有着紧密的联 系。因此,这会让我们的心情来回不断地改变。有时会感觉到非常的幸 福快乐,但有时又会感觉到非常的暴躁、愤怒、紧张、忧愁以及胡思乱 想。以上这些情绪都会影响到我们的修行,特别是在我们即将禅定的时 候。因此在日常生活中调整心,将有助于我们保持良好的情绪和心态, 让我们顺利的完成佛法修行。具体方法如下:
1.) หัดมองโลกตามความเป็นจริง
การมองเช่นนี้จะทำให้เราเห็นความเป็นจริงของโลก ไม่ใช่ว่าจะมองในแง่ดีหรือในแง่ร้าย แต่ให้มองว่าความเป็นจริงของโลกนี้มีธรรมอยู่ 8 ประการ ( โลกธรรม 8 ) คือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีคนสรรเสริญ มีคนนินทา มีสุข มีทุกข์ ธรรมทั้ง 8 ประการนี้ จะวนเวียนอยู่ในชีวิตของเราตลอดเวลา เราจะต้องไม่หวั่นไหว ในเวลาที่สิ่งเหล่านี้มากระทบ แต่ให้ทำใจเป็นกลางๆ ทำใจให้นิ่งๆ เหมือนผู้เฒ่าเจนโลกมองโลก
1)以如实之见的态度看世界
以如实之见的态度看世界,将会让我们看见一个真实的世界。不是 让我们只看到好的方面或者不好的方面,而是要看到一个实实在在的世 界,它分为八种类型(八风),分别为:利,衰,誉,毁,称,讥,乐,苦。 这八项会一直的环绕在我们的生活中。但是我们也不必惊慌,当遭遇到 这些时,我们要保持平常心,让心宁静,以智者的眼光去看待世界。
มีเรื่องเล่าว่ามีผู้เฒ่าเจนโลกท่านหนึ่ง อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน วันหนึ่งม้าของผู้เฒ่าหายไป ชาวบ้านจึงเข้ามาหาท่านผู้เฒ่าและกล่าวแสดงความเสียใจว่า “ ขอแสดงความเสียใจด้วยที่ม้าของท่านหายไป” ผู้เฒ่าเจนโลกทำหน้าเฉยๆ และบอกว่า “ ในสิ่งที่ไม่ดี อาจจะมีสิ่งที่ดีอยู่ก็ได้” หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ ม้าตัวนั้นก็ได้กลับมา พร้อมกับพาม้าตัวเมียมาด้วย ชาวบ้านจึงเข้าไปหาท่านผู้เฒ่าและกล่าวแสดงความดีใจว่า “ แต่ก่อนม้าของท่านหายไป เดี๋ยวนี้กลับมาพร้อมกับนำม้าตัวเมียกลับมาด้วย ขอแสดงความยินดีด้วย” ผู้เฒ่าเจนโลกทำหน้าเฉยๆ และบอกว่า “ ในสิ่งที่ดี อาจมีสิ่งที่ไม่ดีอยู่ก็ได้” หลังจากนั้น 3 วัน ลูกชายของท่านผู้เฒ่าได้นำเอาม้าตัวใหม่ไปฝึกขี่ในทุ่งนา แล้วเขาก็พลัดตกจากม้าขาหัก ผู้เฒ่าเจนโลกบอกว่า “ ในสิ่งที่ไม่ดี อาจมีสิ่งที่ดีอยู่ก็ได้” ผ่านไปหลายเดือน ทางการประกาศข่าวแจ้งให้ผู้ชายในหมู่บ้านออกไปเกณฑ์ทหาร เนื่องจากกำลังมีสงครามจลาจลเกิดขึ้นที่ชายแดน ชายในหมู่บ้านต้องออกไปทำการสู้รบหมด ยกเว้น ลูกชายของผู้เฒ่าเจนโลกที่ขาเจ็บจึงไม่ได้ไปสู้รบยังชายแดน
ดังนั้น จากตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เราเห็นว่า โลกของเรามีดี มีร้าย มีได้ มีเสีย เราจึงควร หัดมองโลกตามความเป็นจริง เพื่อจะได้ทำให้ใจเรามั่นคง ไม่ซัดส่ายไปตามกระแสโลก
有一个故事,在一座村庄中住着一位经验丰富的老人家。有一天, 他的马走丢了。村民就来到他家中,非常同情的对智者说:“我对您丢失马的这件事,表示非常的同情。”而老人家却一本正经的回答道:“塞 翁失马,焉知非福”。一个星期之后,那只丢失的那匹马真的回来了, 而且身边还带着一只母马。村民又来到智者的家中对他表示祝贺说:“之 前您的马丢失了,现在回来了,而且还带回了一只母马,真是祝贺你呀” ! 而老人家也还是以非常平静的表情回答说:“福过祸生,乐极生悲”。 在这之后的第三天,智者的儿子骑着那只新母马去田野,结果失足跌倒, 腿被摔断了。智者却说:“塞翁失马,焉知非福”。几个月过去之后, 因为在边境地区爆发战争,所以国家颁布公告,征招村里的所有男子去 参军打仗。最后,村里的所有的壮丁都被征招去参军打仗了,除了一位 男子没有被招去参军,那位就是老人家的儿子,因为他那摔断的腿还没 有康复。
由以上这个故事,我们可以看到:我们的世界有好也有坏;有得必 有失。因此,我们应该以如实之见的态度看世界,这样将会让我们安稳, 而不会随波逐流。
2.) มองมนุษย์ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมโลก
2)把所有的人都看成同胞
ให้มองมนุษย์ทุกคนว่าเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย จะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสามี ภรรยา พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บุตร ธิดา หรือเพื่อนร่วมงาน ให้มองว่าเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เสมอเหมือนกันทุกคน ให้เรามีความปรารถนาดีแก่เพื่อนเราทุกๆ คนที่อยู่ใกล้ จะทำให้เราได้ความสบายใจ ใจเราจะสบาย ไม่หงุดหงิดง่าย ไม่ฉุนเฉียวง่าย ไม่เจ้าอารมณ์ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน อยู่ที่ไหน นั่ง นอน ยืน เดิน ก็จะรู้สึกเหมือนมีมิตรสหายอยู่ล้อมรอบตัว ทำให้เกิดอารมณ์สบายเวลานั่งสมาธิ ใจจะไม่ติดเรื่องจุกจิก เรื่องปลีกย่อยต่างๆ
把所有的人都看成是自己生、老、病、死的患难之友,无论是哪个 人,就算是丈夫、妻子、父亲、母亲、爷爷、奶奶、外公、外婆、儿子、 女儿或者同事也一样,都将他们看作难友。每个人都会经历生、老、病、 死,希望我们对身边的每一个人都怀有善意,这样做将会让我们收获快 乐,心情舒畅,而不会轻易地急躁、愤怒,也不会成为多愁善感的人。 不管我们去哪里,身处哪里,还是坐、卧、立、行也都会感觉,有很多 的朋友环绕在自己的身边。同时也会让我们在禅定的时候,拥有轻松舒 服的心情,而不会心系着各种各样琐碎的事。
3.) มองโลกให้ว่างเปล่า 3)将世界看成是空虚的
คือมองว่าไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร แม้เราจะต้องทำมาหากิน ก็ทำให้เต็มที่ แต่ก็ให้มองว่าในการทำมาหากิน เรามีวัตถุประสงค์ก็เพื่อเอาปัจจัย 4 มาหล่อเลี้ยงร่างกาย เราไม่ควรยึดติด ทุกข์ กังวล เครียด กับการแสวงหา หรือการได้มามากจนเกินไป เรื่องราวของคน สัตว์ สิ่งของรอบๆ ตัวเรา ก็เช่นเดียวกัน มีการเปลี่ยนแปลงไปเสมอ ลูก ภรรยา เพื่อน สิ่งของของเรา เราก็ไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ทั้งหมด แม้ตัวของเราเองก็ยังไม่สามารถบังคับบัญชาได้ยังต้องเจ็บป่วย ชรา ไปตามกาลเวลา ดังนั้น ในโลกนี้จึงไม่ควรไปยึดติด เป็นจริงเป็นจังกับอะไรมากนัก
将世界看成是空虚的,没有任何实体,就算是要谋生,大可尽力而 为。但应将四事(衣服、饮食、卧具、医药)看作是为了维持身体而已, 而不应过于依赖、担心和紧张于谋生这方面。在我们周遭的人,动物,事物也是一样,时时刻刻都在变化,无论是孩子或妻子,我们都不能随 心所欲地控制。连我们自己也不能控制,还是要随时间而病老。因此在 这个世界上,我们不应该去执著追求。
4.) การคิด พูด ทำ ในเรื่องละเอียด
เนื่องจากในแต่ละวันเราต้องพบปะกับผู้คน มีเรื่องที่จะต้องคิด ต้องสนทนากันมากมาย สิ่งที่คิด พูดและทำนี้ จะถูกเก็บเป็นภาพเอาไว้ในใจ ถ้าคิด พูด ทำในเรื่องที่ทำให้ใจหยาบก็จะทำให้สภาพใจหยาบกระด้างไปด้วย เรื่องที่ทำให้ใจหยาบมีมากมาย เป็นเรื่องที่เราเจอกันทุกคนเช่น เรื่องบ้าน ครอบครัว ลูก เงินทอง การฆ่ากัน การแก่งแย่ง ชู้สาว การคดโกง และปัญหาต่างๆ เป็นต้น เรื่องเหล่านี้ฟังแล้ว พูดแล้ว จะนำความร้อนใจมาให้ และจะมีผลต่อสภาพจิตใจ เมื่อถึงคราวมานั่งสมาธิก็จะมีผลทำให้ใจไม่สงบ ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักคิด พูดและทำเรื่องที่ละเอียด เรื่องละเอียดก็คือ เรื่องเกี่ยวกับการสร้างความดี การสร้างบุญ การปฏิบัติธรรม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ใจละเอียดอ่อน เมื่อถึงเวลามานั่งสมาธิก็จะทำให้นั่งได้ดี
4)想、说和做细腻的事情
由于我们每天都会见到很多人,所以会有很多的事情需要去想与交 流。那些要经过想、说和做的事情,都将会成为一种记忆储存在心里。 如果所想、所说和所做的事情会让心粗糙,那么心的状态也会随之粗糙 和僵硬起来。至于让心变得粗糙的事情会有很多,而且也是我们每一个 人都会遇见的。例如,家庭、亲人、儿子、金钱、相互残杀、竞争、恋 爱、奸诈、欺骗,以及各种各样的事情。这些事情在听完或讲述之后, 会产生焦急的情绪,并而影响到个人的精神状态,那么当到了禅定的时 候,就会让心无法宁静下来。所以我们应去要想、说和做那些细腻之事, 细腻的事情有做善事、修功德以及佛法修行等等。这些事情都会让心变 得细腻而柔软,当禅定的时候,就将会获得良好的效果。
5.) การเลือกคิดและมองแต่สิ่งที่ดี
5)选择想与看美好的事情
เนื่องจากเราจะต้องเจอกับคน เหตุการณ์ อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันซึ่งมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี สิ่งเหล่านี้จะเข้าไปเก็บเอาไว้ในใจของเรา แม้ว่าใจของเราจะมีอานุภาพมากพอที่จะเก็บเรื่องราวต่างๆ ไว้ได้ แต่ทางที่ดีเราควรจะเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีเอาไว้ในใจ มองแต่ในสิ่งที่ดี เป็นผู้ชาญฉลาดในการรักษาอารมณ์ให้ใสไว้ นอกจากนี้ธรรมชาติของใจเรา เมื่อถึงเวลาคิดก็คิดได้เรื่องเดียว เมื่อเกิดอารมณ์ก็เกิดได้คราวละเพียงอารมณ์เดียว เราจึงควรจะเลือกเก็บแต่สิ่งทีดีงามเอาไว้ในใจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ใจของเราคุ้นกับภาพที่ดีงาม ดังตัวอย่างเรื่องของปลากัดดังต่อไปนี้
在日常生活中,我们总会遇到各种各样好与不好的人、事与情绪, 而这些也将会保留在我们的心中。即使我们的心有容量可以储存各种各 样的事情,但是最好的方式就是,只选择保留好的东西在心中,只看到 美好的东西,成为一位懂得保持良好情绪的智者。除此之外,我们心灵 的本质,在想事情时,也只会想一件事,当有情绪时,也只会产生相对 的情绪。所以我们应该将美好的东西保留在心中,让我们的心习惯于美 好的画面,就如“斗鱼”故事一般。
ลุงคนหนึ่งมีอาชีพเลี้ยงปลากัด ปลากัดของลุงเป็นที่เลื่องลือว่ามีสีสันสวยงามมาก ไม่ว่าจะส่งเข้าประกวดครั้งใด ก็คว้ารางวัลทุกครั้ง มีผู้สังเกตว่าปลากัดของลุงไม่เพียงแต่มีสีสันสดสวยทั้งสีน้ำเงิน สีเขียว สีม่วง สีแดงเท่านั้น แต่ยังมีสีสันที่แปลกตา เช่น สีเผือก สีชมพู หรือแม้แต่สีทอง
从前有一位老伯伯,他以饲养斗鱼为生,传说他的斗鱼色彩斑斓, 非常的漂亮。不管是哪一次比赛,都能够很轻松的获得名次。有人观察 说:“老伯伯的斗鱼五花八门,不仅有蓝色、绿色、紫色和红色,还会 有其他新奇的色彩,例如芋头色、粉红色或金色。
ลุงมักจะถูกถามว่า ได้พันธุ์ปลามาจากไหน หรือมีวิธีปรับปรุงพันธุ์ปลาอย่างไร จึงได้ปลากัดที่สวยงามเช่นนี้ ลุงก็จะตอบว่า ไม่ได้เอาพันธุ์ปลามาจากไหนเลย แต่มีวิธีการปรับปรุงพันธุ์ง่ายๆ คือ อยากได้ปลากัดมีลักษณะสีสันอย่างไร ลุงก็ให้คนวาดรูปปลากัดให้ โดยลุงจะบอกให้เขาระบายสีสันต่างๆ ตามที่ลุงต้องการ จากนั้นลุงก็จะเอารูปวาดไปตั้งไว้ให้แม่ปลากัดดู แม่ปลากัดก็ดูรูปปลากัดสวยๆ นั้นทุกวัน
老伯伯经常被问:“从哪里得到的这些鱼苗,或者用什么方法来配 种,才会得到如此漂亮的鱼苗。老伯伯就回答道:“并没有得到什么奇 异的鱼苗,只是利用了一个简单易行的配种方式而已。就是如果想要得 到什么样色彩的鱼,就让绘画的人帮忙画出自己想要的那种鱼,然后图 上各种各样的颜色。接下来再将完成的画拿去给斗鱼妈妈看,之后,斗 鱼妈妈每天都望着那张漂亮的小斗鱼画。
เมื่อถึงเวลาแม่ปลากัดออกลูกมา ก็จะมีลูกปลากัดส่วนหนึ่งที่มีลักษณะสีสันสวยงามตามแบบที่ลุงต้องการอย่าง น่าอัศจรรย์ โดยที่ไม่ต้องใช้วิชาพันธุศาสตร์ ลุงก็สามารถปรับปรุงพันธุ์ปลาได้ โดยการนำวิชาวิทยาศาสตร์ทางใจมาใช้
当斗鱼妈妈生产时,老伯伯就神奇的发现,生下来的部分小鱼色彩, 跟他原来想要得到的那种一模一样。因此,不需要按照遗传学来配种, 老伯伯也能够成功的配种,那便是使用一种心理科学的方法。
จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า หากใจได้รับสิ่งที่ดี ก็จะเกิดพลังที่ดี พลังที่สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นได้ ดังเช่น แม่ปลากัดที่คุ้นเคยกับภาพวาดที่มีสีสันสวยงามจนเก็บบันทึกไว้เป็นภาพในใจ และในที่สุด ใจก็ควบคุมร่างกายให้สร้างสารพันธุกรรมตามนั้นขึ้นมา ใจของเราก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราก็เพราะภาพในใจที่เราสั่งสมมา ดังนั้นเราจึงควรเลือกเหตุการณ์ที่ดีๆ คนที่ดีๆ อารมณ์ที่ดีๆ เก็บไว้อันจะเป็นปัจจัย สนับสนุนต่อการนั่งสมาธิ
从上面这个例子中我们可以得知,如果心能够接收到好的东西,那 么它就会有一股力量去产生出美好的东西。就如同斗鱼妈妈习惯了画中 色彩漂亮的小斗鱼,于是它就会将这个画面保存在心中,最后由心去控 制身体,生产出漂亮的小斗鱼。我们的心也是一样,产生在我们身上的 事情就是因为我们累积下来的画面。因此,我们应该选择保留好的事情、 人物和情绪,让其成为积极支持和促进我们禅定的因素。
3.4.2 วิธีการปรับใจในขณะทำสมาธิ
ในช่วงเวลาที่ทำสมาธิ
นอกเหนือจากการปรับใจในขณะที่ดำเนินชีวิตประจำวันในแต่ละวันซึ่งมีผลทำให้ใจ
พร้อมที่จะเข้าถึงสมาธิแล้ว แม้ในขณะเวลานั่ง หากใจยังไม่พร้อม
ก็มีวิธีการที่ใช้ในการปรับใจเพื่อให้ใจเกิดความสบาย
ซึ่งความสบายในขณะทำสมาธิ มี 2 ระดับ คือ
3.4.2禅定中调整心方法
在禅定的时间里,除了在日常中调整心,准备好禅定的状态以外。 要是在禅定当中,如果心还是没有做好准备。也一样有方法来调整心, 让心产生舒适的感觉。因此,禅定时的舒适感有两个阶段,分别是:
1.ความสบายเบื้องต้น หมายถึง ความสบายที่เกิดจากความไม่ลำบาก ไม่เกร็ง ไม่ตึง นิ่งๆ เฉยๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เหมือนเดินฝ่าเปลวแดดมานั่งใต้ร่มไม้ ยังไม่ถึงกับสบายเลยทีเดียว ความสบายเบื้องต้นนี้จะเป็นฐานทำให้เกิดความสบายที่แท้จริง คือ หากว่าเราสามารถรักษาอารมณ์นิ่งๆ ให้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ตรงจุด นิ่งๆ เฉยๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ไปได้ จะเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ที่จะทำให้เกิดอาการโล่ง โปร่ง เบา และเกิดความสบายที่แท้จริง
1.初级的舒适感,意为:不用经过艰辛的、紧绷的过程而产生的舒服感 觉。自然地宁静,不乐不苦,就好像步行在烈日之下,刚刚得以坐在 树荫下,获得清凉的舒适感。这种初级的舒适感,是产生真正舒适感 的基础。也就是如果我们能够持续的保持自然宁静,不苦不乐,那么 将会是一个非常重要的转折点,而这个转折点也将会让心产生空旷和 轻巧的状态,从而产生真正的舒适感。
2.ความสบายแท้จริง จะเกิดความชุ่มฉ่ำ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการรักษาอารมณ์สบายเบื้องต้น ให้ต่อเนื่องกัน คืออารมณ์ที่นิ่งๆ เฉยๆ ต่อเนื่องกันไม่เผลอ ในที่สุดก็จะเข้าไปถึงความสบายที่ แท้จริงอีกระดับหนึ่งคือ มีลักษณะอาการที่ใจเริ่มจะขยาย เริ่มจะละเอียดลงไป จะรู้สึกว่าโล่งใจ ร่างกายเหมือนจะโปร่งๆ กลืนกันไปกับธรรมชาติได้ เหมือนเป็นวัตถุที่โปร่งแสง โปร่งใส โปร่งเบา เหมือนฟองสบู่ ฟองแชมพูที่เป่าเล่น อาการโล่งโปร่งเบา นี่เองคือความสบายที่แท้จริง
2.真正的舒适感会起到滋润的效果,是一种持续保持初级舒适感的结果。 要继续保持自然宁静的情绪且不疏忽,最后进入到另一层真正的舒适 感。那一层舒适的状态特征,好像心开始扩大、精细,也将感觉到心 很宽广,身体也好像变得很空旷,与大自然融合为一体。这就好像透 明与轻柔的肥皂泡或洗发水泡,一切都是空旷的,而这就是真正的舒 适感。
วิธีการที่ใช้ในการปรับใจนี้มีหลายวิธี ซึ่งผู้ปฏิบัติสามารถเลือกมาใช้ให้เหมาะสมกับจริตอัธยาศัย ของตน คือ
1.ทำใจให้ว่างๆ ให้นิ่งๆ ให้เฉยๆ ปลดปล่อยวางจากภารกิจ วิธีนี้เป็นวิธีลัดและเร็วที่สุดในการปรับใจ ดังตัวอย่าง
调整心的方法有许多种,因此,修行的人可以按照自己的性格选择 适合自己的方法:
1.让心空白、自然、宁静,放下所有的包袱,这种方法是调整心最快的 捷径,例子如下:
ตัวอย่างที่ 1 ใจที่เหมาะต่อการเข้าถึงธรรมนั้น จะต้องเป็นใจที่ปลอดโปร่ง ว่างเปล่าจากภารกิจทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเล่าเรียน ธุรกิจการงาน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไรทั้งหมดในโลกนี้ ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วางไว้ชั่วขณะ ทำประหนึ่งว่าเราอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีภารกิจเครื่องกังวลใจ แล้วก็ทำใจให้เบิกบาน แช่มชื่น สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส1)
例子一,适合证入佛法的心,一定是舒畅及卸下各种包袱的心。不管是 学业、工作、家庭或任何事情,都应该立即放下、释放出来。 就仿佛世界上只有我们一个人而已,没有任何的事情来让我们 牵挂。让心产生舒畅、愉快、透明、纯净、明亮的状态。1
ตัวอย่างที่ 2 ให้ทำใจของเราประหนึ่งว่าเราอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีภารกิจ ไม่มีเครื่องกังวลใจ ทำความรู้สึกว่า เราตายแล้วจากสิ่งเหล่านั้น ขณะนี้เราอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีภารกิจเครื่องกังวลใจอะไรทั้งสิ้น มีแต่กายและใจเท่านั้น ที่เราจะอาศัยประพฤติปฏิบัติ ทำใจหยุดนิ่งให้เข้าถึงธรรมกายภายใน เรามีสมบัติแค่ 2 สิ่งนี้เท่านั้น มีกายแล้วก็ใจ สองสิ่งนี้เท่านั้น ให้ลืมสิ่งแวดล้อมที่อยู่ข้างตัวของเราให้หมด ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็เอาใจหยุดนิ่งไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
例子二,让我们的心感觉好像世界上,只有我们一个人存在而已。没有 任何的包袱,了无牵挂,感觉自己对所有的事情都已经没有了 任何的感应。现在我们自己一个人处在这个世界上,没有任何 的东西来让我们的心牵挂,剩下的只有用来修行的身与心而已。 要想让心宁静的证入内在的法身,我们只有两件法宝,那就是 身与心。忘记我们身体周围的环境,忘记所有的一切,然后将 心安放在身体中心第七点。
ถึงแม้ว่าการทำเฉยๆ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่คนทั่วไปไม่คุ้นกับการไม่คิดอะไร ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีการ คิดเรื่องต่างๆ เช่นธรรมชาติ บทของธรรมะ หรือเรื่องอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้ใจสบาย
虽然自然的宁静是最好的方法,但一般人却无法不去想任何的事情。 因此,就采用意念各式各样的方法,例如大自然、佛法文章或各种事情, 来让心舒服起来。
2.นึกถึงธรรมชาติ เช่น ภูเขา น้ำตก ทะเล ที่ทำให้อารมณ์รู้สึกสบายปลอดโปร่ง มีอารมณ์ที่ อยากจะนั่งทำภาวนา ดังตัวอย่าง
“ ทำประหนึ่งว่าเราไม่เคยมีความคิดมาก่อน ไม่เคยเจอะเจอกับเหตุการณ์เหล่านั้นมาก่อน คล้ายกับเราอยู่คนเดียวในโลก ทำความรู้สึกอย่างนี้ให้ได้ซักหนึ่งหรือสองนาที ให้มีความรู้สึกว่า เราอยู่คนเดียวในโลกอย่างสบายๆ แล้วให้ลืมสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างเรา อากาศจะอบอ้าวก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ นึกว่าเรานั่งอยู่บนยอดเขาสูงๆ ที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ มีลมพัดเย็นสบาย แทนที่เราจะนึกว่าอากาศอบอ้าว เราก็คิดว่าเรานั่งอยู่ในที่สูงบนภูเขาสูงๆ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย ที่นั่งที่มันไม่นุ่มนวล เราก็นึกว่านั่งอยู่บนพรมที่สบายๆ ที่ให้คิดอย่างนี้เพื่อให้จิตใจปลอดโปร่งสบาย ไม่วิตก ไม่กังวลเรื่องราวอะไรทั้งสิ้น ใจเราจะได้แน่วแน่สู่เส้นทางสายกลางที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว2)
2.意念大自然,例如,山川、瀑布和大海,让我们的心情感觉到舒畅, 有想修习禅定的情绪,如下:
似乎我们之前未曾有过的想法,也不曾遇到过这样的事情,就是意 念自己仿佛一个人处在这个世界中,让这样的感觉维持一分钟或两分钟。
让自己感觉真的如同一个人舒服的处在这世界里,然后忘记自己周围的 环境,就算天气闷热也没关系,不要去在意它,想象我们坐在高高的山 顶上,有清新的空气,有微风拂来,凉爽而舒服,让它代替那种闷热的 天气。我们就想象自己坐在高高的山顶上,有优美的风景,天气很凉爽。 如果禅定的位置不柔软,那么我们就想象自己是坐在舒服的毛毯上,让 心感到轻松舒畅,而不去在意和牵挂其他的事情。如此,我们的心才会 坚定不移的静止在身体的中心点,也才能证入内在的三宝。1
3.แผ่เมตตา จะทำให้ใจของเราขยาย เบิกบาน และยังเหมาะสำหรับคนที่มักหงุดหงิด โกรธง่าย และมักมีอารมณ์ค้างเกี่ยวกับเรื่องความไม่พอใจในคน สัตว์ สิ่งของที่อยู่รอบตัว แล้วนำมาคิดต่อในขณะทำสมาธิ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
3.散发慈悲心会让我们的心扩大、舒畅。同时这种方法还适用于容易暴 躁,以及常常对人、动物和家庭感到不满意的人,然后将散发慈悲心 运用到禅定中,如下:
ตัวอย่างที่ 1 ทำใจให้เป็นกุศล บริสุทธิ์ ผ่องใส มีความรัก มีความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย และผู้ที่เป็นที่รักของเรา ตั้งแต่รักมาก รักปานกลาง รักน้อยๆ เฉยๆ ไม่ถึงกับเกลียด กระทั่งถึงผู้ที่เราเคยขุ่นมัว เคยขัดเคือง เราจะต้องมีความรู้สึกอย่างนี้กับคนที่เคยทำให้เรา ไม่สบายใจ ช้ำอกช้ำใจ ว่าฉันจะลืมเธอซะ ลืมเรื่องที่เธอเคยทำกับฉันเอาไว้ แล้วยังไม่พอ และขอให้เธอ มีความสุขด้วย ขอให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้านเลย ชีวิตเธอมีความสุข ครอบครัวเธอมีความสุข การงานเธอสำเร็จ สำเร็จทุกอย่างไปเลยแล้วยังไม่พอ จะต้องให้ความรักแก่ตัวของเราเอง โดยความรักที่ยิ่งใหญ่ คือรักตัวเรา รักตัวเรารักอย่างไร อย่าทำร้ายตัวของเรา ด้วยการนำสิ่งที่ทำให้ใจเราร้อน เราเศร้า เป็นทุกข์ ไม่สบายใจ จนกระทั่งท้อ หมดแรงที่จะสร้างความดีต่อไป จะต้องไม่มีอย่างนี้ด้วย3)
例子一,让我们的心拥有善德、纯净和光亮,对众生、事物以及我们所 爱的人,甚至那些曾经让我们糊涂与恼怒的人,拥有仁爱与善 意的期望,而不至于达到憎恨的地步。我们要对那些曾经让我 们不开心和痛心的人,感觉到自己将会忘记对方曾经做过的不 良之事。除此还不够,我们还希望对方得到幸福,祝福对方在 生活的各个方面都能够取得成功。对方的生命会幸福,家人会 幸福,事业也会成功。除了每一件事都会取得成功以外,还应 给予自己关爱,而最伟大的爱就是爱自身。如何去爱自己呢? 就是不要拿不好的事情来伤害自己,不要感到痛苦与忧伤,不 要对修善行感到气馁。2
ตัวอย่างที่ 2 แผ่เมตตาจิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย แผ่เมตตาจิตโดยนึกเบาๆ ให้สบายๆ ว่าขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่ไม่มีประมาณเหล่านั้น พ้นจากทุกข์โศกโรคภัย ให้พบแต่ความสุขกาย สุขใจ มีความสุขทั้งนั่ง ทั้งนอน ทั้งยืน ทั้งเดิน ทั้งหลับ ทั้งตื่นตลอดวัน ตลอดคืน ตลอดเวลาเลย ที่มีทุกข์ก็ให้พ้นทุกข์ ที่มีสุขแล้วก็ให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป นึกอย่างสบายๆ แผ่ไปให้หมด นึกให้กระแสแห่งความเมตตาของเรา ความปรารถนาดีของเรา เป็นแสงสว่างออกจากร่างกาย ออกจากใจของเรา ประหนึ่งว่าตัวเราเป็นศูนย์กลางของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย แผ่ออกไปเป็นแสงสว่างใหม่ๆ อาจจะเป็นความรู้สึกว่ามีแสงสว่างออกจากภายในกลางกายของเรา แล้วแผ่ขยายไปให้ทั่ว แต่ถ้าใครทำเป็นแล้วมันจะเป็นแสงสว่างจริงๆ ที่เราเห็นแจ้งด้วยใจของเรา เป็นแสงที่ละเอียดอ่อนนุ่มนวล เป็นพลังมวลแห่งความบริสุทธิ์ ประดุจแสงสว่างแห่งพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ แต่ว่ากระจ่างแจ่มจ้าเหมือนอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน คือ สว่างประดุจดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน แต่ว่าเย็นเหมือนแสงจันทร์นำความชุ่มชื่นเบิกบานให้เกิดขึ้นแก่สรรพสัตว์ สรรพสิ่งทั้งหลาย ให้นึกแผ่ไปแล้วก็ทำใจให้นิ่งๆ โล่งๆ ว่างๆ ใจจะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับพระรัตนตรัย แผ่ไปอย่างนี้ สักหนึ่ง หรือสองนาที4)
例子二,对众生散发圆满的慈悲心,同时伴随着善意的期望。散发慈悲 心时要轻轻的、舒服的意念,并默念:愿所有的众生离苦得乐。 无论是坐、卧、立、行、睡、醒,都一直拥有幸福。遇到痛苦 就远离痛苦,遇到幸福就会更加幸福,如此轻松舒服的意念, 不断地散发出去。意念让我们的慈悲心和美好愿望成为光亮, 并从体内的心中点散发出来。感觉似乎我们自身就是众生和万 物的中心,散放出光亮。刚开始可能会感觉到光亮是从我们的 身体中心散发出来,然后扩大到全世界。但是如果谁已经证入 法身,那么他将能看见真正的光亮。用自己的心看光亮,那是 细腻柔和的光,汇集着纯净的能源,好像月圆之夜皎洁的月亮, 但散发的光芒却有如正午的太阳。但夜晚时又好像月光一般, 滋润众生与万物。意念将光芒散发出去,然后让心变得宁静与 空旷,如此才
4.นึกถึงความจริงของสรรพสิ่งว่าตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ จะทำให้ใจของเราปลอดโปร่ง ตัดเครื่องผูกพันในใจให้หมดสิ้นไป
4.从三法印的法则中意念万物的真实性,这会让我们的心舒畅,而心中
的一切眷恋都将消除。
ตัวอย่างที่ 1 นึกถึงความจริงของสรรพสิ่งทั้งหลาย ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนเอาไว้ว่า สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งมวล จะเป็นสิ่งมีชีวิตก็ตามหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ท่านใช้คำว่าสังขารที่มีวิญญาณครอง หรือไม่มีวิญญาณครองก็ตาม ทุกสิ่งในโลกนี้จะเป็นคนเป็นสัตว์เป็นสิ่งของทั้งหมด ต้นไม้ ภูเขา บ้านเรือน โลกของเรา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวในอากาศ ผู้คนทั้งหมด พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติ สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งมวลเหล่านี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลายไป เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน เพราะว่าไม่คงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าเป็นตัวตนจริงๆ เป็นสาระเป็นแก่นสารจริงๆ แล้ว ต้องคงที่ ต้องไม่เปลี่ยนแปลง หรือถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็ดีขึ้นไป ยิ่งเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งดีขึ้นไปตามลำดับ เหมือนเพชรยิ่งแก่ยิ่งแข็ง เหมือนธรรมยิ่งสุขยิ่งใสยิ่งสว่างอย่างนั้น แต่ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งมวลไม่เป็นอย่างนั้น มันเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมสลายอยู่ตลอดเวลา
例子一,对于意念万物的真实性,佛陀曾经告诫说:万物,无论是有生 命的,还是没有生命的,都可用“有情与无情”的专有名词来 代替。世界上的万物无非是人、动物及物品,包括有树木、山 川、房子、太阳、月亮、星星,爸爸、妈妈、爷爷、奶奶、外 公、外婆,以及所有的众生。它们都是先产生,然后存在,最 后在慢慢的消逝,如此不断地变化,而无法永久的存在,是痛 苦,是非我。如果是真正的人身,有真正的正念与实体,就一 定是固定而不会改变。或如果改变也会变得更好,越是改变就 越会按照等级而变得更好。就像钻石越老越坚硬,也像佛法, 越快乐就越透明与光亮。但是,各种事物并非如此,他们会一 直不断的衰落消逝。
ให้เราคิดอย่างนี้สักหนึ่งหรือสองนาทีก่อนที่เราจะปฏิบัติธรรม พิจารณาในสิ่งทั้งหลายทั้งมวล แม้กระทั่งร่างกายที่เราอาศัยนั่งปฏิบัติธรรมอยู่นี้ ก็มีสภาพเช่นเดียวกัน คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เคลื่อนออกมาจากครรภ์มารดา เปลี่ยนแปลง เรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้ แล้วก็จะเปลี่ยนแปลงต่อไปจนกระทั่งไปสู่เชิงตะกอน เปลี่ยนกันไปอย่างนี้ หนึ่งหรือสองนาทีที่เราพิจารณาในสิ่งเหล่านี้ก่อนการฝึกใจให้หยุดให้นิ่ง จะช่วยให้ใจเราปลอดกังวล จะไม่ ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง เพราะว่าเราพิจารณาให้เห็นไปตามความเป็นจริง การพิจารณาอย่างนี้จะได้ใจที่ปลอดโปร่ง เป็นใจที่เหมาะต่อการปฏิบัติธรรม และไม่ช้าจะเข้าถึงธรรมะได้5)
在我们佛法修行前,让我们如此的意念一两分钟。观察世间万物, 即使是我们的身体,也是一样的现象。就是先产生、然后存在,最后消 逝,无常、苦和非我。先在母亲的腹中,再从母亲的腹中出来,然后不 断地变化,一直到最后的死亡。如此不断地变化,在练习心宁静前的一 两分钟,我们对万物如此的审定,将会帮助我们的心远离担忧,而不会
1法胜法师领导打坐(1993年5月2日) 对万物有任何的牵挂。因为我们是如实知见去审定,这样的审定将会让 心舒畅起来,从而适合去佛法修行,直至证入佛法。1
ตัวอย่างที่ 2 “ ก่อนที่เราจะปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย เราต้องทำใจของเรานี่ให้ปลอด กังวล ไม่ติดในคน สัตว์ สิ่งของ โดยพิจารณาด้วยปัญญาบริสุทธิ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนเอาไว้และที่ เป็นสัจธรรม คือเป็นความจริงว่าสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนมีการเปลี่ยนแปลงเป็น ปกติ ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ มีเชื้อแห่งความทุกข์ เป็นบ่อเกิด เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความทุกข์ เพราะความไม่เที่ยงนั้นยังไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีสาระแก่นสาร เป็นเพียงแค่เครื่องอาศัยชั่วคราวเท่านั้น จะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต มีวิญญาณครอง หรือว่าไม่มีวิญญาณครอง ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ชั่วคราว เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บังคับบัญชาก็ไม่ได้ อย่าดูอื่นไกล ดูของที่อยู่ในตัวเรา ตั้งแต่เส้นผมบนศีรษะ จะให้มันสวยมันงาม เหมือนเราอยู่ในวัยเจริญ ไม่ให้เปลี่ยนแปลง ไม่ให้มันเปลี่ยนสี ไม่ให้มันหลุดร่วง ให้มันสวยงาม คงอยู่ดั้งเดิมเหมือนวัยเจริญ มันก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และในที่สุดก็หลุดร่วงไป ฟันในปากก็ดี ในทำนองเดียวกัน ดวงตาก็ดี แต่เดิมนั้นก็ดูสดใส สดสวย ดูอะไรก็ชัดเจน ตอนหลังก็เปลี่ยนแปลงไปสู่ความไม่ชัดเจน เป็นฝ้าเป็นฟางดูแล้วไม่สวยงาม ผิวพรรณวรรณะแต่เดิมก็เต่งตึง ตอนหลังก็เหี่ยวย่น เราเห็นสัจธรรมตรงนี้ว่ามันตกอยู่ในไตรลักษณ์ อยู่ในสภาวะที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จึงเป็นเพียงแค่เครื่องอาศัย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะยึดมั่นถือมั่นว่านี่คือสาระ คือแก่นสาร คือของจริงของแท้
例子二,在修行禅定前,我们要让自己的心远离担忧,不会牵挂于任何 人、动物和物品。用纯洁的智慧去思考佛陀开示的教诲与真理, 认识其实众生与万物的变化都是自然普遍的。无法保存原来的 状态,那是苦之地,也是苦之因,因为无常还不是真正的形体, 而是一个没有实质的真理,只是一个暂时寄居的东西而已。人、 动物、物品,有生命或没有生命,有灵魂或者没有灵魂,都只 是暂时的而已,它会不停地变化,不能去强求。不用去看太远, 就看我们自身就好,例如头顶上的头发,想让它一直如年轻时 般乌黑漂亮,不想让它改变颜色,不想让它脱落,而让它亮丽 依然。但它还是会不停地变化,到最后就会脱落下来。眼睛也 一样,原先非常的明亮有神,看什么都很清晰,到了最后还是 变成看什么都模糊不清,看起来也不再炯炯有神。皮肤先前非 常的光滑,但到最后还是会萎缩。我们看到的这些真理,就处 在三法印的无常、苦、非我中。万物只是一个寄居的工具,因 此,我们不应该坚信那些是真正的实质,而只有涅槃才是真正 的真理。
เมื่อเรารู้ว่ามันเป็นเพียงแค่อาศัยและมีคุณสมบัติดังกล่าว ของอยู่ในตัวเราก็ดี เสื้อผ้า ปากกา แว่นตา ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไปสู่จุดสลายทั้งสิ้น เสื้อผ้าแต่เดิมก็มาจากต้นไม้ มาจากดิน มาจากต้นไม้ จากต้นไม้ก็มาสู่โรงงาน จากโรงงานก็มาสู่ร้านค้า จากร้านค้าก็มาสู่ตัวเรา จากตัวเราอยู่ไปนานๆ เข้า เกิดการเปลี่ยนแปลงชำรุดก็ลงไปสู่ที่พื้นบ้าน ไปเป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้าบ้าง เช็ดโน่นเช็ดนี่อะไรต่างๆ แล้วในที่สุดก็ลงไปสู่ถังขยะ จากถังขยะก็แปรสภาพออกไปสู่ดิน แยกย้ายสลายกันไป ไปสู่จุดสลายทั้งสิ้น
当我们知道一切都只是寄居,以及具有如上所述的条件。那么我们 身上的东西,无论是衣服、笔、眼镜以及每一样东西,都在不停地变化, 到最后也都会衰灭。衣服最开始的原料来自于树木,而树木来自于土地, 当树木进入工厂,再从工厂转到商店,又从商店又转到我们身上,然后 在我们身上穿了很久之后,破烂又就来当抹布,擦各种各样的东西,最 后被丢进垃圾桶,然后再由垃圾桶被丢到大地上,最后被大地给分解。
ปากกา แว่นตา อะไรต่างๆ ทรัพย์สินเงินทอง จะเป็นตึกรามบ้านช่อง รถราอะไรต่างๆ ต้องย้อน กลับไปสู่จุดสลายทั้งหมด มันมา มันอยู่ แล้วมันก็ไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วเสื่อมสลาย เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้ ใจเราจะได้เบาสบาย ปลอดกังวล เสื้อเรา แต่ไม่ใช่เสื้อของเรา ร่างกายเราแต่ไม่ใช่ร่างกายของเรา บ้านเราแต่ก็ไม่ใช่บ้านของเรา เพราะฉะนั้นเราจะบังคับบัญชาอะไรให้ได้ดังใจปรารถนาของเรามัน เป็นไปไม่ได้ นึกคิดก็ทุกข์เปล่า
笔、眼镜、财宝、楼房、车辆等东西,最后也都会被分解而消失。 它们生来、然后存在,最后消逝。产生、存在,然后就会消逝。当我们 对这些有所了解了之后,我们的心就会轻松舒服起来,以及远离担忧。 我们的衣服,但不是我们的衣服,我们的身体,但不是我们的身体,我 们的家,但不是我们的家。因此我们勉强的去梦想那些不可能达到的愿 望,那么也是白白痛苦。
พอเราคิดอย่างนี้เข้าใจ ก็จะได้ปลอดโปร่ง สบาย เมื่อเราเห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้เพื่อให้มองมุมกลับตรงกันข้ามว่า เมื่อเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เป็นสาระแก่นสาร เราก็ควรจะมุ่งแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระแก่นสาร ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอมตะ เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุขแล้วก็เป็นอิสระจากกิเลส เป็นชีวิตที่แท้จริงของเรา เป็นตัวจริงของเรา6)
万物都是无常性、苦性和无尽性,当我们能如此想,心就会舒畅开 朗起来。佛陀如此教导我们,是为了让我们换个角度来看问题,当我们 处在的环境是无常、苦和无我时,不是实质的真理。我们应追求实质的 真理,具有常、乐和我的条件,那才是幸福的产生之地,然后脱离烦恼 获得自由,这是我们真正的生命,也才是真正的自我。1
5.นึกคิดในเรื่องที่ทำให้ใจสบาย ตามที่พระพุทธเจ้าท่านแนะนำสั่งสอนไว้ ซึ่งมีอยู่ถึง 10 วิธี เรียกว่าอนุสติ 10 คือ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ อุปสมานุสติ มรณานุสติ กายคตาสติ และอานาปานสติ ในที่นี้จะยกมาบางตัวอย่างที่มีการใช้กันมากในการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้า ถึงพระธรรมกาย
5.意念让心舒服的事
按照佛陀的教诲去实践,一共有十种方法,称之为“十念”,分别 为:念佛、念法、念僧、念戒、念施、念天、念息、念安般、念身无常、 念死。为了让我们能够证入法身,在这里将列举几个常会在修行中运用 到的方法。
1.พุทธานุสติ คือการระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าอยู่เนืองๆ โดยยึดเอาคุณของพระพุทธเจ้า เป็นอารมณ์ในการภาวนา
“ ฝึกหัดปรับใจทุกๆ วัน ทุกๆ ครั้งที่เราปฏิบัติ เพราะฉะนั้นตอนนี้ใช้เวลา 1 หรือ 2 นาที ปรับให้ดี ให้สบายๆ ให้ทั้งกาย ทั้งใจปลอดโปร่ง หายใจให้สบายๆ แล้วก็สมมติสร้างบรรยากาศว่า เป็นบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติธรรม โดยเราสมมติเราทุกคนได้เข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า นั่งปฏิบัติธรรมต่อหน้าพระองค์ เฉพาะพระพักตร์ทีเดียว7)
1.念佛就是要常常的去意念佛陀的恩德。也就是用佛陀的恩德作为默念 中的情绪。
在我们每天或者每次的修行中,都要练习去调整心。所以应用一 分钟或两分钟的时间,去调整让身心都轻松、空旷和舒畅,呼吸也很 顺畅,然后,假设营造一种适合于佛法修行的氛围,假设每一个人都 在佛陀的面前禅定一般。
2.จาคานุสติ คือ ระลึกถึงการบริจาคทานของตน ที่เป็นไปโดยบริสุทธิ์อยู่เนืองๆ ในที่นี้ หมายถึง การทำบุญกุศลต่างๆ
“ ต้องนึกถึงเรื่องที่ทำให้สบาย อย่างเช่นในตอนนี้ เราได้ผ่านวันมาฆบูชามหาสมาคมกันมา นับถึงวันนี้ก็ 9 วัน 10 วันเต็ม เหตุการณ์ที่ผ่านไปวันนั้น ถ้าหากว่าเราเป็นนักสร้างบารมีที่ดี เราก็จะเลือก เก็บเกี่ยวเอาในสิ่งที่จะทำให้เราเกิดความบันเทิงใจ คือนึกถึงแต่ภาพที่เรามีความสุขใจกันตั้งแต่เช้าวันนั้นเรื่อยไปเลยว่า ตอนเช้าเราได้ปฏิบัติธรรม ตอนบ่ายได้ถวายผ้าป่า ตอนเย็นก็หล่อรูปเหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ตอนเย็นวันนั้นก็รวมกันจุดมาฆประทีป บูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสาวก 1,250 รูป ในวันนั้น ให้นึกถึงแต่สิ่งที่ทำให้ใจเราเบิกบาน8)
2.念施就是常常意念到自己纯净的布施。在这里的意思是指各种各样的 功德。
要意念让自己舒服的事,例如,“我们参加的万佛节,已经过了 九至十天。当天的法会,如果说我们是一位努力修波罗蜜的人,那么 我们就应该选择意念让我们产生愉快心情的事情。也就是回忆起那天 从早到晚,所有让我们法喜的画面。从早上的修行,再到下午的供养装裟,最后傍晚时,塑造法身法门发现者--北榄寺祖师帕蒙昆贴牟尼的金像。同时还可以意念到,一起来点灯供佛的信众及一千二百位 的僧人。总之,就应该意念能够让我们心舒畅的事。
3.4.2禅定中调整心方法
在禅定的时间里,除了在日常中调整心,准备好禅定的状态以外。 要是在禅定当中,如果心还是没有做好准备。也一样有方法来调整心, 让心产生舒适的感觉。因此,禅定时的舒适感有两个阶段,分别是:
1.ความสบายเบื้องต้น หมายถึง ความสบายที่เกิดจากความไม่ลำบาก ไม่เกร็ง ไม่ตึง นิ่งๆ เฉยๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เหมือนเดินฝ่าเปลวแดดมานั่งใต้ร่มไม้ ยังไม่ถึงกับสบายเลยทีเดียว ความสบายเบื้องต้นนี้จะเป็นฐานทำให้เกิดความสบายที่แท้จริง คือ หากว่าเราสามารถรักษาอารมณ์นิ่งๆ ให้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ตรงจุด นิ่งๆ เฉยๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ไปได้ จะเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ที่จะทำให้เกิดอาการโล่ง โปร่ง เบา และเกิดความสบายที่แท้จริง
1.初级的舒适感,意为:不用经过艰辛的、紧绷的过程而产生的舒服感 觉。自然地宁静,不乐不苦,就好像步行在烈日之下,刚刚得以坐在 树荫下,获得清凉的舒适感。这种初级的舒适感,是产生真正舒适感 的基础。也就是如果我们能够持续的保持自然宁静,不苦不乐,那么 将会是一个非常重要的转折点,而这个转折点也将会让心产生空旷和 轻巧的状态,从而产生真正的舒适感。
2.ความสบายแท้จริง จะเกิดความชุ่มฉ่ำ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการรักษาอารมณ์สบายเบื้องต้น ให้ต่อเนื่องกัน คืออารมณ์ที่นิ่งๆ เฉยๆ ต่อเนื่องกันไม่เผลอ ในที่สุดก็จะเข้าไปถึงความสบายที่ แท้จริงอีกระดับหนึ่งคือ มีลักษณะอาการที่ใจเริ่มจะขยาย เริ่มจะละเอียดลงไป จะรู้สึกว่าโล่งใจ ร่างกายเหมือนจะโปร่งๆ กลืนกันไปกับธรรมชาติได้ เหมือนเป็นวัตถุที่โปร่งแสง โปร่งใส โปร่งเบา เหมือนฟองสบู่ ฟองแชมพูที่เป่าเล่น อาการโล่งโปร่งเบา นี่เองคือความสบายที่แท้จริง
2.真正的舒适感会起到滋润的效果,是一种持续保持初级舒适感的结果。 要继续保持自然宁静的情绪且不疏忽,最后进入到另一层真正的舒适 感。那一层舒适的状态特征,好像心开始扩大、精细,也将感觉到心 很宽广,身体也好像变得很空旷,与大自然融合为一体。这就好像透 明与轻柔的肥皂泡或洗发水泡,一切都是空旷的,而这就是真正的舒 适感。
วิธีการที่ใช้ในการปรับใจนี้มีหลายวิธี ซึ่งผู้ปฏิบัติสามารถเลือกมาใช้ให้เหมาะสมกับจริตอัธยาศัย ของตน คือ
1.ทำใจให้ว่างๆ ให้นิ่งๆ ให้เฉยๆ ปลดปล่อยวางจากภารกิจ วิธีนี้เป็นวิธีลัดและเร็วที่สุดในการปรับใจ ดังตัวอย่าง
调整心的方法有许多种,因此,修行的人可以按照自己的性格选择 适合自己的方法:
1.让心空白、自然、宁静,放下所有的包袱,这种方法是调整心最快的 捷径,例子如下:
ตัวอย่างที่ 1 ใจที่เหมาะต่อการเข้าถึงธรรมนั้น จะต้องเป็นใจที่ปลอดโปร่ง ว่างเปล่าจากภารกิจทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเล่าเรียน ธุรกิจการงาน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไรทั้งหมดในโลกนี้ ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วางไว้ชั่วขณะ ทำประหนึ่งว่าเราอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีภารกิจเครื่องกังวลใจ แล้วก็ทำใจให้เบิกบาน แช่มชื่น สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส1)
例子一,适合证入佛法的心,一定是舒畅及卸下各种包袱的心。不管是 学业、工作、家庭或任何事情,都应该立即放下、释放出来。 就仿佛世界上只有我们一个人而已,没有任何的事情来让我们 牵挂。让心产生舒畅、愉快、透明、纯净、明亮的状态。1
ตัวอย่างที่ 2 ให้ทำใจของเราประหนึ่งว่าเราอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีภารกิจ ไม่มีเครื่องกังวลใจ ทำความรู้สึกว่า เราตายแล้วจากสิ่งเหล่านั้น ขณะนี้เราอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีภารกิจเครื่องกังวลใจอะไรทั้งสิ้น มีแต่กายและใจเท่านั้น ที่เราจะอาศัยประพฤติปฏิบัติ ทำใจหยุดนิ่งให้เข้าถึงธรรมกายภายใน เรามีสมบัติแค่ 2 สิ่งนี้เท่านั้น มีกายแล้วก็ใจ สองสิ่งนี้เท่านั้น ให้ลืมสิ่งแวดล้อมที่อยู่ข้างตัวของเราให้หมด ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็เอาใจหยุดนิ่งไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
例子二,让我们的心感觉好像世界上,只有我们一个人存在而已。没有 任何的包袱,了无牵挂,感觉自己对所有的事情都已经没有了 任何的感应。现在我们自己一个人处在这个世界上,没有任何 的东西来让我们的心牵挂,剩下的只有用来修行的身与心而已。 要想让心宁静的证入内在的法身,我们只有两件法宝,那就是 身与心。忘记我们身体周围的环境,忘记所有的一切,然后将 心安放在身体中心第七点。
ถึงแม้ว่าการทำเฉยๆ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่คนทั่วไปไม่คุ้นกับการไม่คิดอะไร ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีการ คิดเรื่องต่างๆ เช่นธรรมชาติ บทของธรรมะ หรือเรื่องอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้ใจสบาย
虽然自然的宁静是最好的方法,但一般人却无法不去想任何的事情。 因此,就采用意念各式各样的方法,例如大自然、佛法文章或各种事情, 来让心舒服起来。
2.นึกถึงธรรมชาติ เช่น ภูเขา น้ำตก ทะเล ที่ทำให้อารมณ์รู้สึกสบายปลอดโปร่ง มีอารมณ์ที่ อยากจะนั่งทำภาวนา ดังตัวอย่าง
“ ทำประหนึ่งว่าเราไม่เคยมีความคิดมาก่อน ไม่เคยเจอะเจอกับเหตุการณ์เหล่านั้นมาก่อน คล้ายกับเราอยู่คนเดียวในโลก ทำความรู้สึกอย่างนี้ให้ได้ซักหนึ่งหรือสองนาที ให้มีความรู้สึกว่า เราอยู่คนเดียวในโลกอย่างสบายๆ แล้วให้ลืมสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างเรา อากาศจะอบอ้าวก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ นึกว่าเรานั่งอยู่บนยอดเขาสูงๆ ที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ มีลมพัดเย็นสบาย แทนที่เราจะนึกว่าอากาศอบอ้าว เราก็คิดว่าเรานั่งอยู่ในที่สูงบนภูเขาสูงๆ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย ที่นั่งที่มันไม่นุ่มนวล เราก็นึกว่านั่งอยู่บนพรมที่สบายๆ ที่ให้คิดอย่างนี้เพื่อให้จิตใจปลอดโปร่งสบาย ไม่วิตก ไม่กังวลเรื่องราวอะไรทั้งสิ้น ใจเราจะได้แน่วแน่สู่เส้นทางสายกลางที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว2)
2.意念大自然,例如,山川、瀑布和大海,让我们的心情感觉到舒畅, 有想修习禅定的情绪,如下:
似乎我们之前未曾有过的想法,也不曾遇到过这样的事情,就是意 念自己仿佛一个人处在这个世界中,让这样的感觉维持一分钟或两分钟。
让自己感觉真的如同一个人舒服的处在这世界里,然后忘记自己周围的 环境,就算天气闷热也没关系,不要去在意它,想象我们坐在高高的山 顶上,有清新的空气,有微风拂来,凉爽而舒服,让它代替那种闷热的 天气。我们就想象自己坐在高高的山顶上,有优美的风景,天气很凉爽。 如果禅定的位置不柔软,那么我们就想象自己是坐在舒服的毛毯上,让 心感到轻松舒畅,而不去在意和牵挂其他的事情。如此,我们的心才会 坚定不移的静止在身体的中心点,也才能证入内在的三宝。1
3.แผ่เมตตา จะทำให้ใจของเราขยาย เบิกบาน และยังเหมาะสำหรับคนที่มักหงุดหงิด โกรธง่าย และมักมีอารมณ์ค้างเกี่ยวกับเรื่องความไม่พอใจในคน สัตว์ สิ่งของที่อยู่รอบตัว แล้วนำมาคิดต่อในขณะทำสมาธิ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
3.散发慈悲心会让我们的心扩大、舒畅。同时这种方法还适用于容易暴 躁,以及常常对人、动物和家庭感到不满意的人,然后将散发慈悲心 运用到禅定中,如下:
ตัวอย่างที่ 1 ทำใจให้เป็นกุศล บริสุทธิ์ ผ่องใส มีความรัก มีความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย และผู้ที่เป็นที่รักของเรา ตั้งแต่รักมาก รักปานกลาง รักน้อยๆ เฉยๆ ไม่ถึงกับเกลียด กระทั่งถึงผู้ที่เราเคยขุ่นมัว เคยขัดเคือง เราจะต้องมีความรู้สึกอย่างนี้กับคนที่เคยทำให้เรา ไม่สบายใจ ช้ำอกช้ำใจ ว่าฉันจะลืมเธอซะ ลืมเรื่องที่เธอเคยทำกับฉันเอาไว้ แล้วยังไม่พอ และขอให้เธอ มีความสุขด้วย ขอให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้านเลย ชีวิตเธอมีความสุข ครอบครัวเธอมีความสุข การงานเธอสำเร็จ สำเร็จทุกอย่างไปเลยแล้วยังไม่พอ จะต้องให้ความรักแก่ตัวของเราเอง โดยความรักที่ยิ่งใหญ่ คือรักตัวเรา รักตัวเรารักอย่างไร อย่าทำร้ายตัวของเรา ด้วยการนำสิ่งที่ทำให้ใจเราร้อน เราเศร้า เป็นทุกข์ ไม่สบายใจ จนกระทั่งท้อ หมดแรงที่จะสร้างความดีต่อไป จะต้องไม่มีอย่างนี้ด้วย3)
例子一,让我们的心拥有善德、纯净和光亮,对众生、事物以及我们所 爱的人,甚至那些曾经让我们糊涂与恼怒的人,拥有仁爱与善 意的期望,而不至于达到憎恨的地步。我们要对那些曾经让我 们不开心和痛心的人,感觉到自己将会忘记对方曾经做过的不 良之事。除此还不够,我们还希望对方得到幸福,祝福对方在 生活的各个方面都能够取得成功。对方的生命会幸福,家人会 幸福,事业也会成功。除了每一件事都会取得成功以外,还应 给予自己关爱,而最伟大的爱就是爱自身。如何去爱自己呢? 就是不要拿不好的事情来伤害自己,不要感到痛苦与忧伤,不 要对修善行感到气馁。2
ตัวอย่างที่ 2 แผ่เมตตาจิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย แผ่เมตตาจิตโดยนึกเบาๆ ให้สบายๆ ว่าขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่ไม่มีประมาณเหล่านั้น พ้นจากทุกข์โศกโรคภัย ให้พบแต่ความสุขกาย สุขใจ มีความสุขทั้งนั่ง ทั้งนอน ทั้งยืน ทั้งเดิน ทั้งหลับ ทั้งตื่นตลอดวัน ตลอดคืน ตลอดเวลาเลย ที่มีทุกข์ก็ให้พ้นทุกข์ ที่มีสุขแล้วก็ให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป นึกอย่างสบายๆ แผ่ไปให้หมด นึกให้กระแสแห่งความเมตตาของเรา ความปรารถนาดีของเรา เป็นแสงสว่างออกจากร่างกาย ออกจากใจของเรา ประหนึ่งว่าตัวเราเป็นศูนย์กลางของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย แผ่ออกไปเป็นแสงสว่างใหม่ๆ อาจจะเป็นความรู้สึกว่ามีแสงสว่างออกจากภายในกลางกายของเรา แล้วแผ่ขยายไปให้ทั่ว แต่ถ้าใครทำเป็นแล้วมันจะเป็นแสงสว่างจริงๆ ที่เราเห็นแจ้งด้วยใจของเรา เป็นแสงที่ละเอียดอ่อนนุ่มนวล เป็นพลังมวลแห่งความบริสุทธิ์ ประดุจแสงสว่างแห่งพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ แต่ว่ากระจ่างแจ่มจ้าเหมือนอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน คือ สว่างประดุจดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน แต่ว่าเย็นเหมือนแสงจันทร์นำความชุ่มชื่นเบิกบานให้เกิดขึ้นแก่สรรพสัตว์ สรรพสิ่งทั้งหลาย ให้นึกแผ่ไปแล้วก็ทำใจให้นิ่งๆ โล่งๆ ว่างๆ ใจจะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับพระรัตนตรัย แผ่ไปอย่างนี้ สักหนึ่ง หรือสองนาที4)
例子二,对众生散发圆满的慈悲心,同时伴随着善意的期望。散发慈悲 心时要轻轻的、舒服的意念,并默念:愿所有的众生离苦得乐。 无论是坐、卧、立、行、睡、醒,都一直拥有幸福。遇到痛苦 就远离痛苦,遇到幸福就会更加幸福,如此轻松舒服的意念, 不断地散发出去。意念让我们的慈悲心和美好愿望成为光亮, 并从体内的心中点散发出来。感觉似乎我们自身就是众生和万 物的中心,散放出光亮。刚开始可能会感觉到光亮是从我们的 身体中心散发出来,然后扩大到全世界。但是如果谁已经证入 法身,那么他将能看见真正的光亮。用自己的心看光亮,那是 细腻柔和的光,汇集着纯净的能源,好像月圆之夜皎洁的月亮, 但散发的光芒却有如正午的太阳。但夜晚时又好像月光一般, 滋润众生与万物。意念将光芒散发出去,然后让心变得宁静与 空旷,如此才
4.นึกถึงความจริงของสรรพสิ่งว่าตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ จะทำให้ใจของเราปลอดโปร่ง ตัดเครื่องผูกพันในใจให้หมดสิ้นไป
4.从三法印的法则中意念万物的真实性,这会让我们的心舒畅,而心中
的一切眷恋都将消除。
ตัวอย่างที่ 1 นึกถึงความจริงของสรรพสิ่งทั้งหลาย ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนเอาไว้ว่า สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งมวล จะเป็นสิ่งมีชีวิตก็ตามหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ท่านใช้คำว่าสังขารที่มีวิญญาณครอง หรือไม่มีวิญญาณครองก็ตาม ทุกสิ่งในโลกนี้จะเป็นคนเป็นสัตว์เป็นสิ่งของทั้งหมด ต้นไม้ ภูเขา บ้านเรือน โลกของเรา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวในอากาศ ผู้คนทั้งหมด พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติ สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งมวลเหล่านี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลายไป เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน เพราะว่าไม่คงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าเป็นตัวตนจริงๆ เป็นสาระเป็นแก่นสารจริงๆ แล้ว ต้องคงที่ ต้องไม่เปลี่ยนแปลง หรือถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็ดีขึ้นไป ยิ่งเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งดีขึ้นไปตามลำดับ เหมือนเพชรยิ่งแก่ยิ่งแข็ง เหมือนธรรมยิ่งสุขยิ่งใสยิ่งสว่างอย่างนั้น แต่ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งมวลไม่เป็นอย่างนั้น มันเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมสลายอยู่ตลอดเวลา
例子一,对于意念万物的真实性,佛陀曾经告诫说:万物,无论是有生 命的,还是没有生命的,都可用“有情与无情”的专有名词来 代替。世界上的万物无非是人、动物及物品,包括有树木、山 川、房子、太阳、月亮、星星,爸爸、妈妈、爷爷、奶奶、外 公、外婆,以及所有的众生。它们都是先产生,然后存在,最 后在慢慢的消逝,如此不断地变化,而无法永久的存在,是痛 苦,是非我。如果是真正的人身,有真正的正念与实体,就一 定是固定而不会改变。或如果改变也会变得更好,越是改变就 越会按照等级而变得更好。就像钻石越老越坚硬,也像佛法, 越快乐就越透明与光亮。但是,各种事物并非如此,他们会一 直不断的衰落消逝。
ให้เราคิดอย่างนี้สักหนึ่งหรือสองนาทีก่อนที่เราจะปฏิบัติธรรม พิจารณาในสิ่งทั้งหลายทั้งมวล แม้กระทั่งร่างกายที่เราอาศัยนั่งปฏิบัติธรรมอยู่นี้ ก็มีสภาพเช่นเดียวกัน คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เคลื่อนออกมาจากครรภ์มารดา เปลี่ยนแปลง เรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้ แล้วก็จะเปลี่ยนแปลงต่อไปจนกระทั่งไปสู่เชิงตะกอน เปลี่ยนกันไปอย่างนี้ หนึ่งหรือสองนาทีที่เราพิจารณาในสิ่งเหล่านี้ก่อนการฝึกใจให้หยุดให้นิ่ง จะช่วยให้ใจเราปลอดกังวล จะไม่ ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง เพราะว่าเราพิจารณาให้เห็นไปตามความเป็นจริง การพิจารณาอย่างนี้จะได้ใจที่ปลอดโปร่ง เป็นใจที่เหมาะต่อการปฏิบัติธรรม และไม่ช้าจะเข้าถึงธรรมะได้5)
在我们佛法修行前,让我们如此的意念一两分钟。观察世间万物, 即使是我们的身体,也是一样的现象。就是先产生、然后存在,最后消 逝,无常、苦和非我。先在母亲的腹中,再从母亲的腹中出来,然后不 断地变化,一直到最后的死亡。如此不断地变化,在练习心宁静前的一 两分钟,我们对万物如此的审定,将会帮助我们的心远离担忧,而不会
1法胜法师领导打坐(1993年5月2日) 对万物有任何的牵挂。因为我们是如实知见去审定,这样的审定将会让 心舒畅起来,从而适合去佛法修行,直至证入佛法。1
ตัวอย่างที่ 2 “ ก่อนที่เราจะปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย เราต้องทำใจของเรานี่ให้ปลอด กังวล ไม่ติดในคน สัตว์ สิ่งของ โดยพิจารณาด้วยปัญญาบริสุทธิ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนเอาไว้และที่ เป็นสัจธรรม คือเป็นความจริงว่าสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนมีการเปลี่ยนแปลงเป็น ปกติ ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ มีเชื้อแห่งความทุกข์ เป็นบ่อเกิด เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความทุกข์ เพราะความไม่เที่ยงนั้นยังไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีสาระแก่นสาร เป็นเพียงแค่เครื่องอาศัยชั่วคราวเท่านั้น จะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต มีวิญญาณครอง หรือว่าไม่มีวิญญาณครอง ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ชั่วคราว เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บังคับบัญชาก็ไม่ได้ อย่าดูอื่นไกล ดูของที่อยู่ในตัวเรา ตั้งแต่เส้นผมบนศีรษะ จะให้มันสวยมันงาม เหมือนเราอยู่ในวัยเจริญ ไม่ให้เปลี่ยนแปลง ไม่ให้มันเปลี่ยนสี ไม่ให้มันหลุดร่วง ให้มันสวยงาม คงอยู่ดั้งเดิมเหมือนวัยเจริญ มันก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และในที่สุดก็หลุดร่วงไป ฟันในปากก็ดี ในทำนองเดียวกัน ดวงตาก็ดี แต่เดิมนั้นก็ดูสดใส สดสวย ดูอะไรก็ชัดเจน ตอนหลังก็เปลี่ยนแปลงไปสู่ความไม่ชัดเจน เป็นฝ้าเป็นฟางดูแล้วไม่สวยงาม ผิวพรรณวรรณะแต่เดิมก็เต่งตึง ตอนหลังก็เหี่ยวย่น เราเห็นสัจธรรมตรงนี้ว่ามันตกอยู่ในไตรลักษณ์ อยู่ในสภาวะที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จึงเป็นเพียงแค่เครื่องอาศัย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะยึดมั่นถือมั่นว่านี่คือสาระ คือแก่นสาร คือของจริงของแท้
例子二,在修行禅定前,我们要让自己的心远离担忧,不会牵挂于任何 人、动物和物品。用纯洁的智慧去思考佛陀开示的教诲与真理, 认识其实众生与万物的变化都是自然普遍的。无法保存原来的 状态,那是苦之地,也是苦之因,因为无常还不是真正的形体, 而是一个没有实质的真理,只是一个暂时寄居的东西而已。人、 动物、物品,有生命或没有生命,有灵魂或者没有灵魂,都只 是暂时的而已,它会不停地变化,不能去强求。不用去看太远, 就看我们自身就好,例如头顶上的头发,想让它一直如年轻时 般乌黑漂亮,不想让它改变颜色,不想让它脱落,而让它亮丽 依然。但它还是会不停地变化,到最后就会脱落下来。眼睛也 一样,原先非常的明亮有神,看什么都很清晰,到了最后还是 变成看什么都模糊不清,看起来也不再炯炯有神。皮肤先前非 常的光滑,但到最后还是会萎缩。我们看到的这些真理,就处 在三法印的无常、苦、非我中。万物只是一个寄居的工具,因 此,我们不应该坚信那些是真正的实质,而只有涅槃才是真正 的真理。
เมื่อเรารู้ว่ามันเป็นเพียงแค่อาศัยและมีคุณสมบัติดังกล่าว ของอยู่ในตัวเราก็ดี เสื้อผ้า ปากกา แว่นตา ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไปสู่จุดสลายทั้งสิ้น เสื้อผ้าแต่เดิมก็มาจากต้นไม้ มาจากดิน มาจากต้นไม้ จากต้นไม้ก็มาสู่โรงงาน จากโรงงานก็มาสู่ร้านค้า จากร้านค้าก็มาสู่ตัวเรา จากตัวเราอยู่ไปนานๆ เข้า เกิดการเปลี่ยนแปลงชำรุดก็ลงไปสู่ที่พื้นบ้าน ไปเป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้าบ้าง เช็ดโน่นเช็ดนี่อะไรต่างๆ แล้วในที่สุดก็ลงไปสู่ถังขยะ จากถังขยะก็แปรสภาพออกไปสู่ดิน แยกย้ายสลายกันไป ไปสู่จุดสลายทั้งสิ้น
当我们知道一切都只是寄居,以及具有如上所述的条件。那么我们 身上的东西,无论是衣服、笔、眼镜以及每一样东西,都在不停地变化, 到最后也都会衰灭。衣服最开始的原料来自于树木,而树木来自于土地, 当树木进入工厂,再从工厂转到商店,又从商店又转到我们身上,然后 在我们身上穿了很久之后,破烂又就来当抹布,擦各种各样的东西,最 后被丢进垃圾桶,然后再由垃圾桶被丢到大地上,最后被大地给分解。
ปากกา แว่นตา อะไรต่างๆ ทรัพย์สินเงินทอง จะเป็นตึกรามบ้านช่อง รถราอะไรต่างๆ ต้องย้อน กลับไปสู่จุดสลายทั้งหมด มันมา มันอยู่ แล้วมันก็ไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วเสื่อมสลาย เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้ ใจเราจะได้เบาสบาย ปลอดกังวล เสื้อเรา แต่ไม่ใช่เสื้อของเรา ร่างกายเราแต่ไม่ใช่ร่างกายของเรา บ้านเราแต่ก็ไม่ใช่บ้านของเรา เพราะฉะนั้นเราจะบังคับบัญชาอะไรให้ได้ดังใจปรารถนาของเรามัน เป็นไปไม่ได้ นึกคิดก็ทุกข์เปล่า
笔、眼镜、财宝、楼房、车辆等东西,最后也都会被分解而消失。 它们生来、然后存在,最后消逝。产生、存在,然后就会消逝。当我们 对这些有所了解了之后,我们的心就会轻松舒服起来,以及远离担忧。 我们的衣服,但不是我们的衣服,我们的身体,但不是我们的身体,我 们的家,但不是我们的家。因此我们勉强的去梦想那些不可能达到的愿 望,那么也是白白痛苦。
พอเราคิดอย่างนี้เข้าใจ ก็จะได้ปลอดโปร่ง สบาย เมื่อเราเห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้เพื่อให้มองมุมกลับตรงกันข้ามว่า เมื่อเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เป็นสาระแก่นสาร เราก็ควรจะมุ่งแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระแก่นสาร ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอมตะ เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุขแล้วก็เป็นอิสระจากกิเลส เป็นชีวิตที่แท้จริงของเรา เป็นตัวจริงของเรา6)
万物都是无常性、苦性和无尽性,当我们能如此想,心就会舒畅开 朗起来。佛陀如此教导我们,是为了让我们换个角度来看问题,当我们 处在的环境是无常、苦和无我时,不是实质的真理。我们应追求实质的 真理,具有常、乐和我的条件,那才是幸福的产生之地,然后脱离烦恼 获得自由,这是我们真正的生命,也才是真正的自我。1
5.นึกคิดในเรื่องที่ทำให้ใจสบาย ตามที่พระพุทธเจ้าท่านแนะนำสั่งสอนไว้ ซึ่งมีอยู่ถึง 10 วิธี เรียกว่าอนุสติ 10 คือ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ อุปสมานุสติ มรณานุสติ กายคตาสติ และอานาปานสติ ในที่นี้จะยกมาบางตัวอย่างที่มีการใช้กันมากในการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้า ถึงพระธรรมกาย
5.意念让心舒服的事
按照佛陀的教诲去实践,一共有十种方法,称之为“十念”,分别 为:念佛、念法、念僧、念戒、念施、念天、念息、念安般、念身无常、 念死。为了让我们能够证入法身,在这里将列举几个常会在修行中运用 到的方法。
1.พุทธานุสติ คือการระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าอยู่เนืองๆ โดยยึดเอาคุณของพระพุทธเจ้า เป็นอารมณ์ในการภาวนา
“ ฝึกหัดปรับใจทุกๆ วัน ทุกๆ ครั้งที่เราปฏิบัติ เพราะฉะนั้นตอนนี้ใช้เวลา 1 หรือ 2 นาที ปรับให้ดี ให้สบายๆ ให้ทั้งกาย ทั้งใจปลอดโปร่ง หายใจให้สบายๆ แล้วก็สมมติสร้างบรรยากาศว่า เป็นบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติธรรม โดยเราสมมติเราทุกคนได้เข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า นั่งปฏิบัติธรรมต่อหน้าพระองค์ เฉพาะพระพักตร์ทีเดียว7)
1.念佛就是要常常的去意念佛陀的恩德。也就是用佛陀的恩德作为默念 中的情绪。
在我们每天或者每次的修行中,都要练习去调整心。所以应用一 分钟或两分钟的时间,去调整让身心都轻松、空旷和舒畅,呼吸也很 顺畅,然后,假设营造一种适合于佛法修行的氛围,假设每一个人都 在佛陀的面前禅定一般。
2.จาคานุสติ คือ ระลึกถึงการบริจาคทานของตน ที่เป็นไปโดยบริสุทธิ์อยู่เนืองๆ ในที่นี้ หมายถึง การทำบุญกุศลต่างๆ
“ ต้องนึกถึงเรื่องที่ทำให้สบาย อย่างเช่นในตอนนี้ เราได้ผ่านวันมาฆบูชามหาสมาคมกันมา นับถึงวันนี้ก็ 9 วัน 10 วันเต็ม เหตุการณ์ที่ผ่านไปวันนั้น ถ้าหากว่าเราเป็นนักสร้างบารมีที่ดี เราก็จะเลือก เก็บเกี่ยวเอาในสิ่งที่จะทำให้เราเกิดความบันเทิงใจ คือนึกถึงแต่ภาพที่เรามีความสุขใจกันตั้งแต่เช้าวันนั้นเรื่อยไปเลยว่า ตอนเช้าเราได้ปฏิบัติธรรม ตอนบ่ายได้ถวายผ้าป่า ตอนเย็นก็หล่อรูปเหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ตอนเย็นวันนั้นก็รวมกันจุดมาฆประทีป บูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสาวก 1,250 รูป ในวันนั้น ให้นึกถึงแต่สิ่งที่ทำให้ใจเราเบิกบาน8)
2.念施就是常常意念到自己纯净的布施。在这里的意思是指各种各样的 功德。
要意念让自己舒服的事,例如,“我们参加的万佛节,已经过了 九至十天。当天的法会,如果说我们是一位努力修波罗蜜的人,那么 我们就应该选择意念让我们产生愉快心情的事情。也就是回忆起那天 从早到晚,所有让我们法喜的画面。从早上的修行,再到下午的供养装裟,最后傍晚时,塑造法身法门发现者--北榄寺祖师帕蒙昆贴牟尼的金像。同时还可以意念到,一起来点灯供佛的信众及一千二百位 的僧人。总之,就应该意念能够让我们心舒畅的事。
3.5 การปรับใจตามแนวทางของคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
เป็นนักปฏิบัติธรรมที่ปฏิบัติธรรมได้ดี
สามารถฝึกใจจนใจเป็นสมาธิในทุกอิริยาบถ ไม่จำกัดด้วยเวลา โอกาสและสถานที่
และท่านได้รับผลแห่งการฝึกปฏิบัติสมาธิอย่างดีเยี่ยม
ถือเป็นต้นแบบของนักปฏิบัติธรรม
ในที่นี้จึงขอยกตัวอย่างแนวทางในการปรับใจตามที่คุณยายแนะนำ
3.5 按照詹孔诺雍老奶奶师父的指导方法调整心
詹孔诺雍老奶奶师父是一位在佛法修行方面取得优异成果的修行 者。无论何时及身处何处,她都能够用各种姿势来修心,并让心处于宁 静的状态。奶奶在修行禅定所取得的优异成就,被看作是修行者的好榜 样。接下来将介绍老奶奶在调整心方面的方式:
1.เวลาเข้าที่ นั่งธรรมะแล้ว เรื่องทุกอย่างต้องทิ้งให้หมด มีธรรมะอย่างเดียว เรื่องอื่นพักไว้ก่อน ต้องตั้งเข็มทิศให้ตรงว่า นั่งธรรมะจะมาเอาธรรมะเรื่องอื่นไม่เอา
1.当开始禅定之后,任何事情都要放下,一心系着修行,其他的事情都 先放在一边。要明确一个目标,若是真心来修行,就应取得修行经验, 其他的都不要
2.การปรับใจจะปรับเฉพาะในรอบนั่งไม่ได้ ต้องปรับใจนอกรอบด้วย คือต้องพยายามนึกถึงธรรมะ ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะนั่งนอนยืนเดิน ต้องตรึกบ่อยๆ ทุกเวลา เมื่อถึงเวลานั่งธรรมะจริงๆ ก็จะไปได้อย่างรวดเร็ว
2.调整心不只是在禅定时才去做,而在禅定以外的时间也应该调整心。 即是要努力意念到修行以及每个姿势。无论是要行、坐、卧、立,都 应经常地思考,而当到了真正要修行的时候,就能够很快的进入状态。
3.ธรรมะเป็นของเยือกเย็น จะเข้าถึงธรรมะได้ต้องทำด้วยใจที่เยือกเย็น ห้ามบังคับหรือใช้กำลังต้องใจเย็นๆ อย่างเดียว ทำใจให้อารมณ์ดี อารมณ์สบาย ห้ามนั่งด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหโทโส หรือนั่งด้วยความอยากเห็นโดยเด็ดขาด ต้องนั่งด้วยใจเย็นๆ
3.佛法修行是一件心平气和的事,要想证入内在法身,就得心平气和。 不要强迫或用力让心宁静下来,那些都只能慢慢来,让心拥有好的情 绪,禁止以暴躁恼火的情绪去修行,或以想看见光球的心态去修行, 这样将适得其反,一定要以放松及冷静的心态去修行。
3.5 按照詹孔诺雍老奶奶师父的指导方法调整心
詹孔诺雍老奶奶师父是一位在佛法修行方面取得优异成果的修行 者。无论何时及身处何处,她都能够用各种姿势来修心,并让心处于宁 静的状态。奶奶在修行禅定所取得的优异成就,被看作是修行者的好榜 样。接下来将介绍老奶奶在调整心方面的方式:
1.เวลาเข้าที่ นั่งธรรมะแล้ว เรื่องทุกอย่างต้องทิ้งให้หมด มีธรรมะอย่างเดียว เรื่องอื่นพักไว้ก่อน ต้องตั้งเข็มทิศให้ตรงว่า นั่งธรรมะจะมาเอาธรรมะเรื่องอื่นไม่เอา
1.当开始禅定之后,任何事情都要放下,一心系着修行,其他的事情都 先放在一边。要明确一个目标,若是真心来修行,就应取得修行经验, 其他的都不要
2.การปรับใจจะปรับเฉพาะในรอบนั่งไม่ได้ ต้องปรับใจนอกรอบด้วย คือต้องพยายามนึกถึงธรรมะ ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะนั่งนอนยืนเดิน ต้องตรึกบ่อยๆ ทุกเวลา เมื่อถึงเวลานั่งธรรมะจริงๆ ก็จะไปได้อย่างรวดเร็ว
2.调整心不只是在禅定时才去做,而在禅定以外的时间也应该调整心。 即是要努力意念到修行以及每个姿势。无论是要行、坐、卧、立,都 应经常地思考,而当到了真正要修行的时候,就能够很快的进入状态。
3.ธรรมะเป็นของเยือกเย็น จะเข้าถึงธรรมะได้ต้องทำด้วยใจที่เยือกเย็น ห้ามบังคับหรือใช้กำลังต้องใจเย็นๆ อย่างเดียว ทำใจให้อารมณ์ดี อารมณ์สบาย ห้ามนั่งด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหโทโส หรือนั่งด้วยความอยากเห็นโดยเด็ดขาด ต้องนั่งด้วยใจเย็นๆ
3.佛法修行是一件心平气和的事,要想证入内在法身,就得心平气和。 不要强迫或用力让心宁静下来,那些都只能慢慢来,让心拥有好的情 绪,禁止以暴躁恼火的情绪去修行,或以想看见光球的心态去修行, 这样将适得其反,一定要以放松及冷静的心态去修行。
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)